ยอดเงินบริจาค พปช.สะดุด แต่ก็ยังแสดงถึงความมั่งคั่งกว่าพรรคอื่นรวม 34 ล้านบาท “แม้ว-อ้อ” ตัดท่อน้ำเลี้ยงแล้ว ขณะที่ รวมใจไทยฯ 14 ล้าน เพื่อแผ่นดิน ก็ไม่น้อยหน้า มีถึง 10 ล้าน ส่วนพรรคอะไหล่ มีเพียง 3 แสนบาท เท่านั้น
วันนี้ (24 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ยอดเงินบริจาคพรรคการเมืองตั้งแต่เดือน ม.ค.-ก.ค.นั้น พรรคที่มียอดบริจาคมากที่สุด ได้แก่ พรรคพลังประชาชน มีจำนวนบริจาคทั้งสิ้น 34,620,000 บาท ซึ่งโดยมียอดบริจาคในเดือน ก.พ.มียอดบริจาคมา 3 ครั้ง เป็นเงิน 24,500,000 บาท และในเดือน มี.ค.3 ครั้ง เป็นเงิน 9,120,000 บาท และในเดือน พ.ค.1 ครั้ง เป็นเงินจำนวน 1,00,000 บาท รวมทั้งหมด 7 ครั้ง ส่วนในเดือน มิ.ย.-ก.ค.ยังไม่มียอดบริจาคเพิ่มเติม และเป็นที่น่าสังเกตว่า ในช่วงที่ผ่านมานั้น ผู้ที่บริจาคให้กับพรรคไม่มีชื่อของ คุณหญิงพจมาน ชินวัตร ที่ก่อนหน้านี้เป็นผู้บริจาคหลายใหญ่มาอย่างต่อเนื่อง หรือคนในตระกูลชินวัตร กลับไม่มีชื่อในการบริจาคเลย มีเพียงแกนนำพรรคที่ใกล้ชิดกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เท่านั้น เช่น นายวัชรพล ปลั่งศรีสกุล 2,000,000 บาท นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ บริจาค 3,000,000 บาท
ส่วนพรรคที่มียอดเงินบริจาคมากเป็นอันดับ 2 ได้แก่ พรรครวมใจไทยชาติพัฒนา มีจำนวน 14,855,500 บาท โดยมียอดบริจาคทั้งสิ้นจำนวน 15 ครั้ง โดยจะมาบริจาคมากในช่วงเดือน เม.ย., พ.ค.และ ก.ค.และบุคคลที่บริจาคส่วนใหญ่เป็นนักธุรกิจ ตามมาด้วย พรรคประชาธิปัตย์ มียอดบริจาค 11,280,127 บาท เป็นการบริจาคแบบสม่ำเสมอ จาก ส.ส.พรรค อย่างไรก็ตาม สำหรับเงินบริจาคของพรรคเพื่อแผ่นดิน มีจำนวน 10,435,406 บาท ผู้บริจาคส่วนใหญ่มาจาก นายจิรายุ วสุรัตน์ รองหัวหน้าพรรค และ นายวัชระ พรรณเชษฐ์ เลขาธิการพรรค พรรคมัฌชิมาธิปไตย มีจำนวน 4,400,000 บาท ที่เป็นยอดบริจาคมาเพียงเดือนเดียวเมื่อเดือน ม.ค.เท่านั้น
ขณะที่ พรรคชาติไทย มียอดบริจาคเพียงแค่ 16,000 บาท จาก นายนิกร จำนง รองหัวหน้าพรรคชาติไทย เพียงคนเดียว ในเดือน ก.พ.ส่วน พรรคเพื่อไทย ที่มีกระแสข่าวว่า จะเป็นพรรคก็ตั้งขึ้นมาเพื่อเป็นพรรคสำรองของพรรคพลังประชาชน หากพรรคถูกยุบนั้น ขณะนี้มียอดบริจาครวมทั้งสิ้น 300,000 บาท โดยมี นายโอฬาร กิจเลิศไพโรจน์ บริจาค 3 ครั้ง ในเดือน ก.พ.ปี 2551 จำนวน 150,000 บาท และในเดือน มิ.ย.จำนวน 70,000 บาท เดือน ก.ค.อีกจำนวน 80,000 บาท