วานนี้ (21 ส.ค. 2551) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องประชุม องค์การบริหารส่วนตำบลแม่รำพึง อำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ฝ่ายปกครองท้องที่โดยผู้นำท้องถิ่น ได้จัดประชุมประชาคมหมู่บ้าน เพื่อขอความเห็นชอบจากชาวบ้านหมู่ 1 บ้านดอนสำราญ กรณีการขอใช้ทางสาธารณประโยชน์ เนื้อที่ 1 ไร่ 2 งาน 92 ตารางวา เพื่อใช้ในโครงการโรงถลุงเหล็กและผลิตเหล็กกล้าครบวงจรของเครือสหวิริยา
โดยก่อนการลงประชามตินายท้วม พิมสอ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 ได้ชี้แจงเหตุผลความจำเป็น โดยมีชาวบ้านกว่า 200 กว่าคนเข้าร่วมประชุม พร้อมซัก-ถาม ข้อสงสัยต่างๆ หลังจากนั้นได้เปิดคูหาลงคะแนน โดยมีเจ้าหน้าที่ส่วนราชการร่วมสังเกตการณ์ อาทิ นายสมศักดิ์ ล้ออุดม ปลัดอำเภอบางสะพานฝ่ายความมั่นคงภายใน และตัวแทนเครือข่ายประชาชนเพื่อการเลือกตั้งหรือ พีเน็ต จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ทั้งการลงประชามติใช้การลงคะแนนลับในคูหาเลือกตั้ง และปิดหีบเมื่อเวลา 15.00 น.โดยผลนับคะแนน มีผู้เห็นชอบ 196 คน ไม่เห็นชอบ 10 คน บัตรเสีย 8 ใบ ทั้งนี้มีผู้มาใช้สิทธิ์จำนวน 214 คน
นายสมศักดิ์ ล้ออุดม ปลัดอำเภอบางสะพานฝ่ายความมั่นคงภายใน กล่าวว่า ขั้นตอนจากนี้ ผู้ใหญ่บ้าน จะทำบันทึกผลการประชามติเสนอต่อนายอำเภอ สำนักงานที่ดิน และองค์การบริหารส่วนตำบลแม่รำพึงเพื่อให้พิจารณาเห็นชอบให้เช่าที่ดินสาธารณะดังกล่าวหรือไม่ ส่วนกรณีที่กลุ่มอนุรักษ์แม่รำพึงระบุว่า เมื่อวันที่ 18 สิงหาคมที่ผ่านมา ชาวบ้านได้ทำประชามติไปแล้ว โดยมีการยื่นรายชื่อชาวบ้านที่ไม่เห็นด้วยกับการให้เช่าทางสาธารณะจำนวน 215 คนนั้น ในข้อเท็จจริงผู้ใหญ่บ้านไม่ได้มีการทำประชาคมแต่อย่างใด และในวันดังกล่าวผู้ใหญ่บ้านก็เข้ามาประชุมร่วมกับทางอำเภอนั้น เป็นเพียงการดำเนินการของกลุ่มคัดค้านโครงการ ซึ่งไม่มีผลในทางปฏิบัติ นอกจากนี้ยังพบว่า รายชื่อที่ยื่นคัดค้านก็ไม่สมบูรณ์บางรายชื่อมีลายเซ็นเหมือนกัน หรือกระทั่งมีรายชื่อของเด็กที่อายุไม่ถึงเกณฑ์ออกเสียงประชามติ
ทั้งนี้ นายโสภณ นาขวัญ ประธานองค์กรเอกชนตรวจสอบการเลือกตั้งหรือ พีเน็ต จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า บรรยากาศการลงประชามติเป็นไปอย่างเรียบร้อยโปร่งใสไม่มีเหตุที่บ่งบอกถึงการทุจริตแต่อย่างใด
ทางด้านนายสุพจน์ ส่งเสียง แกนนำกลุ่มอนุรักษ์แม่รำพึงกล่าวว่า ไม่เห็นด้วยกับการทำประชามติดังกล่าว เพราะชาวบ้านได้ทำประชามติไปแล้วเมื่อวันที่ 18 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยชาวบ้านที่ออกเสียงเป็นชาวบ้านที่ยังใช้ที่ดิน ขณะที่ชาวบ้านซึ่งมาออกเสียงวันนี้แม้จะเป็นชาวบ้านหมู่ 1 แต่ก็ไม่ได้มีส่วนได้เสียในที่ดินดีงกล่าว ซึ่งการทำประชามติควรจะจบลงตั้งแต่วันดังกล่าวแล้ว
นายไพโรจน์ มกร์ดารา ผู้อำนวยการฝ่ายโครงการพิเศษ เครือสหวิริยา ได้ให้ความเห็นว่า ผลประชามติที่ออกมา เป็นการปฏิบัติตามขั้นตอนอย่างโปร่งใส ตรงไปตรงมา และแสดงถึงการมี ส่วนร่วมของชาวบ้าน ทั้งนี้ บริษัทฯ มีความจำเป็นต้องขออนุญาตใช้ทางสาธารณะดังกล่าว ก่อนหน้านี้บริษัทได้ซื้อที่ดินโดยรอบไว้ทั้งหมด จึงได้ตั้งเรื่องขอนุญาตประกอบกิจการในที่ดินของรัฐในเบื้องต้นก่อน โดยทำเรื่องขออนุญาตการใช้ที่ดินตามกฎหมายที่ดินและขอเพิกถอนที่ดินในกรณีนี้เนื่องจากชาวบ้านไม่ได้ใช้ประโยชน์แล้ว ตามหลักเกณฑ์กฎหมายของการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และบริษัทฯ พร้อมที่จะดำเนินการตามกฎหมายด้วยการชดเชยราคาตามหลักเกณฑ์ นอกจากนี้ จะเสนอที่ดินเพิ่มเติมด้วยการยกให้ หรือเพื่อใช้เป็นสาธารณะตามแต่ชาวบ้านหมู่ 1 จะเห็นสมควรต่อไป
