สำนักข่าวซินหัวของทางการจีนรายงานอ้างคำแถลงของนายโดมินิก เสตราส์-คาห์น กรรมการผู้จัดการกองทุนการเงินระหว่างประเท หรือ ไอเอ็มเอฟ วานนี้ว่า ราคาสินค้าที่พุ่งสูงขึ้นจะนำไปสู่ภาวะเงินเฟ้อรอบใหม่ด้วยท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว ซึ่งเป็นปัญหาที่น่าวิตก
กรรมการผู้จัดการไอเอ็มเอฟ ชี้ว่า ราคาอาหารในตลาดโลกได้พุ่งสูงขึ้นถึงร้อยละ 48 แล้วนับจากสิ้นปี 2549 และว่ากลุ่มประเทศกำลังพัฒนาในทวีปเอเชียและแอฟริกา จะได้รับผลกระทบจากราคารอาหารที่พุ่งสูงขึ้นมากกว่าภูมิภาคอื่นๆ
ด้านนายโรเบิร์ต โซลลิก ประธานธนาคารโลก หรือ เวิลด์แบงก์ เตือนว่า ราคาอาหารที่ปรับสูงขึ้นจะทำให้ความพยายามของประเทศต่าง ๆ ที่จะคลี่คลายปัญหาความยากจนในประเทศต้องล่าช้าออกไปประมาณ 7 ปี พร้อมทั้งเรียกร้องให้กลุ่มประเทศอุตสาหกรรมส่งเงินเข้าสมทบโครงการอาหารโลก หรือ ดับเบิลยูเอฟพี ของสหประชาชาติ หรือ ยูเอ็น ที่ยังต้องการเงินทุนถึง 500,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 16 ล้านล้านบาท) เพื่อให้ความช่วยเหลือด้านอาหารฉุกเฉินแก่กลุ่มประเทศยากจน
กรรมการผู้จัดการไอเอ็มเอฟ ชี้ว่า ราคาอาหารในตลาดโลกได้พุ่งสูงขึ้นถึงร้อยละ 48 แล้วนับจากสิ้นปี 2549 และว่ากลุ่มประเทศกำลังพัฒนาในทวีปเอเชียและแอฟริกา จะได้รับผลกระทบจากราคารอาหารที่พุ่งสูงขึ้นมากกว่าภูมิภาคอื่นๆ
ด้านนายโรเบิร์ต โซลลิก ประธานธนาคารโลก หรือ เวิลด์แบงก์ เตือนว่า ราคาอาหารที่ปรับสูงขึ้นจะทำให้ความพยายามของประเทศต่าง ๆ ที่จะคลี่คลายปัญหาความยากจนในประเทศต้องล่าช้าออกไปประมาณ 7 ปี พร้อมทั้งเรียกร้องให้กลุ่มประเทศอุตสาหกรรมส่งเงินเข้าสมทบโครงการอาหารโลก หรือ ดับเบิลยูเอฟพี ของสหประชาชาติ หรือ ยูเอ็น ที่ยังต้องการเงินทุนถึง 500,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 16 ล้านล้านบาท) เพื่อให้ความช่วยเหลือด้านอาหารฉุกเฉินแก่กลุ่มประเทศยากจน