ประธานอนุกรรมการมารยาทสภาพทนายความ เตรียมประชุมลงมติถอนชื่อ 3 ทนายแม้ว ออกจากระบบบัญชีผู้ประกอบวิชาชีพทนายความ สัปดาห์หน้า บทลงโทษสุดเบาว่าความไม่ได้ 5 ปี ชี้ “พิชิฏ” รู้ตัวเองดีมีโทษสถานใด เผย จำคุกทนายติดสินบนไม่เกิดขึ้นมานานหลายสิบปี
วันนี้ (26 มิ.ย.) นายสิทธิโชค ศรีเจริญ ประธานอนุกรรมการมารยาทสภาพทนายความ กล่าวถึงการพิจารณาลงโทษ นายพิชิฏ ชื่นบาน ทนายความ พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน น.ส.ศุภศรี ศรีสวัสดิ์ เสมียนทนายและทนายความฝึกหัด และ นายธนา ตันศิริ ผู้ติดตาม พ.ต.ท.ทักษิณ และญาติคุณหญิงพจมาน ที่ศาลฎีกามีคำสั่งให้จำคุกคนละ 6 เดือน ฐานละเมิดอำนาจศาลหรือประพฤติตนไม่เรียบร้อยภายในบริเวณศาล ว่า ได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่ธุรการศาลฎีกาเพื่อขอคัดคำพิพากษาศาลฎีกานำมาพิจารณาประกอบการลงโทษ แต่เจ้าหน้าที่แจ้งว่าคำพิพากษาฉบับสมบูรณ์ยังพิมพ์ไม่เสร็จ คาดว่า ต้นสัปดาห์หน้าจึงจะเรียบร้อย ซึ่งถ้าหากได้รับสำเนาคำพิพากษาแล้วในวันรุ่งขึ้นจะเรียกประชุมคณะกรรมการมารยาทสภาทนายความทั้ง 15 คน ถ้าหากเสียงข้างมากเกินกึ่งหนึ่ง ก็จะมีมติเสนอให้ คณะกรรมการสภาทนายความถอนชื่อทั้ง 3 คนจากบัญชีผู้ประกอบวิชาชีพทนายความ ทำให้ไม่สามารถว่าความได้เป็นเวลา 5 ปี ตาม ม.69 พ.ร.บ.สภาทนายความ ที่ระบุว่า กรณีที่ทนายความต้องคำพิพากษาศาลถึงที่สุดให้จำคุก ไม่ใช่คดีหมิ่นประมาทหรือคดีลหุโทษ ให้ศาลแจ้งสภาทนายความเสนอให้กรรมการมารยาทประชุมเพื่อมีมติถอนชื่อ
“ทนายความทุกคนรู้ดีอยู่แล้วว่าติดสินบนไม่ได้ เป็นเรื่องร้ายแรง นายพิชิฏ เองก็รู้มีโทษสถานเดียว คือ ลบชื่อออกจากบัญชีทนายความ ไม่มีโทษอื่น คดีละเมิดส่วนใหญ่เป็นเรื่องเล็กน้อย เช่น อารมณ์เสีย พูดจาเสียดสี ส่วนใหญ่ศาลจะให้ถอนคำพูดและตักเตือน ซึ่งเป็นเรื่องเล็กน้อยไม่รุ่นแรง แต่คดีละเมิดโดยการติดสินบนและศาลพิพากษาจำคุกทนายความเป็นเรื่องใหญ่ ไม่เคยเกิดขึ้นมานานหลายสิบปีแล้ว” นายสิทธิโชค กล่าว
นายสิทธิโชค กล่าวต่อว่า เรื่องนี้คณะกรรมการมารยาทจะประชุมให้เร็วที่สุด เพราะเป็นเรื่องสำคัญที่ประชาชนต้องการความชัดเจน ซึ่งยืนยันจะทำอย่างเต็มที่
วันนี้ (26 มิ.ย.) นายสิทธิโชค ศรีเจริญ ประธานอนุกรรมการมารยาทสภาพทนายความ กล่าวถึงการพิจารณาลงโทษ นายพิชิฏ ชื่นบาน ทนายความ พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน น.ส.ศุภศรี ศรีสวัสดิ์ เสมียนทนายและทนายความฝึกหัด และ นายธนา ตันศิริ ผู้ติดตาม พ.ต.ท.ทักษิณ และญาติคุณหญิงพจมาน ที่ศาลฎีกามีคำสั่งให้จำคุกคนละ 6 เดือน ฐานละเมิดอำนาจศาลหรือประพฤติตนไม่เรียบร้อยภายในบริเวณศาล ว่า ได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่ธุรการศาลฎีกาเพื่อขอคัดคำพิพากษาศาลฎีกานำมาพิจารณาประกอบการลงโทษ แต่เจ้าหน้าที่แจ้งว่าคำพิพากษาฉบับสมบูรณ์ยังพิมพ์ไม่เสร็จ คาดว่า ต้นสัปดาห์หน้าจึงจะเรียบร้อย ซึ่งถ้าหากได้รับสำเนาคำพิพากษาแล้วในวันรุ่งขึ้นจะเรียกประชุมคณะกรรมการมารยาทสภาทนายความทั้ง 15 คน ถ้าหากเสียงข้างมากเกินกึ่งหนึ่ง ก็จะมีมติเสนอให้ คณะกรรมการสภาทนายความถอนชื่อทั้ง 3 คนจากบัญชีผู้ประกอบวิชาชีพทนายความ ทำให้ไม่สามารถว่าความได้เป็นเวลา 5 ปี ตาม ม.69 พ.ร.บ.สภาทนายความ ที่ระบุว่า กรณีที่ทนายความต้องคำพิพากษาศาลถึงที่สุดให้จำคุก ไม่ใช่คดีหมิ่นประมาทหรือคดีลหุโทษ ให้ศาลแจ้งสภาทนายความเสนอให้กรรมการมารยาทประชุมเพื่อมีมติถอนชื่อ
“ทนายความทุกคนรู้ดีอยู่แล้วว่าติดสินบนไม่ได้ เป็นเรื่องร้ายแรง นายพิชิฏ เองก็รู้มีโทษสถานเดียว คือ ลบชื่อออกจากบัญชีทนายความ ไม่มีโทษอื่น คดีละเมิดส่วนใหญ่เป็นเรื่องเล็กน้อย เช่น อารมณ์เสีย พูดจาเสียดสี ส่วนใหญ่ศาลจะให้ถอนคำพูดและตักเตือน ซึ่งเป็นเรื่องเล็กน้อยไม่รุ่นแรง แต่คดีละเมิดโดยการติดสินบนและศาลพิพากษาจำคุกทนายความเป็นเรื่องใหญ่ ไม่เคยเกิดขึ้นมานานหลายสิบปีแล้ว” นายสิทธิโชค กล่าว
นายสิทธิโชค กล่าวต่อว่า เรื่องนี้คณะกรรมการมารยาทจะประชุมให้เร็วที่สุด เพราะเป็นเรื่องสำคัญที่ประชาชนต้องการความชัดเจน ซึ่งยืนยันจะทำอย่างเต็มที่