xs
xsm
sm
md
lg

กรมอนามัยเตือนระวังโรคจากน้ำดื่ม เหตุภาชนะเก็บ-เครื่องกรองไม่สะอาด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


กรมอนามัย เตือนระวังโรคจากน้ำดื่ม เหตุภาชนะเก็บน้ำและเครื่องกรองน้ำไม่สะอาด ปนเปื้อนจุลินทรีย์ เผยตัวเลขช่วง 3 เดือนแรกของปี 51 ทั่วประเทศมีผู้ป่วย 271,677 ราย เสียชีวิต 37 ราย ป่วยอุจจาระร่วงมากที่สุด รณรงค์ทำความสะอาด ขัด ล้าง เมือก และตะไคร่น้ำ ในถังเก็บน้ำทั้งบนดิน และใต้ดิน หอถังสูง โอ่งน้ำ เครื่องกรองน้ำ ตู้น้ำดื่ม และตู้น้ำหยอดเหรียญ พร้อมกันทั่วประเทศ

วานนี้ (9 เม.ย.) ที่ร.ร.รัตนาธิเบศร์  จังหวัดนนทบุรีนพ.ประเสริฐ หลุยเจริญ รองอธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยในการแถลงข่าวโครงการเฝ้าระวังน้ำดื่มไทยสู่สุขภาพ ว่า จากการตรวจสอบคุณภาพน้ำของกรมอนามัย พบว่า ส่วนใหญ่ยังไม่สะอาดปลอดภัยตามเกณฑ์มาตรฐานคุณภาพบริโภคกรมอนามัยปี พ.ศ.2543 โดยพบว่าครัวเรือน โรงเรียน และสถานประกอบการต่างๆ ใช้น้ำประปาที่คุณภาพน้ำอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน แต่กลับพบการปนเปื้อนของแบคทีเรียเนื่องจากความไม่สะอาดของภาชนะเก็บน้ำ เครื่องกรองน้ำ และความไม่ถูกสุขลักษณะของวิธีการเก็บน้ำดื่ม ทำให้เกิดการปนเปื้อนเชื้อจุลินทรีย์ ที่ก่อให้เกิดการเจ็บป่วยได้  จากการเฝ้าระวังโรคติดต่อจากอาหารและน้ำ ตั้งแต่เดือน ม.ค.-15 มี.ค.2551 ทั่วประเทศพบผู้ป่วยรวม 271,677 ราย เสียชีวิต 37 ราย มากที่สุดคืออุจจาระร่วง ป่วย 246,477 ราย เสียชีวิต 35 ราย

นอกจากนี้ ยังเป็นสาเหตุทำให้เกิดการเจ็บป่วยด้วยโรคระบบทางเดินอาหารอื่นๆ เช่น โรคบิด ไทฟอยด์ อาหารเป็นพิษ ไวรัสตับอักเสบเอ ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนโดยตรงทั้งทางร่างกายและจิตใจ ทำให้ประกอบอาชีพไม่ได้ และกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ ซึ่งโรคเหล่านี้เราสามารถป้องกันได้ โดยการปฏิบัติให้ถูกสุขอนามัย 

นพ.ประเสริฐ  กล่าวแนะนำว่า  เบื้องต้นสามารถป้องกันปัญหาดังกล่าวจากการสังเกตด้วยตาเปล่า หากพบว่ามีตะไคร่น้ำ เมือก น้ำมีตะกอน สีคล้ำ ขุ่น ควรล้างทำความสะอาดถังเก็บน้ำ ในกรณีเครื่องกรองน้ำ ก็จะต้องทำความสะอาดเช่นเดียวกัน รวมทั้งเปลี่ยนวัสดุกรองตามระยะเวลาข้อแนะนำของผลิตภัณฑ์ที่กำหนด

สำหรับจุดบริการน้ำบริโภคสาธารณะ และตู้น้ำหยอดเหรียญส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในบริเวณชุมชน ตามสถานที่ออกกำลังกาย สวนสาธารณะ ผู้ให้บริการควรให้ความสำคัญในเรื่อง การทำความสะอาดตู้เป็นประจำและควรมีการตรวจคุณภาพน้ำภาคสนามจากบริษัทผู้ติดตั้ง ตรวจสอบ และเปลี่ยนวัสดุกรองตามระยะเวลากำหนด สำหรับน้ำประปาในระบบท่อควรมีคลอรีนอิสระคงเหลือ ตามเกณฑ์มาตรฐานของกรมอนามัยไม่น้อยกว่า 0.2 มิลลิกรัมต่อลิตรเพื่อฆ่าเชื้อโรค และป้องกันการเกิดโรคระบบทางเดินอาหาร หากต้องการกำจัดกลิ่นคลอรีนสามารถทำได้โดยรองน้ำประปาใส่ในภาชนะที่สะอาดตั้งทิ้งไว้ประมาณ 20-30 นาที คลอรีนจะระเหยไปเอง ส่วนตู้น้ำดื่มในโรงเรียนต้องไม่ผ่านการซ่อมแซม โดยการนำตะกั่วมาเชื่อมรอยต่อ รอยแตก
กำลังโหลดความคิดเห็น