ข้าราชการกระทรวงการต่างประเทศคนหนึ่ง เปิดเผยว่า หลังจากที่นายนรชิต สิงหเสนี รองปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ทำหน้าที่เลขานุการสโมสรวังสราญรมย์ ออกหนังสือเวียนถึงสมาชิกในสโมสร เพื่อขอรับเงินบริจาคสนับสนุนการต่อสู้ทางคดีของข้าราชการกระทรวง 4 คน ที่อยู่ระหว่างการไต่สวนของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ว่ามีการกระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการหรือไม่ กรณีถูกกล่าวหาว่าเกี่ยวข้องกับการที่รัฐบาลของนายสมัคร สุนทรเวช ออกแถลงการณ์สนับสนุนการขึ้นทะเบียนมรดกโลก ปราสาทเขาพระวิหาร ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยก่อนหน้านี้ว่า เป็นการกระทำขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 190 ปรากฏว่าจนถึงปัจจุบันมียอดเงินบริจาคเกือบ 3 ล้านบาท ซึ่งเงินจำนวนนี้กระทรวงการต่างประเทศจะเก็บไว้เป็นค่าใช้จ่ายในการต่อสู้คดี หาก ป.ป.ช. เห็นว่าข้าราชการทั้ง 4 คน กระทำผิดตามที่ถูกกล่าวหา
ข้าราชการทั้ง 4 คน ได้แก่ นายวีระศักดิ์ ฟูตระกูล ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ นายกฤต ไกรจิตติ อธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย นายพิษณุ สุวรรณชฏ รองอธิบดีกรมเอเชียตะวันออก และนายเชิดชู รักตบุตร อัครราชทูตประจำกรุงปารีส นอกจากข้าราชการกระทรวงการต่างประเทศแล้ว ยังมีข้าราชการชั้นผู้ใหญ่อีก 2 คนที่ถูกกล่าวหาด้วยเช่นกัน ได้แก่ พล.ท.แดน มีชูอรรถ เจ้ากรมแผนที่ทหาร และ พล.ท.สุรพล เผื่อนอัยกา เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ซึ่งทั้งหมดถูกพันธมิตรฯ กล่าวหาว่าร่วมกันกระทำผิดรัฐธรรมนูญกับคณะรัฐมนตรีนายสมัคร
กรรมการ ป.ป.ช.คนหนึ่ง เปิดเผยว่า หลังจากศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัย ได้มีการส่งเรื่องต่อมายัง ป.ป.ช. โดย ป.ป.ช.ได้ไต่สวนในเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนส่งเรื่องต่อให้ศาลยุติธรรมดำเนินการในทางกฎหมายต่อไป หาก ป.ป.ช.เห็นว่าข้อกล่าวหานั้นมีมูล
ข้าราชการทั้ง 4 คน ได้แก่ นายวีระศักดิ์ ฟูตระกูล ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ นายกฤต ไกรจิตติ อธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย นายพิษณุ สุวรรณชฏ รองอธิบดีกรมเอเชียตะวันออก และนายเชิดชู รักตบุตร อัครราชทูตประจำกรุงปารีส นอกจากข้าราชการกระทรวงการต่างประเทศแล้ว ยังมีข้าราชการชั้นผู้ใหญ่อีก 2 คนที่ถูกกล่าวหาด้วยเช่นกัน ได้แก่ พล.ท.แดน มีชูอรรถ เจ้ากรมแผนที่ทหาร และ พล.ท.สุรพล เผื่อนอัยกา เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ซึ่งทั้งหมดถูกพันธมิตรฯ กล่าวหาว่าร่วมกันกระทำผิดรัฐธรรมนูญกับคณะรัฐมนตรีนายสมัคร
กรรมการ ป.ป.ช.คนหนึ่ง เปิดเผยว่า หลังจากศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัย ได้มีการส่งเรื่องต่อมายัง ป.ป.ช. โดย ป.ป.ช.ได้ไต่สวนในเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนส่งเรื่องต่อให้ศาลยุติธรรมดำเนินการในทางกฎหมายต่อไป หาก ป.ป.ช.เห็นว่าข้อกล่าวหานั้นมีมูล