นายแพทย์ประเสริฐ หลุยเจริญ รองอธิบดีกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบคุณภาพน้ำของกรมอนามัย พบว่าส่วนใหญ่ยังไม่สะอาดปลอดภัยตามเกณฑ์มาตรฐาน แต่กลับพบการปนเปื้อนของแบคทีเรีย ทำให้เกิดการปนเปื้อนเชื้อจุลินทรีย์ ก่อให้เกิดการเจ็บป่วยได้
จากการเฝ้าระวังโรคติดต่ออาหารและน้ำ ตั้งแต่เดือนมกราคม - มีนาคม 2551 ทั่วประเทศ พบผู้ป่วยรวม 271,677 ราย เสียชีวิต 37 ราย มากที่สุด คือ อุจจาระร่วง 246,477 ราย เสียชีวิต 35 ราย นอกจากนี้ ยังเป็นสาเหตุทำให้เกิดโรคระบบทางเดินอาหาร เช่น โรคบิด ไทฟอยด์ อาหารเป็นพิษ ไวรัสตับอักเสบเอ ส่งผลกระทบต่อประชาชนทั้งทางร่างกายและจิตใจ ซึ่งโรคเหล่านี้สามารถป้องกันได้ โดยการปฏิบัติให้ถูกสุขลักษณะ สังเกตด้วยตาเปล่า หากพบว่ามีตะไคร่น้ำ เมือก น้ำมีตะกอนสีคล้ำขุ่น ควรล้างทำความสะอาดถังเก็บน้ำ ในกรณีเครื่องกรองน้ำก็จะต้องทำความสะอาดเช่นเดียวกัน รวมทั้งเปลี่ยนวัสดุกรองตามระยะเวลาข้อแนะนำของผลิตภัณฑ์ที่กำหนด
ด้านนายแพทย์สุเทพ เพชรมาก ผู้อำนวยการศูนย์อนามัยที่ 5 นครราชสีมา กล่าวว่า จุดบริการน้ำบริโภคสาธารณะและตู้น้ำหยอดเหรียญ ส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในบริเวณชุมชน ตามสถานที่ออกกำลังกายสวนสาธารณะ ผู้ให้บริการควรให้ความสำคัญในเรื่องการทำความสะอาดตู้เป็นประจำ และควรมีการตรวจคุณภาพน้ำจากบริษัทผู้ติดตั้ง
สำหรับน้ำประปาควรมีคลอรีนตามเกณฑ์มาตรฐานกรมอนามัยไม่น้อยกว่า 0.2 มิลลิกรัมต่อลิตร เพื่อฆ่าเชื้อโรค และป้องกันการเกิดโรคระบบทางเดินอาหาร หากต้องการกำจัดกลิ่นคลอรีน สามารถทำได้โดยรองน้ำประปาใส่ภาชนะ ตั้งทิ้งไว้ประมาณ 20-30 นาที คลอรีนจะระเหยไปเอง ส่วนตู้น้ำดื่มในโรงเรียนต้องไม่ผ่านการซ่อมแซม โดยการนำสารตะกั่วมาเชื่อมรอยต่อ อย่างไรก็ตาม อนามัยเขตต่างๆ ทั่วประเทศ ร่วมกับประปาในท้องถิ่นพัฒนารูปแบบการจัดบริการระบบประปา หากที่ใดผ่านเกณฑ์มาตรฐานน้ำประปาดื่มได้ การประปาส่วนภูมิภาค ร่วมกับกรมอนามัย จะได้ประกาศเป็นพื้นที่น้ำประปาดื่มได้
สุดท้ายในช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้ วอนประชาชนนำน้ำสะอาดมาเล่นสงกรานต์เพื่อความปลอดภัย และขอให้เคารพความเป็นสิทธิส่วนบุคคล อีกทั้งอย่าลืมกลับบ้านรดน้ำดำหัวผู้สูงอายุเพื่อขอพรในเทศกาลปีใหม่ไทย
จากการเฝ้าระวังโรคติดต่ออาหารและน้ำ ตั้งแต่เดือนมกราคม - มีนาคม 2551 ทั่วประเทศ พบผู้ป่วยรวม 271,677 ราย เสียชีวิต 37 ราย มากที่สุด คือ อุจจาระร่วง 246,477 ราย เสียชีวิต 35 ราย นอกจากนี้ ยังเป็นสาเหตุทำให้เกิดโรคระบบทางเดินอาหาร เช่น โรคบิด ไทฟอยด์ อาหารเป็นพิษ ไวรัสตับอักเสบเอ ส่งผลกระทบต่อประชาชนทั้งทางร่างกายและจิตใจ ซึ่งโรคเหล่านี้สามารถป้องกันได้ โดยการปฏิบัติให้ถูกสุขลักษณะ สังเกตด้วยตาเปล่า หากพบว่ามีตะไคร่น้ำ เมือก น้ำมีตะกอนสีคล้ำขุ่น ควรล้างทำความสะอาดถังเก็บน้ำ ในกรณีเครื่องกรองน้ำก็จะต้องทำความสะอาดเช่นเดียวกัน รวมทั้งเปลี่ยนวัสดุกรองตามระยะเวลาข้อแนะนำของผลิตภัณฑ์ที่กำหนด
ด้านนายแพทย์สุเทพ เพชรมาก ผู้อำนวยการศูนย์อนามัยที่ 5 นครราชสีมา กล่าวว่า จุดบริการน้ำบริโภคสาธารณะและตู้น้ำหยอดเหรียญ ส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในบริเวณชุมชน ตามสถานที่ออกกำลังกายสวนสาธารณะ ผู้ให้บริการควรให้ความสำคัญในเรื่องการทำความสะอาดตู้เป็นประจำ และควรมีการตรวจคุณภาพน้ำจากบริษัทผู้ติดตั้ง
สำหรับน้ำประปาควรมีคลอรีนตามเกณฑ์มาตรฐานกรมอนามัยไม่น้อยกว่า 0.2 มิลลิกรัมต่อลิตร เพื่อฆ่าเชื้อโรค และป้องกันการเกิดโรคระบบทางเดินอาหาร หากต้องการกำจัดกลิ่นคลอรีน สามารถทำได้โดยรองน้ำประปาใส่ภาชนะ ตั้งทิ้งไว้ประมาณ 20-30 นาที คลอรีนจะระเหยไปเอง ส่วนตู้น้ำดื่มในโรงเรียนต้องไม่ผ่านการซ่อมแซม โดยการนำสารตะกั่วมาเชื่อมรอยต่อ อย่างไรก็ตาม อนามัยเขตต่างๆ ทั่วประเทศ ร่วมกับประปาในท้องถิ่นพัฒนารูปแบบการจัดบริการระบบประปา หากที่ใดผ่านเกณฑ์มาตรฐานน้ำประปาดื่มได้ การประปาส่วนภูมิภาค ร่วมกับกรมอนามัย จะได้ประกาศเป็นพื้นที่น้ำประปาดื่มได้
สุดท้ายในช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้ วอนประชาชนนำน้ำสะอาดมาเล่นสงกรานต์เพื่อความปลอดภัย และขอให้เคารพความเป็นสิทธิส่วนบุคคล อีกทั้งอย่าลืมกลับบ้านรดน้ำดำหัวผู้สูงอายุเพื่อขอพรในเทศกาลปีใหม่ไทย