นายเบน เบอร์นันเก ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) พร้อมด้วย เฮนรี พอลสัน รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ แถลงต่อสภาคองเกรสเมื่อคืนนี้ เรียกร้องให้สภาคองเกรสเร่งผ่านร่างแผนการช่วยเหลือสถาบันการเงินมูลค่า 7 แสนล้านดอลลาร์ พร้อมระบุว่า หากตลาดสินเชื่อไม่ทำงานตามกลไกที่ปกติ อัตราว่างงานจะพุ่งสูงขึ้นอีก จำนวนบ้านถูกยึดจะเพิ่มขึ้น และตัวเลข GDP จะถดถอยลง ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวจะยิ่งฉุดรั้งเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวช้าลง พร้อมยื่นข้อเสนอแนะรัฐบาลควรเข้าซื้อหนี้เสียของสถาบันการเงินในราคาที่สูงกว่ามูลค่าตลาด เพื่อกระตุ้นสภาพคล่องของสถาบันการเงินในยามที่ตัวเลข GDP ของสหรัฐฯ มีแนวโน้มขยายตัวเพียง 1.5% ในปีหน้า ซึ่งถือเป็นอัตราการขยายตัวที่ช้าที่สุดนับตั้งแต่ปี พ.ศ.2544
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ฝ่ายนิติบัญญัติของสภาคองเกรส ให้เหตุผลว่า สาเหตุที่ทำให้แผนการดังกล่าวยังไม่ผ่านร่าง เพราะยังไม่มีรายละเอียดและยังไม่ครอบคลุมมากพอ ขณะที่นายเบอร์นันเก เตือนว่า ความล่าช้าในการอนุมัติแผนกู้วิกฤตการณ์ด้านการเงินจะยิ่งทำให้เศรษฐกิจเผชิญความเสี่ยงมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ฝ่ายนิติบัญญัติของสภาคองเกรส ให้เหตุผลว่า สาเหตุที่ทำให้แผนการดังกล่าวยังไม่ผ่านร่าง เพราะยังไม่มีรายละเอียดและยังไม่ครอบคลุมมากพอ ขณะที่นายเบอร์นันเก เตือนว่า ความล่าช้าในการอนุมัติแผนกู้วิกฤตการณ์ด้านการเงินจะยิ่งทำให้เศรษฐกิจเผชิญความเสี่ยงมากขึ้น