ประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช ของสหรัฐฯ อนุมัติความช่วยเหลือด้านอาหารฉุกเฉิน 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 6,400 ล้านบาท) เพื่อบรรเทาภาวะการขาดแคลนอาหารในประเทศกำลังพัฒนาแถบแอฟริกาและในหลายพื้นที่
ทั้งนี้ ประธานาธิบดีบุช สั่งอนุมัติความช่วยเหลือฉุกเฉินหลังจากเจ้าหน้าที่ด้านการพัฒนา และการคลังระดับสูงจากทั่วโลกเรียกร้องให้ดำเนินมาตรการเร่งด่วนเพื่อสกัดกั้นราคาอาหารที่พุ่งสูงขึ้น อีกทั้งยังเตือนว่าอาจเกิดเหตุการณ์ไม่สงบลุกลามบานปลาย หากยังไม่สามารถควบคุมราคาอาหารหลักได้ ความช่วยเหลือฉุกเฉินดังกล่าวมาจากบิล อีเมอร์สัน ฮิวแมนิแทเรียน ทรัสต์ คลังอาหารสำรองฉุกเฉินสำหรับประเทศกำลังพัฒนา โดยผ่านสำนักงานเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐฯ
โฆษกทำเนียบขาวกล่าวว่า ประธานาธิบดีบุช รู้สึกกังวลหลังจากได้รับรายงานเกี่ยวกับวิกฤตการณ์ด้านอาหารในระหว่างการประชุมคณะรัฐมนตรี และขอร้องให้ที่ปรึกษาระดับสูงหาทางว่าสหรัฐฯ จะช่วยเหลือในการบรรเทาภาวะการขาดแคลนอาหารได้อย่างไร โดยเมื่อปีงบประมาณ 2550 รัฐบาลสหรัฐฯ อนุมัติความช่วยเหลือด้านอาหารแก่นานาประเทศกว่า 2,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (67,200 ล้านบาท)
ทั้งนี้ ประธานาธิบดีบุช สั่งอนุมัติความช่วยเหลือฉุกเฉินหลังจากเจ้าหน้าที่ด้านการพัฒนา และการคลังระดับสูงจากทั่วโลกเรียกร้องให้ดำเนินมาตรการเร่งด่วนเพื่อสกัดกั้นราคาอาหารที่พุ่งสูงขึ้น อีกทั้งยังเตือนว่าอาจเกิดเหตุการณ์ไม่สงบลุกลามบานปลาย หากยังไม่สามารถควบคุมราคาอาหารหลักได้ ความช่วยเหลือฉุกเฉินดังกล่าวมาจากบิล อีเมอร์สัน ฮิวแมนิแทเรียน ทรัสต์ คลังอาหารสำรองฉุกเฉินสำหรับประเทศกำลังพัฒนา โดยผ่านสำนักงานเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐฯ
โฆษกทำเนียบขาวกล่าวว่า ประธานาธิบดีบุช รู้สึกกังวลหลังจากได้รับรายงานเกี่ยวกับวิกฤตการณ์ด้านอาหารในระหว่างการประชุมคณะรัฐมนตรี และขอร้องให้ที่ปรึกษาระดับสูงหาทางว่าสหรัฐฯ จะช่วยเหลือในการบรรเทาภาวะการขาดแคลนอาหารได้อย่างไร โดยเมื่อปีงบประมาณ 2550 รัฐบาลสหรัฐฯ อนุมัติความช่วยเหลือด้านอาหารแก่นานาประเทศกว่า 2,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (67,200 ล้านบาท)