เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางเขน ได้รับแจ้งเหตุฝาท่อระบายน้ำระเบิด บริเวณตรงข้ามกับ ร.ร.สารวิทยา ถ.พหลโยธินขาออก เป็นระยะทางยาวประมาณ 1 กิโลเมตร โดยเหตุดังกล่าวส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย จึงได้รุดตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบฝาท่อระบายน้ำของกรุงเทพมหานคร (กทม.) ที่ปิดตามริมถนนพหลโยธิน ตั้งแต่ ซ.45-49 ขึ้นไป ซึ่งรวมระยะทางกว่า 1 กิโลเมตร ถูกแรงระเบิดที่อัดออกมาจนพังเสียหายเป็นจำนวนมาก และที่บริเวณที่เกิดเหตุยังมีคราบน้ำมันที่กระเด็นออกมาบนท้องถนน และเปื้อนบ้านเรือนประชาชนเป็นจำนวนมาก โดยร้านที่ได้รับความเสียหายจากแรงละเบิดในครั้งนี้ก็มีจำนวนหลายร้าน และร้านที่ได้รับความเสียหายมากที่สุด คือร้านกาแฟ ชื่อ "ทรู คอฟฟี่" ที่ปลูกเป็นอาคารพาณิชย์สูง 3 ชั้น ถูกแรงระเบิดจนกระจกหน้าร้านแตกละเอียด เพดานด้านหน้าร้านและโคมไฟชั้นล่างพังเสียหายทั้งแถบ นอกจากนี้ ยังทำให้มีผู้ที่กำลังยืนรอรถเมล์ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเซ็นทรัล แล้ว
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบพบว่า สาเหตุของการระเบิดนั้นมาจากมีน้ำมันจำนวนมากอยู่ภายในท่อระบายน้ำและน่าจะออกมาจากปั๊มน้ำมันเก่าที่ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับโรงเรียนที่แอบลักลอบปล่อยทิ้งลงท่อระบายน้ำ ซึ่งอาจมีคนโยนก้นบุหรี่ลงไปจนทำให้เกิดระเบิดขึ้น ซึ่งล่าสุดเจ้าหน้าที่กำลังเร่งฉีดน้ำไล่คราบน้ำมันบนท้องถนน และระบายการจราจรที่หนาแน่นอย่างเร่งด่วนแล้ว
ล่าสุด นายพรเลิศ พันธุ์วัฒนา ผู้อำนวยการเขตจตุจักร เปิดเผยหลังเดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุด้วยตนเอง ว่า ขณะนี้ได้กันจุดเกิดเหตุให้เป็นจุดอันตราย เพื่อไม่ให้ประชาชนเข้าไปในที่เกิดเหตุ เนื่องจากอาจเกิดอันตรายได้ พร้อมกับฉีดน้ำอัดเข้าไปภายในท่อระบายน้ำ เพื่อให้จำนวนน้ำมันมีความเจือจาง พร้อมกับประสานกับสำนักการระบายน้ำให้ดึงน้ำจากท่อลงคลอง และเปลี่ยนฝาท่อระบายน้ำที่ได้รับความเสียหายในทันที ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาไม่นาน ส่วนเรื่องสาเหตุยังไม่สามารถชี้ชัดได้ในขณะนี้ ต้องรอผลสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจก่อนถึงจะทราบ และทาง กทม. ก็เตรียมที่จะแจ้งความกับต้นตอที่ทำให้เหตุทันที เนื่องจากมีทรัพย์สินของ กทม. ได้รับความเสียหายกับเหตุการณ์นี้เป็นจำนวนมาก
