นายนพดล ปัทมะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ กล่าวว่า ได้บรรลุข้อตกลงประวัติศาสตร์กับรัฐบาลกัมพูชา โดยฝ่ายกัมพูชายอมพิจารณาขึ้นทะเบียนเฉพาะตัวปราสาท ซึ่งจะไม่กระทบแนวเขตแดน และเตรียมยื่นแผนที่ฉบับใหม่ให้ฝ่ายไทย และยูเนสโก เพื่อพิจารณาประกอบการเสนอขึ้นทะเบียน โดยระบุว่าในแผนที่ใหม่จะไม่ละเมิดพื้นที่ทับซ้อนที่ไทยอ้างสิทธิอยู่ ซึ่งเรื่องนี้ทางด้านฝ่ายความมั่นคงของกองทัพมองว่า ข้อเสนอของฝ่ายกัมพูชาไม่มีอะไรใหม่ เนื่องจากยืนยันมาตลอดว่า จะขึ้นทะเบียนเฉพาะตัวปราสาท และจะไม่กระทบแนวเขตแดนของทั้ง 2 ประเทศ
ส่วนในเรื่องของแผนที่ๆ จะเสนอขึ้นมาใหม่นั้น มีการตั้งข้อสังเกตนั้น เพราะเหตุใดการเจรจาที่ฝรั่งเศส ฝ่ายกัมพูชาจึงไม่เตรียมแผนที่ไว้เพื่อเสนอให้ไทยพิจารณา การอ้างว่าจะนำเสนอกลับให้ไทยอีกครั้งในวันที่ 6 มิถุนายนนี้ ไม่มีหลักประกันว่า ฝ่ายกัมพูชาจะทำตามที่รับปากไว้ และไม่ใช้เป็นการซื้อเวลา เพราะตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา ได้หลีกเลี่ยงที่จะพูดกับไทย ในปัญหาที่เป็นข้อกังวลของไทยมาโดยตลอด นอกจากนี้ฝ่ายกัมพูชายังไมีการปล่อยปละละเลยให้สร้างสิ่งปลูกสร้างบริเวณพื้นที่ทับซ้อนรอบตัวปราสาท
นายนพดล ได้เจรจากับนายซก อัน รองนายกรัฐมนตรีกัมพูชาที่ประเทศฝรั่งเศส โดยมีนางฟรานคอย รีเรียลเร่(***) ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวัฒนธรรมของยูเนสโก เป็นผู้ประสานงานไกล่เกลี่ย ซึ่งนายนพดล กล่าวว่า จะเสนอให้ทางสภาความมั่นคงแห่งชาติพิจารณา เมื่อได้รับแผนที่ฉบับใหม่จากทางการกัมพูชา และหากเป็นที่ยอมรับได้ก็จะร่วมรับรองการขึ้นทะเบียนมรดกโลกครั้งนี้ แผนที่ๆ กล่าวถึงเป็นแผนที่แนบท้ายข้อเสนอของรัฐบาลกัมพูชาที่มีถึงยูเนสโก เพื่อใช้การประกอบการพิจารณาขึ้นทะเบียน โดยในแผนที่ๆ เสนอไปก่อนหน้านี้ ได้รวมเอาพื้นที่ทับซ้อนที่ไทยอ้างสิทธิ เข้าไปรวมในแผนพัฒนาของฝ่ายกัมพูชาด้วย จึงทำให้ไทยคัดค้าน
ส่วนในเรื่องของแผนที่ๆ จะเสนอขึ้นมาใหม่นั้น มีการตั้งข้อสังเกตนั้น เพราะเหตุใดการเจรจาที่ฝรั่งเศส ฝ่ายกัมพูชาจึงไม่เตรียมแผนที่ไว้เพื่อเสนอให้ไทยพิจารณา การอ้างว่าจะนำเสนอกลับให้ไทยอีกครั้งในวันที่ 6 มิถุนายนนี้ ไม่มีหลักประกันว่า ฝ่ายกัมพูชาจะทำตามที่รับปากไว้ และไม่ใช้เป็นการซื้อเวลา เพราะตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา ได้หลีกเลี่ยงที่จะพูดกับไทย ในปัญหาที่เป็นข้อกังวลของไทยมาโดยตลอด นอกจากนี้ฝ่ายกัมพูชายังไมีการปล่อยปละละเลยให้สร้างสิ่งปลูกสร้างบริเวณพื้นที่ทับซ้อนรอบตัวปราสาท
นายนพดล ได้เจรจากับนายซก อัน รองนายกรัฐมนตรีกัมพูชาที่ประเทศฝรั่งเศส โดยมีนางฟรานคอย รีเรียลเร่(***) ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวัฒนธรรมของยูเนสโก เป็นผู้ประสานงานไกล่เกลี่ย ซึ่งนายนพดล กล่าวว่า จะเสนอให้ทางสภาความมั่นคงแห่งชาติพิจารณา เมื่อได้รับแผนที่ฉบับใหม่จากทางการกัมพูชา และหากเป็นที่ยอมรับได้ก็จะร่วมรับรองการขึ้นทะเบียนมรดกโลกครั้งนี้ แผนที่ๆ กล่าวถึงเป็นแผนที่แนบท้ายข้อเสนอของรัฐบาลกัมพูชาที่มีถึงยูเนสโก เพื่อใช้การประกอบการพิจารณาขึ้นทะเบียน โดยในแผนที่ๆ เสนอไปก่อนหน้านี้ ได้รวมเอาพื้นที่ทับซ้อนที่ไทยอ้างสิทธิ เข้าไปรวมในแผนพัฒนาของฝ่ายกัมพูชาด้วย จึงทำให้ไทยคัดค้าน