นายสมชัย สัจจพงษ์ ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการคลัง สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงผลการจัดเก็บรายได้รัฐบาลประจำเดือนมีนาคม 2551 ว่า สามารถจัดเก็บได้ 92,841 ล้านบาท ต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 6,916 ล้านบาท แต่อย่างไรก็ดี การจัดเก็บรายได้รัฐบาลในช่วง 6 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2551 (ตุลาคม 2550 - มีนาคม 2551) ยังสูงกว่าประมาณการ 1,940 ล้านบาท
ทั้งนี้ สาเหตุสำคัญที่ทำให้รายได้ต่ำกว่าเป้าหมาย มาจากรัฐวิสาหกิจไม่สามารถนำส่งรายได้ตามแผนที่กำหนดไว้ โดยนำส่งรายได้ต่ำกว่าเป้าหมาย 6,162 ล้านบาท รวมทั้งการจัดเก็บรายได้ของส่วนราชการอื่นไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ นอกจากนี้ ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ภาษีธุรกิจเฉพาะ และภาษีสรรพสามิตหลายประเภทจัดเก็บได้ต่ำกว่าเป้าหมายด้วย อย่างไรก็ดี มีภาษีที่จัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการที่สำคัญ ได้แก่ ภาษีเงินได้นิติบุคคล ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีสรรพสามิตรถยนต์ และอากรขาเข้า
สำหรับในช่วง 6 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2551 รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิ 629,650 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 1,940 ล้านบาท หรือร้อยละ 0.3 (สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 2.9) เป็นผลจากการจัดเก็บภาษีกรมสรรพากรและกรมศุลกากรสูงกว่าเป้าหมายเป็นสาเหตุหลัก
นายสมชัย กล่าวว่า ผลการจัดเก็บรายได้ในช่วง 6 เดือนแรกของปีงบประมาณของกรมสรรพากร จัดเก็บได้รวม 481,885 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 12,817 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 2.7 โดยภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา และภาษีธุรกิจเฉพาะจัดเก็บได้ต่ำกว่าเป้าหมาย เป็นผลจากอัตราดอกเบี้ยทั้งเงินฝากและเงินกู้อยู่ในระดับที่ต่ำประกอบกับมาตรการทางภาษีที่ลดอัตราภาษี ธุรกิจ เฉพาะสำหรับรายรับจากธุรกรรมบางประเภทของสถาบันการเงิน
ขณะที่กรมสรรพสามิต จัดเก็บได้รวม 145,843 ล้านบาท ใกล้เคียงกับเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยต่ำกว่าเพียง 871 ล้านบาท หรือร้อยละ 0.6 (ต่ำกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 2.7 แต่ถ้าหักรายได้จากภาษีกิจการโทรคมนาคมของปีที่แล้วออก จะสูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 3,241 ล้านบาท หรือร้อยละ 2.3) โดยภาษีที่จัดเก็บได้ต่ำกว่าเป้าหมายที่สำคัญ ได้แก่ ภาษียาสูบ และภาษีสรรพสามิตรถยนต์เป็นผลจากผู้บริโภคชะลอการซื้อรถยนต์นั่งในช่วงก่อนหน้า ส่วนกรมศุลกากร จัดเก็บได้รวม 49,136 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 4,396 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 9.8
สำหรับรัฐวิสาหกิจ นำส่งรายได้รวม 43,790 ล้านบาท ต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 8,503 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 16.3 ซึ่งเป็นผลจากบริษัททีโอทีฯ และบริษัท กสท โทรคมนาคมฯ ยังไม่นำส่งรายได้จากค่าธรรมเนียมการให้บริการการสื่อสาร และรัฐวิสาหกิจบางแห่งยังไม่สามารถนำส่งรายได้ได้เนื่องจากสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินยังไม่รับรองงบการเงิน
นายสมชัย กล่าวอีกว่า จากผลการจัดเก็บรายได้รัฐบาลในช่วง 6 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2551 ที่สูงกว่าประมาณการ 1,940 ล้านบาท แต่ผลจากมาตรการภาษีเพื่อกระตุ้นและฟื้นฟูเศรษฐกิจ เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2551 ที่จะส่งผลกระทบต่อการจัดเก็บรายได้ของกรมสรรพากรในช่วง 6 เดือนหลังของปีงบประมาณ 2551 กระทรวงการคลังคาดว่าการจัดเก็บรายได้รัฐบาลในปีนี้จะต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 1.495 ล้านล้านบาท ประมาณร้อยละ 1.0
