สนง.ศาลยุติธรรม สั่ง ผอ.ศาลฎีกา เข้าแจ้งความ สน.ชนะสงคราม ดำเนินคดี ทนายแม้ว-เสมียน-ผู้ประสานงานญาติหญิงอ้อ ข้อหาติดสินบนเจ้าพนักงาน
กรณีที่ศาลฎีกามีคำสั่งให้จำคุก นายพิชิฏ ชื่นบาน ทนายความ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และคุณหญิงพจมาน ชินวัตร จำเลยที่ 1-2 คดีทุจริตซื้อขายที่ดินรัชดาภิเษก น.ส.ศุภศรี ศรีสวัสดิ์ เสมียนทนายความ และนายธนา ตันศิริ ผู้ประสานงานคดี ญาติคุณหญิงพจมาน ที่ร่วมกันนำถุงขนมใส่เงินสดจำนวน 2 ล้านบาทไปมอบให้กับเจ้าหน้าที่ธุรการศาลฎีกา ซึ่งเป็นความผิดฐานละเมิดอำนาจศาลหรือประพฤติตนไม่เหมาะสมในบริเวณศาล เป็นเวลาคนละ 6 เดือน และให้แจ้งความดำเนินคดีกับทั้งสามข้อหาติดสินบนเจ้าพนักงาน ตาม ป.อาญา ม.144
วันนี้(26 มิ.ย.)นายอนันต์ วงษ์ประภารัตน์ เลขานุการศาลฎีกา กล่าวว่า ตามคำสั่งศาลฎีกาที่ได้มอบหมายให้ตนแจ้งความดำเนินคดีกับทั้งสามคนข้อหาติดสินบนเจ้าพนักงานนั้น ตนได้แจ้งไปยังสำนักงานศาลยุติธรรมให้ดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายแล้ว ส่วนตนที่เป็นผู้กล่าวหาคดีละเมิดอำนาจศาลหรือประพฤติตนไม่เหมาะสมในบริเวณศาล และศาลฎีกาได้มีคำพิพากษาให้จำคุกทั้งสามคนแล้ว ถือว่าตนได้หมดหน้าที่ลงแล้ว ต่อไปเป็นหน้าที่ของสำนักงานศาลยุติธรรมดำเนินการแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจกับทั้งสามคน ส่วนที่ศาลฎีกามีคำสั่งให้ออกหมายจับ นายธนา ผู้ถูกกล่าวหาที่ 3 นั้น ทราบว่าองค์คณะผู้พิพากษา ได้ดำเนินการออกหมายจับส่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการตามหมายแล้ว
นายสราวุธ เบญจกุล รองเลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม กล่าวว่า เลขานุการศาลฎีกา ได้แจ้งให้สำนักงานศาลยุติธรรมดำเนินการตาม ม.8 วรรค 2 พ.ร.บ.ศาลยุติธรรม ที่ระบุว่า ในการแทนกิจการของสำนักงานศาลยุติธรรมที่เกี่ยวข้องกับบุคคลภายนอก สำนักงานศาลยุติธรรม ให้เลขาธิการศาลยุติธรรมเป็นผู้แทนของสำนักงานศาลยุติธรรม เพื่อการนี้เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม จะมอบหมายให้บุคคลใดปฎิบัติหน้าที่แทนก็ได้ ดังนั้นนายพินิจ สุเสารัจ เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม จึงได้เซ็นหนังสือคำสั่งมอบหมายให้ น.ส.ณัชชา วรวัฒนเมธีกุล ผู้อำนวนการสำนักอำนวยการประจำศาลฎีกา รับมอบอำนาจเป็นผู้แทนไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ชนะสงคราม ให้ดำเนินคดีกับทั้งสามคน ข้อหาติดสินบนเจ้าพนักงาน เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนสอบสวนรวบรวมข้อเท็จจริงทำสำนวนพร้อมความเห็นส่งให้กับพนักงานอัยการพิจารณาสั่งฟ้องผู้ถูกกล่าวหาเป็นจำเลย เพื่อให้ศาลจะพิจารณาพิพากษาคดี
ในส่วนที่ศาลฎีกามีคำสั่งให้ออกหมายจับ นายธนา มารับโทษจำคุกตามคำพิพากษานั้น นายสราวุธ กล่าวว่า ตามขั้นตอนศาลฎีกา ก็จะต้องส่งหมายจับไปให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ชนะสงคราม ดำเนินการตามหมาย ที่หากพบเห็นบุคคลตามหมายที่ไหนเมื่อใด ให้จับกุมบุคคลนั้นส่งศาลฎีกา แต่เนื่องจากคดีนี้ศาลฎีกาได้อ่านคำสั่งให้จำคุกแล้ว หากศาลฎีกาได้รับตัวบุคคลตามหมายจับแล้วออกหมายขังถึงที่สุด และแจ้งให้เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์นำตัวไปควบคุมในเรือนจำ แต่หาก ผู้ต้องหาตามหมายจับจะเดินทางเข้ามอบตัวเองก็สามารถทำได้ แค่เดินเข้ามาแจ้งความประสงค์ขอมอบตัวกับศาลฎีกา ศาลฎีกาก็จะออกหมายขังถึงที่สุดแจ้งให้เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์นำตัวไปคุมขังตามคำสั่งศาลฎีกา และเพิกถอนหมาย ซึ่งคดีนี้มีอายุความนาน 5 ปี
ด้าน น.ส.ณัชชา วรวัฒนเมธีกุล ผู้อำนวยการสำนักอำนวยการประจำศาลฎีกา กล่าวว่า หลังได้รับหนังสือคำสั่งมอบอำนาจจากสำนักงานศาลยุติธรรมแล้ว ก็จะไปรายงานผู้บังคับบัญชา จากนั้นจะเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ชนะสงคราม ให้ดำเนินคดีกับทั้งสามคน ข้อหาติดสินบนเจ้าพนักงานตามกฎหมายต่อไป
