บุรีรัมย์ - คนร้ายบุกงัดตู้เอทีเอ็มแบงก์กรุงไทย และตู้รับบริจาคในห้างบิ๊กซี สาขาบุรีรัมย์ กวาดเงินสดไปร่วมแสนบาท ตร.คาดคนร้ายมีไม่ต่ำกว่า 2 คนรู้ช่องทางเข้าออกอย่างดี หรืออาจเป็นพนักงานห้าง พร้อมเร่งตรวจสอบวงจรปิดหาเบาะแส ล่าตัวคนร้ายดำเนินคดีโดยเร่งด่วน
วันนี้ (28 เม.ย.) เมื่อเวลา 10.30 น. พล.ต.ต.สมบัติ คงพิบูลย์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.ภ.จว.) บุรีรัมย์ พร้อม พ.ต.อ.รวีวรรธน์ เทียนสุวรรณ, พ.ต.อ.นิคม อินเฉิดฉาย รองผบก.ภ.จว.บุรีรัมย์, พ.ต.อ.รุทธพล เนาวรัตน์ ผกก.สภ.เมือง, พ.ต.ท.สุธีร์ ตรุโนภาส รอง ผกก.ฝ่ายสืบสวน และ ร.ต.อ.ชาญชัย รีประโคน ร้อยเวรฯ สภ.เมือง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวนภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ได้เข้าตรวจสอบตู้เอทีเอ็มของธนาคารกรุงไทย และตู้รับบริจาคเงินเพื่อการกุศลของมูลนิธิ “บิ๊กซี” ที่ตั้งอยู่ภายในห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ สาขาบุรีรัมย์ ที่ได้ถูกคนร้ายบุกเข้าไปงัดเพื่อขโมยเงิน
จากการตรวจสอบพบว่า ตู้เอทีเอ็มของธนาคารกรุงไทยซึ่งตั้งอยู่บริเวณข้างสวนสนุกและเครื่องเล่นเด็กภายในห้างฯ มีร่องรอยถูกงัดบริเวณฝาครอบด้านหน้า จากนั้นคนร้ายได้ใช้อุปกรณ์ที่เตรียมมาลงมืองัดตู้เซฟที่บรรจุเงินพังเสียหาย แต่ไม่สามารถนำเงินที่อยู่ในเซฟไปได้ แต่เป็นที่น่าสังเกตว่าขณะคนร้ายลงมืองัดตู้เอทีเอ็ม สัญญาณเตือนภัยกลับไม่ทำงาน ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้ทำการตรวจสอบอีกครั้ง
ส่วนตู้รับบริจาคเงินซึ่งมียอดเงินบริจาคกว่า 1 แสนบาท มีร่องรอยถูกงัดบริเวณฝาปิดตู้ พบว่าธนบัตรทั้งฉบับละ 20-1,000 บาท ที่มีผู้มีจิตศรัทธาร่วมบริจาค ได้ถูกคนร้ายขโมยไปร่วมแสนบาท เหลือไว้เพียงเงินเหรียญจำนวนหนึ่งเท่านั้น
จากการตรวจสอบรอบบริเวณห้างฯ บิ๊กซี รวมทั้งประตูทางเข้าออกทุกด้าน ที่คาดว่าคนร้ายจะใช้เป็นเส้นทางในการหลบหนี เจ้าหน้าที่พบว่าบริเวณห้องเก็บของในห้องน้ำชาย น่าจะเป็นจุดที่คนร้ายแอบซ่อนตัวอยู่ในช่วงที่ห้างฯ ใกล้จะปิด แล้วรอจังหวะที่พนักงานกลับบ้านหมดแล้วจึงลงมือก่อเหตุงัดตู้เอทีเอ็ม แต่เนื่องจากไม่สามารถนำเงินในตู้เซฟไปได้ จึงไปงัดตู้บริจาคเงินแล้วกวาดเงินสดภายในตู้ไปร่วมแสนบาทและหนีลอยนวล
พล.ต.ต.สมบัติ คงพิบูลย์ ผบก.ภ.จว.บุรีรัมย์ เปิดเผยภายหลังเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุว่า คนร้ายที่เข้ามาก่อเหตุครั้งนี้น่าจะมีไม่ต่ำกว่า 2 คน และน่าจะรู้จักทางเข้า-ออกภายในห้างฯเป็นอย่างดี หรืออาจจะเป็นพนักงานห้างฯ หรือเคยทำงานในห้างฯ มาก่อน ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่กองวิทยาการได้ทำการตรวจสอบลายนิ้วมือแฝงจากตู้เอทีเอ็ม และตู้รับบริจาคเพื่อเก็บรวบรวมหลักฐานไว้แล้ว พร้อมทั้งตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด ที่ติดตั้งอยู่ในภายห้าง เพื่อหาหลักฐานในการติดตามจับกุมตัวคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีอย่างเร่งด่วนต่อไป