ทั้งนี้ สาเหตุสำคัญที่ทำให้รายได้ต่ำกว่าเป้าหมาย มาจากรัฐวิสาหกิจไม่สามารถนำส่งรายได้ตามแผนที่กำหนดไว้ โดยนำส่งรายได้ต่ำกว่าเป้าหมาย 6,162 ล้านบาท รวมทั้งการจัดเก็บรายได้ของส่วนราชการอื่นไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ นอกจากนี้ ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ภาษีธุรกิจเฉพาะ และภาษีสรรพสามิตหลายประเภทจัดเก็บได้ต่ำกว่าเป้าหมายด้วย อย่างไรก็ดี มีภาษีที่จัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการที่สำคัญ ได้แก่ ภาษีเงินได้นิติบุคคล ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีสรรพสามิตรถยนต์ และอากรขาเข้า
สำหรับในช่วง 6 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2551 รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิ 629,650 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 1,940 ล้านบาท หรือร้อยละ 0.3 (สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 2.9) เป็นผลจากการจัดเก็บภาษีกรมสรรพากรและกรมศุลกากรสูงกว่าเป้าหมายเป็นสาเหตุหลัก
นายสมชัย กล่าวว่า ผลการจัดเก็บรายได้ในช่วง 6 เดือนแรกของปีงบประมาณของกรมสรรพากร จัดเก็บได้รวม 481,885 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 12,817 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 2.7 โดยภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา และภาษีธุรกิจเฉพาะจัดเก็บได้ต่ำกว่าเป้าหมาย เป็นผลจากอัตราดอกเบี้ยทั้งเงินฝากและเงินกู้อยู่ในระดับที่ต่ำประกอบกับมาตรการทางภาษีที่ลดอัตราภาษี ธุรกิจ เฉพาะสำหรับรายรับจากธุรกรรมบางประเภทของสถาบันการเงิน
ขณะที่กรมสรรพสามิต จัดเก็บได้รวม 145,843 ล้านบาท ใกล้เคียงกับเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยต่ำกว่าเพียง 871 ล้านบาท หรือร้อยละ 0.6 (ต่ำกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 2.7 แต่ถ้าหักรายได้จากภาษีกิจการโทรคมนาคมของปีที่แล้วออก จะสูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 3,241 ล้านบาท หรือร้อยละ 2.3) โดยภาษีที่จัดเก็บได้ต่ำกว่าเป้าหมายที่สำคัญ ได้แก่ ภาษียาสูบ และภาษีสรรพสามิตรถยนต์เป็นผลจากผู้บริโภคชะลอการซื้อรถยนต์นั่งในช่วงก่อนหน้า ส่วนกรมศุลกากร จัดเก็บได้รวม 49,136 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 4,396 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 9.8
สำหรับรัฐวิสาหกิจ นำส่งรายได้รวม 43,790 ล้านบาท ต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 8,503 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 16.3 ซึ่งเป็นผลจากบริษัททีโอทีฯ และบริษัท กสท โทรคมนาคมฯ ยังไม่นำส่งรายได้จากค่าธรรมเนียมการให้บริการการสื่อสาร และรัฐวิสาหกิจบางแห่งยังไม่สามารถนำส่งรายได้ได้เนื่องจากสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินยังไม่รับรองงบการเงิน
นายสมชัย กล่าวอีกว่า จากผลการจัดเก็บรายได้รัฐบาลในช่วง 6 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2551 ที่สูงกว่าประมาณการ 1,940 ล้านบาท แต่ผลจากมาตรการภาษีเพื่อกระตุ้นและฟื้นฟูเศรษฐกิจ เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2551 ที่จะส่งผลกระทบต่อการจัดเก็บรายได้ของกรมสรรพากรในช่วง 6 เดือนหลังของปีงบประมาณ 2551 กระทรวงการคลังคาดว่าการจัดเก็บรายได้รัฐบาลในปีนี้จะต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 1.495 ล้านล้านบาท ประมาณร้อยละ 1.0