ธนาคารโลก เปิดเผยรายงานผลการติดตามภาวะเศรษฐกิจไทยเป็นครั้งแรกของปีนี้ว่า เศรษฐกิจไทยปีนี้ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลง และการที่ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง จะส่งผลให้การส่งออกในปีนี้ชะลอตัวลงกว่าปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ราคาน้ำมันที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นยังเป็นแรงกดดันให้เงินเฟ้อในประเทศเพิ่มสูงขึ้นด้วย ซึ่งมีผลต่อการบริโภค แม้ว่ารัฐบาลจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระดับฐานรากออกมาอย่างต่อเนื่องแล้วก็ตาม
ธนาคารโลกยังคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยในปีนี้จะขยายตัว 5 เปอร์เซนต์ และมีความเสี่ยงว่าอาจจะขยายตัวได้น้อยกว่า 5 เปอร์เซ็นต์ สถานการณ์ทางการเมืองยังไม่ชัดเจน และหากมีการเปลี่ยนแปลงกะทันหันขึ้นในอนาคตอาจกระทบกับความเชื่อมั่น การลงทุน และการบริโภคในประเทศ
ทั้งนี้ ธนาคารโลก เห็นว่าไทยควรใช้มาตรการทางการคลังในการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้น มากกว่าใช้นโยบายการเงินในการลดอัตราดอกเบี้ย เพราะขณะนี้อัตราดอกเบี้ยของไทยถือว่าต่ำมากแล้ว และยังมีความเสี่ยงจากอัตราเงินเฟ้อที่แนวโน้มสูงขึ้นโดยคาดว่าเงินเฟ้อของไทยปีนี้จะอยู่ที่ 5 - 5.5 เปอร์เซ็นต์
ธนาคารโลกยังคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยในปีนี้จะขยายตัว 5 เปอร์เซนต์ และมีความเสี่ยงว่าอาจจะขยายตัวได้น้อยกว่า 5 เปอร์เซ็นต์ สถานการณ์ทางการเมืองยังไม่ชัดเจน และหากมีการเปลี่ยนแปลงกะทันหันขึ้นในอนาคตอาจกระทบกับความเชื่อมั่น การลงทุน และการบริโภคในประเทศ
ทั้งนี้ ธนาคารโลก เห็นว่าไทยควรใช้มาตรการทางการคลังในการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้น มากกว่าใช้นโยบายการเงินในการลดอัตราดอกเบี้ย เพราะขณะนี้อัตราดอกเบี้ยของไทยถือว่าต่ำมากแล้ว และยังมีความเสี่ยงจากอัตราเงินเฟ้อที่แนวโน้มสูงขึ้นโดยคาดว่าเงินเฟ้อของไทยปีนี้จะอยู่ที่ 5 - 5.5 เปอร์เซ็นต์