จี้ถอดชื่อ “ทนายแม้ว”- จ่อเชือดซ้ำคดีติดสินบน จนท.

อดีต ส.ส.ร.50 “คมสันต์ โพธิ์คง” ระบุ ทนายความทักษิณส่อโดนเชือดซ้ำคดีติดสินบน ด้านอดีตเลขาสภาทนายความ “สมบัติ วงศ์กำแหง” ชี้ ทนายแม้ว ต้องโดนตัดชื่อออกจากทะเบียนทนายความทันที พร้อมถูกเว้นวรรค 5 ปี ด้าน “คำนวณ ชโลปถัมภ์” รับบทป้อง “แม้ว” เชื่อไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องสินบน

วันที่ 25 มิ.ย.นายคมสันต์ โพธิ์คง อาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช และอดีตกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญและอดีตสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ปี 2550 ให้สัมภาษณ์ในรายการ ตอบโจทย์ ทางสถานีโทรทัศน์ทีวีไทย ทีวีสาธารณะ ถึงกรณีที่ทีมทนายความของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ถูกศาลตัดสินจำคุก 6 เดือน กรณีนำเงินสด 2 ล้านบาทใส่ถุงขนมไปวางไว้ให้เจ้าหน้าที่ศาล ว่า การตัดสินลงโทษของศาลฎีกาในวันนี้ คือ การลงโทษในคดีละเมิดอำนาจศาล แต่อีกคดีที่จะตามมา คือ คดีในเรื่องการติดสินบน ซึ่งต้องดำเนินการไปตามขั้นตอน คือ ส่งฟ้องไปยังศาลชั้นต้น และศาลอุทธรณ์ต่อไป ว่าเรื่องดังกล่าวศาลจะสรุปความผิดอีกกระทงว่าอย่างไร

แต่อย่างไรก็ตาม ในความคิดของตนแล้ว ตนมองว่า เป็นไปได้ยากที่ศาลชั้นต้น และศาลอุทธรณ์ จะมีความเห็นต่างไปจากคดีที่ศาลฎีกาได้ตัดสินไปแล้ว กล่าวคือ เมื่อศาลฎีกาตัดสินแล้วว่าทีมทนายทั้ง 3 ละเมิดอำนาจศาลโดยการนำเงินมาติดสินบน ดังนั้น คดีติดสินบนที่จะพิจารณาต่อไปก็คงมีคำตัดสินออกมาไม่ต่างกันนั่นเอง

ต่อคำถามว่า คดีดังกล่าวจะกระทบไปถึงการตัดสินคดีที่ดินรัชดาที่ พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน ชินวัตร เป็นจำเลยอยู่หรือไม่ นายคมสันต์ กล่าวว่า คงไม่เกี่ยวกัน เพราะปกติแล้วศาลจะพินิจพิเคราะห์เป็นแต่ละเรื่อง แต่ละคดีแยกกันอย่างเด็ดขาดอยู่แล้ว แต่อาจจะมีผลกระทบในด้านความเกี่ยวโยงอยู่บ้าง หากศาลมองถึงความเชื่อมโยงในเชิงพฤติการณ์แวดล้อม มาประกอบการพิจารณาคดี

ด้าน ว่าที่ พ.ต.สมบัติ วงศ์กำแหง อดีตเลขาธิการสภาทนายความ กล่าวว่า จากการที่ศาลฎีกาพิพากษาลงโทษ นายพิชิฎ ชื่นบาน แล้ว ทางสภาทนายความก็จะทำการลบชื่อ นายพิชิต ออกจากทะเบียนทนายความ ซึ่งหาก นายพิชิต พ้นโทษแล้ว มีความประสงค์จะขอขึ้นทะเบียนทนายความอีกครั้งก็ยังไม่สามารถทำได้ ต้องเว้นระยะเวลาไป 5 ปี จึงจะขอขึ้นทะเบียนใหม่ได้ซึ่งก็ต้องผ่านการตรวจสอบจากคณะกรรมการสมาคมทนายความก่อนอีกครั้ง ว่า ผ่านเรื่องมารยาทและจริยธรรมหรือไม่ โดยคณะกรรมการจะต้องพิจารณาจนแน่ใจก่อนว่าจะไม่ทำผิดอีก ถึงจะอนุญาติให้ขึ้นทะเบียนได้

ขณะที่ นายคำนวณ ชโลปถัมภ์ ทนายความ และ อดีต ส.ว.สิงบุรี กล่าวว่า ถึงแม้ศาลฎีกาจะตัดสินไปแล้วว่าทนายความ และผู้ประสานงานเรื่องคดี ของ พ.ต.ท.ทักษิณ จะกระทำผิดจริง แต่ตนก็เชื่อว่า ศาลคงไม่นำเรื่องนี้ไปพิจารณาร่วมกับคดีที่ดินรัชดา เพราะไม่มีสิ่งใดบ่งบอกได้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน มีส่วนรู้เห็นกับการกระทำดังกล่าว และโดยส่วนตัวแล้วตนก็ไม่เชื่อเด็ดขาดว่าคนระดับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จะทำเรื่องไม่ดีอย่างนั้น จึงคิดว่าสังคมควรให้ความเป็นธรรมกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ด้วย เพื่อไม่ให้เป็นการซ้ำเติมหาก พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้รู้เห็นกับกระทำดังกล่าว