นายธงทอง จันทรางศุ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการจัดทำข้าวถุงธงฟ้ามหาชน เปิดเผยภายหลังเรียกประชุมผู้เกี่ยวข้อง เป็นเวลานานกว่า 2 ชั่วโมง ว่าที่ประชุมได้ข้อสรุป กำหนดราคาจำหน่ายปลีกข้าวถุงธงฟ้าแก่ประชาชน ในราคาถุงละ 120 บาทต่อ 5 กิโลกรัม โดยจะจำหน่ายภายในเดือนพฤษภาคมนี้ ล็อตแรก จำนวน 100,000 ถุง แบ่งเป็นการจำหน่ายในกรุงเทพมหานคร โดยจะเปิดจำหน่ายครั้งแรกในงานวันสถาปนากรมการค้าภายใน วันที่ 12 พฤษภาคม ที่กระทรวงพาณิชย์ จำนวน 3,000 ถุง ที่เหลือ 73,000 ถุง จะกระจายจำหน่าย 4 จุด ได้แก่ กระทรวงพาณิชย์ สำนักงานองค์การคลังสินค้า ราชบูรณะ กรมส่งเสริมการส่งออก ถ.รัชดาฯ และตลาด อ.ต.ก. ส่วนที่เหลืออีก 27,000 ถุง จะกระจายจำหน่ายใน 9 จังหวัดใหญ่ ได้แก่ อุดรธานี นครราชสีมา สุราษฎร์ธานี สงขลา เชียงใหม่ พิษณุโลก ราชบุรี ลพบุรี และสมุทรปราการ ซึ่งแต่ละจังหวัดจะมีคณะกรรมการบริหารจัดการกระจายข้าวให้ถึงมือประชาชนระดับรากหญ้า
อย่างไรก็ตามคาดว่า ปริมาณข้าวถุงธงฟ้าล็อตแรก 100,000 ถุง จะไม่เพียงพอต่อการจำหน่าย จึงเร่งเตรียมการผลิตข้าวถุงเพิ่ม คาดว่าจะสามารถเพิ่มปริมาณการจำหน่ายภายในเดือนมิถุนายน ได้อีกอย่างน้อย 200,000 ถุง ส่วนราคาข้าวล็อตต่อไป ยังไม่รับปากว่าจะคงจำหน่ายที่ราคา 120 ต่อถุงหรือไม่ เพราะต้องขึ้นอยู่กับราคาตลาดด้วย
สำหรับกรณีที่หลายฝ่ายเกรงว่าข้าวถุงธงฟ้าจะทำให้ราคาข้าวเปลือกที่รับซื้อจากชาวนาตกต่ำลงนั้น อนุกรรมการฯ คาดว่า จะได้เงินจากการจำหน่ายข้าวถุง 300,000 ถุง จำนวน 36 ล้านบาท ภายในเดือนมิถุนายน จากนั้นจะนำเงินกลับไปซื้อข้าวจากชาวนาในราคาท้องตลาด ซึ่งจะทำให้ชาวนาได้รับประโยชน์จากโครงการข้าวถุงธงฟ้าด้วย
อย่างไรก็ตามคาดว่า ปริมาณข้าวถุงธงฟ้าล็อตแรก 100,000 ถุง จะไม่เพียงพอต่อการจำหน่าย จึงเร่งเตรียมการผลิตข้าวถุงเพิ่ม คาดว่าจะสามารถเพิ่มปริมาณการจำหน่ายภายในเดือนมิถุนายน ได้อีกอย่างน้อย 200,000 ถุง ส่วนราคาข้าวล็อตต่อไป ยังไม่รับปากว่าจะคงจำหน่ายที่ราคา 120 ต่อถุงหรือไม่ เพราะต้องขึ้นอยู่กับราคาตลาดด้วย
สำหรับกรณีที่หลายฝ่ายเกรงว่าข้าวถุงธงฟ้าจะทำให้ราคาข้าวเปลือกที่รับซื้อจากชาวนาตกต่ำลงนั้น อนุกรรมการฯ คาดว่า จะได้เงินจากการจำหน่ายข้าวถุง 300,000 ถุง จำนวน 36 ล้านบาท ภายในเดือนมิถุนายน จากนั้นจะนำเงินกลับไปซื้อข้าวจากชาวนาในราคาท้องตลาด ซึ่งจะทำให้ชาวนาได้รับประโยชน์จากโครงการข้าวถุงธงฟ้าด้วย