ทั้งนี้ มีอีกเบาะแสหนึ่งระบุว่า เมื่อวานนี้ มีคนงานก่อสร้างมารื้อท่อระบายน้ำบริเวณหน้าปั๊มน้ำมัน และระหว่างที่เจาะพื้นลงไปแล้วบังเอิญเจาะโดนถังน้ำมันเก่าที่ยังมีน้ำมันเบนซินหลงเหลืออยู่ ทำให้น้ำมันรั่วไหลลงท่อระบายน้ำ จนในเวลาประมาณ 05.30 น.ที่ผ่านมา ท่อระบายน้ำบริเวณหน้าปั๊มดังกล่าวได้เกิดระเบิดขึ้น จนเป็นเหตุให้นายชนิด โสมทับพงษ์ อายุ 33 ปี ที่กำลังเดินคุยโทรศัพท์ผ่านจุดเกิดเหตุถูกแรงระเบิดจนได้รับบาดเจ็บ ซึ่งในประเด็นนี้ตำรวจก็ต้องเร่งตรวจสอบอีกครั้งว่าจริงเท็จอย่างไร
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบพบว่า สาเหตุของการระเบิดนั้นมาจากมีน้ำมันจำนวนมากอยู่ภายในท่อระบายน้ำและน่าจะออกมาจากปั๊มน้ำมันเก่าที่ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับโรงเรียนที่แอบลักลอบปล่อยทิ้งลงท่อระบายน้ำ ซึ่งอาจมีคนโยนก้นบุหรี่ลงไปจนทำให้เกิดระเบิดขึ้น ซึ่งล่าสุดเจ้าหน้าที่กำลังเร่งฉีดน้ำไล่คราบน้ำมันบนท้องถนน และระบายการจราจรที่หนาแน่นอย่างเร่งด่วนแล้ว
ล่าสุด นายพรเลิศ พันธุ์วัฒนา ผู้อำนวยการเขตจตุจักร เปิดเผยหลังเดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุด้วยตนเอง ว่า ขณะนี้ได้กันจุดเกิดเหตุให้เป็นจุดอันตราย เพื่อไม่ให้ประชาชนเข้าไปในที่เกิดเหตุ เนื่องจากอาจเกิดอันตรายได้ พร้อมกับฉีดน้ำอัดเข้าไปภายในท่อระบายน้ำ เพื่อให้จำนวนน้ำมันมีความเจือจาง พร้อมกับประสานกับสำนักการระบายน้ำให้ดึงน้ำจากท่อลงคลอง และเปลี่ยนฝาท่อระบายน้ำที่ได้รับความเสียหายในทันที ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาไม่นาน ส่วนเรื่องสาเหตุยังไม่สามารถชี้ชัดได้ในขณะนี้ ต้องรอผลสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจก่อนถึงจะทราบ และทาง กทม. ก็เตรียมที่จะแจ้งความกับต้นตอที่ทำให้เหตุทันที เนื่องจากมีทรัพย์สินของ กทม. ได้รับความเสียหายกับเหตุการณ์นี้เป็นจำนวนมาก
ทั้งนี้ มีอีกเบาะแสหนึ่งระบุว่า เมื่อวานนี้ มีคนงานก่อสร้างมารื้อท่อระบายน้ำบริเวณหน้าปั๊มน้ำมัน และระหว่างที่เจาะพื้นลงไปแล้วบังเอิญเจาะโดนถังน้ำมันเก่าที่ยังมีน้ำมันเบนซินหลงเหลืออยู่ ทำให้น้ำมันรั่วไหลลงท่อระบายน้ำ จนในเวลาประมาณ 05.30 น.ที่ผ่านมา ท่อระบายน้ำบริเวณหน้าปั๊มดังกล่าวได้เกิดระเบิดขึ้น จนเป็นเหตุให้นายชนิด โสมทับพงษ์ อายุ 33 ปี ที่กำลังเดินคุยโทรศัพท์ผ่านจุดเกิดเหตุถูกแรงระเบิดจนได้รับบาดเจ็บ ซึ่งในประเด็นนี้ตำรวจก็ต้องเร่งตรวจสอบอีกครั้งว่าจริงเท็จอย่างไร