วานนี้ (1 ส.ค.) นายปานชัย บวรรัตนปราน ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวในการสัมมนา "อุตสาหกรรมเหล็กต้นน้ำและการพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน" ที่ห้องประชุมเทศบาลหัวหิน อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยเป็นการระดมความคิดเห็นจากผู้ประกอบการโรงงานอุตสาหกรรมอาหารกระป๋องในพื้นที่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่า อุตสาหกรรมเหล็กต้นน้ำใน จ.ประจวบคีรีขันธ์ มีความจำเป็น แต่อยากให้ผู้ประกอบการในพื้นที่และหน่วยงานเกี่ยวข้องแสดงจุดยืนให้ชัดเจนว่ามีความจำเป็นหรือไม่อย่างไร ซึ่งหากเห็นความจำเป็น หลังจากนี้ไปก็จะได้มีการวางแผนดำเนินงาน เพื่อทำให้ชุมชนและอุตสาหกรรมอยู่ร่วมกันได้ โดยจะมีการเปิดรับฟังความเห็นของฝ่ายคัดค้านโครงการด้วย
ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์กล่าวว่า อ.บางสะพานและ จ.ชุมพร เป็นทำเลเหมาะสมที่สุดแล้วของประเทศ ในการตั้งโรงถลุงเหล็ก ซึ่งหาก 2 แห่งไม่ได้สร้าง ก็อาจจะมีการย้ายฐานไปสร้างที่ประเทศเพื่อนบ้าน เช่น พม่า ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจประเทศเป็นอย่างมาก
นายวิรัช ปิยพรไพบูลย์ ประธานหอการค้าจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า เห็นด้วยกับการสร้างอุตสาหกรรมเหล็กต้นน้ำ แต่จะต้องมีการจัดระบบดูแลสิ่งแวดล้อมให้จริงจังเหมือนประเทศญี่ปุ่น ซึ่งสามารถอยู่ร่วมกับชุมชนได้ โดยส่วนตัวยอมรับว่า ไม่มั่นใจระบบราชการของไทย ดังนั้นหากจะมีการสร้างโรงถลุงเหล็กจริงควรมีการตั้งคณะกรรมการ 1 ชุด ซึ่งไม่มีความเกี่ยวกับบริษัทเจ้าของโครงการ โดยคณะกรรมการชุดนี้จะทำหน้าที่ติดตามตรวจสอบการดำเนินงานของโรงงาน หากเกิดเหตุการณ์ที่ก่อผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชน ก็มีอำนาจสามารถสั่งให้แก้ไข หรือสั่ง ปิดโรงงานได้ทันที
นายสุพัฒน์ คงเจริญ ตัวแทนกลุ่มพิทักษ์บางสะพาน กล่าวว่า การดำเนินโครงการไม่ควรเป็นเรื่องระหว่างเอกชนกับราชการเท่านั้น ควรที่จะให้ชุมชนมีส่วนร่วมเพื่อให้เกิดการยอมรับด้วย
ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์กล่าวว่า อ.บางสะพานและ จ.ชุมพร เป็นทำเลเหมาะสมที่สุดแล้วของประเทศ ในการตั้งโรงถลุงเหล็ก ซึ่งหาก 2 แห่งไม่ได้สร้าง ก็อาจจะมีการย้ายฐานไปสร้างที่ประเทศเพื่อนบ้าน เช่น พม่า ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจประเทศเป็นอย่างมาก
นายวิรัช ปิยพรไพบูลย์ ประธานหอการค้าจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า เห็นด้วยกับการสร้างอุตสาหกรรมเหล็กต้นน้ำ แต่จะต้องมีการจัดระบบดูแลสิ่งแวดล้อมให้จริงจังเหมือนประเทศญี่ปุ่น ซึ่งสามารถอยู่ร่วมกับชุมชนได้ โดยส่วนตัวยอมรับว่า ไม่มั่นใจระบบราชการของไทย ดังนั้นหากจะมีการสร้างโรงถลุงเหล็กจริงควรมีการตั้งคณะกรรมการ 1 ชุด ซึ่งไม่มีความเกี่ยวกับบริษัทเจ้าของโครงการ โดยคณะกรรมการชุดนี้จะทำหน้าที่ติดตามตรวจสอบการดำเนินงานของโรงงาน หากเกิดเหตุการณ์ที่ก่อผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชน ก็มีอำนาจสามารถสั่งให้แก้ไข หรือสั่ง ปิดโรงงานได้ทันที
นายสุพัฒน์ คงเจริญ ตัวแทนกลุ่มพิทักษ์บางสะพาน กล่าวว่า การดำเนินโครงการไม่ควรเป็นเรื่องระหว่างเอกชนกับราชการเท่านั้น ควรที่จะให้ชุมชนมีส่วนร่วมเพื่อให้เกิดการยอมรับด้วย