โดยก่อนการลงประชามตินายท้วม พิมสอ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 ได้ชี้แจงเหตุผลความจำเป็น โดยมีชาวบ้านกว่า 200 กว่าคนเข้าร่วมประชุม พร้อมซัก-ถาม ข้อสงสัยต่างๆ หลังจากนั้นได้เปิดคูหาลงคะแนน โดยมีเจ้าหน้าที่ส่วนราชการร่วมสังเกตการณ์ อาทิ นายสมศักดิ์ ล้ออุดม ปลัดอำเภอบางสะพานฝ่ายความมั่นคงภายใน และตัวแทนเครือข่ายประชาชนเพื่อการเลือกตั้งหรือ พีเน็ต จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ทั้งการลงประชามติใช้การลงคะแนนลับในคูหาเลือกตั้ง และปิดหีบเมื่อเวลา 15.00 น.โดยผลนับคะแนน มีผู้เห็นชอบ 196 คน ไม่เห็นชอบ 10 คน บัตรเสีย 8 ใบ ทั้งนี้มีผู้มาใช้สิทธิ์จำนวน 214 คน
นายสมศักดิ์ ล้ออุดม ปลัดอำเภอบางสะพานฝ่ายความมั่นคงภายใน กล่าวว่า ขั้นตอนจากนี้ ผู้ใหญ่บ้าน จะทำบันทึกผลการประชามติเสนอต่อนายอำเภอ สำนักงานที่ดิน และองค์การบริหารส่วนตำบลแม่รำพึงเพื่อให้พิจารณาเห็นชอบให้เช่าที่ดินสาธารณะดังกล่าวหรือไม่ ส่วนกรณีที่กลุ่มอนุรักษ์แม่รำพึงระบุว่า เมื่อวันที่ 18 สิงหาคมที่ผ่านมา ชาวบ้านได้ทำประชามติไปแล้ว โดยมีการยื่นรายชื่อชาวบ้านที่ไม่เห็นด้วยกับการให้เช่าทางสาธารณะจำนวน 215 คนนั้น ในข้อเท็จจริงผู้ใหญ่บ้านไม่ได้มีการทำประชาคมแต่อย่างใด และในวันดังกล่าวผู้ใหญ่บ้านก็เข้ามาประชุมร่วมกับทางอำเภอนั้น เป็นเพียงการดำเนินการของกลุ่มคัดค้านโครงการ ซึ่งไม่มีผลในทางปฏิบัติ นอกจากนี้ยังพบว่า รายชื่อที่ยื่นคัดค้านก็ไม่สมบูรณ์บางรายชื่อมีลายเซ็นเหมือนกัน หรือกระทั่งมีรายชื่อของเด็กที่อายุไม่ถึงเกณฑ์ออกเสียงประชามติ
ทั้งนี้ นายโสภณ นาขวัญ ประธานองค์กรเอกชนตรวจสอบการเลือกตั้งหรือ พีเน็ต จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า บรรยากาศการลงประชามติเป็นไปอย่างเรียบร้อยโปร่งใสไม่มีเหตุที่บ่งบอกถึงการทุจริตแต่อย่างใด
ทางด้านนายสุพจน์ ส่งเสียง แกนนำกลุ่มอนุรักษ์แม่รำพึงกล่าวว่า ไม่เห็นด้วยกับการทำประชามติดังกล่าว เพราะชาวบ้านได้ทำประชามติไปแล้วเมื่อวันที่ 18 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยชาวบ้านที่ออกเสียงเป็นชาวบ้านที่ยังใช้ที่ดิน ขณะที่ชาวบ้านซึ่งมาออกเสียงวันนี้แม้จะเป็นชาวบ้านหมู่ 1 แต่ก็ไม่ได้มีส่วนได้เสียในที่ดินดีงกล่าว ซึ่งการทำประชามติควรจะจบลงตั้งแต่วันดังกล่าวแล้ว
นายไพโรจน์ มกร์ดารา ผู้อำนวยการฝ่ายโครงการพิเศษ เครือสหวิริยา ได้ให้ความเห็นว่า ผลประชามติที่ออกมา เป็นการปฏิบัติตามขั้นตอนอย่างโปร่งใส ตรงไปตรงมา และแสดงถึงการมี ส่วนร่วมของชาวบ้าน ทั้งนี้ บริษัทฯ มีความจำเป็นต้องขออนุญาตใช้ทางสาธารณะดังกล่าว ก่อนหน้านี้บริษัทได้ซื้อที่ดินโดยรอบไว้ทั้งหมด จึงได้ตั้งเรื่องขอนุญาตประกอบกิจการในที่ดินของรัฐในเบื้องต้นก่อน โดยทำเรื่องขออนุญาตการใช้ที่ดินตามกฎหมายที่ดินและขอเพิกถอนที่ดินในกรณีนี้เนื่องจากชาวบ้านไม่ได้ใช้ประโยชน์แล้ว ตามหลักเกณฑ์กฎหมายของการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และบริษัทฯ พร้อมที่จะดำเนินการตามกฎหมายด้วยการชดเชยราคาตามหลักเกณฑ์ นอกจากนี้ จะเสนอที่ดินเพิ่มเติมด้วยการยกให้ หรือเพื่อใช้เป็นสาธารณะตามแต่ชาวบ้านหมู่ 1 จะเห็นสมควรต่อไป
