นายสมศักดิ์ โกศัยสุข แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ปฏิเสธว่า พันธมิตรฯ ไม่เคยเสนอแนวทางนายกรัฐมนตรีพระราชทานเป็นทางออกทางการเมือง เพราะเห็นว่าเหตุการณ์ขณะนี้แตกต่างจากในอดีต
นายสมศักดิ์ เห็นว่าแนวทางรัฐสภาพิจารณาสรรหานายกรัฐมนตรีคนใหม่ อาจเป็นวังวนเดิม ที่ทำให้คนเก่าของกลุ่มนักการเมืองเก่าเข้ามาบริหารประเทศ โดยหากยังคงเป็นคนของพรรคพลังประชาชน พันธมิตรฯ ก็จะปักหลักชุมนุมอย่างยืดเยื้อต่อไป พร้อมยืนยันว่า พันธมิตรฯ ไม่ใช่คนชี้ทางออกว่าสถานการณ์การเมืองต้องจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติ หรือเสนอให้มีนายกรัฐมนตรีพระราชทาน เพราะพันธมิตรฯ มีหน้าที่เพียงชุมนุมเพื่อรักษาระบอบประชาธิปไตยเท่านั้น
ส่วนผลการโหวตจะพลิกโผเป็นนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่ พันธมิตรฯ คงต้องติดตามต่อไป แต่ยังไม่ได้คุยกันว่าจะรับได้หรือไม่ เพราะต้องรอดูการฟอร์มทีมรัฐบาลด้วยว่าจะมีพรรคการเมืองใดร่วมบ้าง
นอกจากนี้ แกนนำพันธมิตรฯ ยังเห็นด้วยกับแนวทางการยกเลิกพระราชกำหนดบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ตามแนวคิดของผู้บัญชาการทหารบก เพราะพันธมิตรฯ เชื่อมาโดยตลอดว่าสถานการณ์การปะทะกันที่เกิดขึ้นเป็นการสร้างเหตุการณ์ ไม่ได้รุนแรงจริง แต่เป็นการพยายามทำเพื่อให้มีการออก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
การชุมนุมที่ยืดเยื้อของพันธมิตรฯ ในทำเนียบรัฐบาล ทำให้ ครม.รักษาการ ต้องขอใช้พื้นที่อาคารร้างของการท่าอากาศยานกรุงเทพ หรือ สนามบินดอนเมือง เป็นที่ทำงาน ซึ่งเรื่องนี้พันธมิตรฯ มองว่ารัฐบาลชุดนี้ไม่มีความชอบธรรมตามระบอบประชาธิปไตย จึงไม่มีแม้กระทั่งที่ทำงาน จนต้องอาศัยตึกร้าง
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าพันธมิตรฯ จะยังไม่กำหนดการเคลื่อนไหวใดๆ ไปกดดันการเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ที่อาคารรัฐสภาในวันพรุ่งนี้ แต่นักศึกษากลุ่ม Young PAD ได้มีมติที่จะไปแสดงจุดยืนของเยาวชนว่าไม่ต้องการนายสมัคร สุนทรเวช กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรี โดยการเคลื่อนไหวจะเป็นเพียงการแสดงความเห็น ปราศจากอาวุธ และไม่ได้ต้องการไปปิดทางเข้า-ออกของรัฐสภา
ทั้งนี้ คาดว่าในช่วงเย็นวันนี้แกนนำพันธมิตรฯ จะมีการแถลงท่าทีที่ชัดเจนว่าจะเคลื่อนไหวไปชุมนุมกดดันที่อาคารรัฐสภาในวันพรุ่งนี้หรือไม่
นายสมศักดิ์ เห็นว่าแนวทางรัฐสภาพิจารณาสรรหานายกรัฐมนตรีคนใหม่ อาจเป็นวังวนเดิม ที่ทำให้คนเก่าของกลุ่มนักการเมืองเก่าเข้ามาบริหารประเทศ โดยหากยังคงเป็นคนของพรรคพลังประชาชน พันธมิตรฯ ก็จะปักหลักชุมนุมอย่างยืดเยื้อต่อไป พร้อมยืนยันว่า พันธมิตรฯ ไม่ใช่คนชี้ทางออกว่าสถานการณ์การเมืองต้องจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติ หรือเสนอให้มีนายกรัฐมนตรีพระราชทาน เพราะพันธมิตรฯ มีหน้าที่เพียงชุมนุมเพื่อรักษาระบอบประชาธิปไตยเท่านั้น
ส่วนผลการโหวตจะพลิกโผเป็นนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่ พันธมิตรฯ คงต้องติดตามต่อไป แต่ยังไม่ได้คุยกันว่าจะรับได้หรือไม่ เพราะต้องรอดูการฟอร์มทีมรัฐบาลด้วยว่าจะมีพรรคการเมืองใดร่วมบ้าง
นอกจากนี้ แกนนำพันธมิตรฯ ยังเห็นด้วยกับแนวทางการยกเลิกพระราชกำหนดบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ตามแนวคิดของผู้บัญชาการทหารบก เพราะพันธมิตรฯ เชื่อมาโดยตลอดว่าสถานการณ์การปะทะกันที่เกิดขึ้นเป็นการสร้างเหตุการณ์ ไม่ได้รุนแรงจริง แต่เป็นการพยายามทำเพื่อให้มีการออก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
การชุมนุมที่ยืดเยื้อของพันธมิตรฯ ในทำเนียบรัฐบาล ทำให้ ครม.รักษาการ ต้องขอใช้พื้นที่อาคารร้างของการท่าอากาศยานกรุงเทพ หรือ สนามบินดอนเมือง เป็นที่ทำงาน ซึ่งเรื่องนี้พันธมิตรฯ มองว่ารัฐบาลชุดนี้ไม่มีความชอบธรรมตามระบอบประชาธิปไตย จึงไม่มีแม้กระทั่งที่ทำงาน จนต้องอาศัยตึกร้าง
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าพันธมิตรฯ จะยังไม่กำหนดการเคลื่อนไหวใดๆ ไปกดดันการเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ที่อาคารรัฐสภาในวันพรุ่งนี้ แต่นักศึกษากลุ่ม Young PAD ได้มีมติที่จะไปแสดงจุดยืนของเยาวชนว่าไม่ต้องการนายสมัคร สุนทรเวช กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรี โดยการเคลื่อนไหวจะเป็นเพียงการแสดงความเห็น ปราศจากอาวุธ และไม่ได้ต้องการไปปิดทางเข้า-ออกของรัฐสภา
ทั้งนี้ คาดว่าในช่วงเย็นวันนี้แกนนำพันธมิตรฯ จะมีการแถลงท่าทีที่ชัดเจนว่าจะเคลื่อนไหวไปชุมนุมกดดันที่อาคารรัฐสภาในวันพรุ่งนี้หรือไม่