สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) โดยโครงการศึกษาและเฝ้าระวังสื่อเพื่อสุขภาวะของสังคม (มีเดีย มอนิเตอร์) แถลงผลการศึกษาและเฝ้าระวังสื่อรอบที่ 21 ในประเด็น “โฆษณาในรายการโทรทัศน์สำหรับเด็ก”
ผศ.ดร.เอื้อจิต วิโรจน์ไตรรัตน์ ผู้อำนวยการโครงการฯ กล่าวว่า จากการศึกษารายการโทรทัศน์เด็กที่มีเรทติ้ง "ด" "ป" และ "ท" ซึ่งมีกลุ่มเป้าหมายผู้ชมเป็นเด็กวัย 3-12 ปี ออกอากาศในช่วงระหว่าง 1-14 มีนาคม 2551 ทางสถานีโทรทัศน์ฟรีทีวี 6 ช่อง และทีวีสาธารณะ พบว่ายังใช้กลยุทธ์ส่งเสริมการขาย "พรีเมี่ยม" คือ ของแถม ของรางวัล ที่เน้นโฆษณาของแถมมากกว่าตัวสินค้า และไม่บอกราคาสินค้าหรือไม่แจ้งเงื่อนไขการรับของแถมหรือชิงโชค นอกจากนี้ ยังมีกลยุทธ์เรื่องขนาดและราคาที่มักไม่แสดงขนาดที่แท้จริงของสินค้า ส่วนผู้นำเสนอหรือพรีเซ็นเตอร์ มักใช้ตัวการ์ตูน ตัวละคร และดารา
ผศ.ดร.เอื้อจิต กล่าวต่อว่า ที่น่าเป็นห่วงคือไม่มีโฆษณาขนมใดในรายการเด็กที่แสดงคำเตือนการบริโภคที่คณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กำหนดให้มี คือบริโภคแต่น้อย และออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ และแทบไม่มีรายการใดที่จัดให้มีเวลาสำหรับเนื้อหาเพื่อการเรียนรู้โภชนาการที่ถูกต้อง ทั้งที่มีระเบียบกำหนดให้ดำเนินการและที่ต้องจับตาเป็นพิเศษ คือ Brand Content หรือการแฝงโฆษณาสินค้าทั้งรายการ เพราะเจ้าของสินค้าคือผู้ผลิตรายการที่คืบคลานเข้าสู่รายการโทรทัศน์สำหรับเด็ก
ทั้งนี้ การโฆษณาสินค้าและบริการในรายการเด็กไม่ควรใช้กลยุทธ์โฆษณาด้วยรูปแบบที่หลากหลาย ทั้งการใช้ดารา ตัวการ์ตูนชื่อดัง ของแถม การชิงโชค หรือกลยุทธ์ Brand Content ที่แฝงผลิตภัณฑ์สินค้าในเนื้อรายการ เป็นอีกกลยุทธ์ที่หลอมรวมการขายเข้ากับเนื้อหาของรายการ ซึ่งทำให้เด็กเกิดความสนใจและตัดสินใจซื้อได้ง่าย เพราะเด็กยังไม่มีวุฒิภาวะและวิจารณญาณเพียงพอต่อการตัดสินใจบริโภค
ผศ.ดร.เอื้อจิต วิโรจน์ไตรรัตน์ ผู้อำนวยการโครงการฯ กล่าวว่า จากการศึกษารายการโทรทัศน์เด็กที่มีเรทติ้ง "ด" "ป" และ "ท" ซึ่งมีกลุ่มเป้าหมายผู้ชมเป็นเด็กวัย 3-12 ปี ออกอากาศในช่วงระหว่าง 1-14 มีนาคม 2551 ทางสถานีโทรทัศน์ฟรีทีวี 6 ช่อง และทีวีสาธารณะ พบว่ายังใช้กลยุทธ์ส่งเสริมการขาย "พรีเมี่ยม" คือ ของแถม ของรางวัล ที่เน้นโฆษณาของแถมมากกว่าตัวสินค้า และไม่บอกราคาสินค้าหรือไม่แจ้งเงื่อนไขการรับของแถมหรือชิงโชค นอกจากนี้ ยังมีกลยุทธ์เรื่องขนาดและราคาที่มักไม่แสดงขนาดที่แท้จริงของสินค้า ส่วนผู้นำเสนอหรือพรีเซ็นเตอร์ มักใช้ตัวการ์ตูน ตัวละคร และดารา
ผศ.ดร.เอื้อจิต กล่าวต่อว่า ที่น่าเป็นห่วงคือไม่มีโฆษณาขนมใดในรายการเด็กที่แสดงคำเตือนการบริโภคที่คณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กำหนดให้มี คือบริโภคแต่น้อย และออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ และแทบไม่มีรายการใดที่จัดให้มีเวลาสำหรับเนื้อหาเพื่อการเรียนรู้โภชนาการที่ถูกต้อง ทั้งที่มีระเบียบกำหนดให้ดำเนินการและที่ต้องจับตาเป็นพิเศษ คือ Brand Content หรือการแฝงโฆษณาสินค้าทั้งรายการ เพราะเจ้าของสินค้าคือผู้ผลิตรายการที่คืบคลานเข้าสู่รายการโทรทัศน์สำหรับเด็ก
ทั้งนี้ การโฆษณาสินค้าและบริการในรายการเด็กไม่ควรใช้กลยุทธ์โฆษณาด้วยรูปแบบที่หลากหลาย ทั้งการใช้ดารา ตัวการ์ตูนชื่อดัง ของแถม การชิงโชค หรือกลยุทธ์ Brand Content ที่แฝงผลิตภัณฑ์สินค้าในเนื้อรายการ เป็นอีกกลยุทธ์ที่หลอมรวมการขายเข้ากับเนื้อหาของรายการ ซึ่งทำให้เด็กเกิดความสนใจและตัดสินใจซื้อได้ง่าย เพราะเด็กยังไม่มีวุฒิภาวะและวิจารณญาณเพียงพอต่อการตัดสินใจบริโภค
