พ.อ.ปิยะวัฒก์ กิ่งเกตุ ผู้บัญชาการสำนักคดีอาญาพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยถึงกรณีผู้เสียหายจากการฉ้อโกงประชาชนผ่านระบบอินเตอร์เน็ต เว็บไซต์โคโลนี่อินเวส (www.colonyinvest.net และ www.colonyinvest.com ) เชื่อว่ามีประชาชนตกเป็นเหยื่อแล้วนับหมื่นรายทั่วประเทศ มูลค่าความเสียหายหลายพันล้านบาท แต่ยังไม่กล้าแสดงตัวและไปพบพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ซึ่งจากการสืบสวนสอบสวนของดีเอสไอ มีผู้มาร้องทุกข์กล่าวโทษและให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวนคดีพิเศษเพียง 100 รายเท่านั้น ขณะนี้กำลังสืบสวนสอบสวนขยายผลคดีที่เกิดขึ้นในพื้นที่ภาคใต้ มีผู้เสียหายอีกไม่น้อยกว่า 200 ราย ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่จังหวัดตรัง พังงา กระบี่ ภูเก็ต และนครศรีธรรมราช
ทั้งนี้ พฤติการณ์กลุ่มอาชญากรดังกล่าวจะหลอกลวงประชาชนในลักษณะของการระดมทุนและให้ผลประโยชน์ตอบแทนเป็นรายวันในอัตราที่สูงมาก ใช้วิธีการโฆษณาผ่านทางเว็บไซต์ ให้ประชาชนลงทุนกับบริษัท แค่สามารถใช้อินเตอร์เน็ตได้ และโอนเงินผ่านระบบอินเตอร์เน็ตเป็นก็สามารถร่วมลงทุนได้ เมื่อเข้าไปสู่เว็บเพจ จะพบการแนะนำบริษัทว่ามีสำนักงานใหญ่ ตั้งอยู่ที่เมืองโรเชสเตอร์ รัฐนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา เปิดดำเนินธุรกิจการเงิน 6 แบบ ได้แก่ การค้าเงิน โรงแรม รีสอร์ท ศูนย์การค้า ตลาดหุ้น การซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้า ธุรกิจในโลกสื่อสาร สังหาริมทรัพย์ และอสังหาริมทรัพย์
พ.อ.ปิยะวัฒก์ กล่าวว่า การกระทำดังกล่าวเข้าข่ายเป็นความผิดตามพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2547 ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 5-10 ปี และปรับตั้งแต่ 500,000 ถึง 1 ล้านบาท และปรับอีกไม่เกินวันละ 10,000 บาทตลอดเวลาที่ยังฝ่าฝืน และความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน รวมทั้งเข้าข่ายการฟอกเงิน พร้อมส่งเรื่องให้กลุ่มป้องปรามการเงินนอกระบบดำเนินการฟ้องร้องล้มละลาย และยึดทรัพย์สินมาคืนให้กับผู้เสียหายได้ ดังนั้น ผู้เสียหายที่ยังไม่เคยร้องทุกข์กล่าวโทษ ให้รีบร้องทุกข์กล่าวโทษเพิ่มเติมได้ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อจะได้ดำเนินการสืบสวนสอบสวน จับกุมผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย และติดตามเงินและทรัพย์สินคืนให้ผู้เสียหายให้ได้มากที่สุด
ทั้งนี้ พฤติการณ์กลุ่มอาชญากรดังกล่าวจะหลอกลวงประชาชนในลักษณะของการระดมทุนและให้ผลประโยชน์ตอบแทนเป็นรายวันในอัตราที่สูงมาก ใช้วิธีการโฆษณาผ่านทางเว็บไซต์ ให้ประชาชนลงทุนกับบริษัท แค่สามารถใช้อินเตอร์เน็ตได้ และโอนเงินผ่านระบบอินเตอร์เน็ตเป็นก็สามารถร่วมลงทุนได้ เมื่อเข้าไปสู่เว็บเพจ จะพบการแนะนำบริษัทว่ามีสำนักงานใหญ่ ตั้งอยู่ที่เมืองโรเชสเตอร์ รัฐนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา เปิดดำเนินธุรกิจการเงิน 6 แบบ ได้แก่ การค้าเงิน โรงแรม รีสอร์ท ศูนย์การค้า ตลาดหุ้น การซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้า ธุรกิจในโลกสื่อสาร สังหาริมทรัพย์ และอสังหาริมทรัพย์
พ.อ.ปิยะวัฒก์ กล่าวว่า การกระทำดังกล่าวเข้าข่ายเป็นความผิดตามพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2547 ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 5-10 ปี และปรับตั้งแต่ 500,000 ถึง 1 ล้านบาท และปรับอีกไม่เกินวันละ 10,000 บาทตลอดเวลาที่ยังฝ่าฝืน และความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน รวมทั้งเข้าข่ายการฟอกเงิน พร้อมส่งเรื่องให้กลุ่มป้องปรามการเงินนอกระบบดำเนินการฟ้องร้องล้มละลาย และยึดทรัพย์สินมาคืนให้กับผู้เสียหายได้ ดังนั้น ผู้เสียหายที่ยังไม่เคยร้องทุกข์กล่าวโทษ ให้รีบร้องทุกข์กล่าวโทษเพิ่มเติมได้ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อจะได้ดำเนินการสืบสวนสอบสวน จับกุมผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย และติดตามเงินและทรัพย์สินคืนให้ผู้เสียหายให้ได้มากที่สุด