นายปกรณ์ ปรียากร อดีตคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญปี 50 ยืนยันถึงเจตนารมณ์ของการยกร่างในหมวดที่เกี่ยวข้องกับการเมือง ล้วนเป็นไปเพื่อให้เกิดผลประโยชน์ต่อประชาชนอย่างแท้จริง โดยเฉพาะมาตรา 237 ว่าด้วยความผิดของกรรมการบริหารพรรค ที่เชื่อมโยงไปถึงการยุบพรรค ถือเป็นการกลั่นกรองบุคคลเข้าสู่วการเมืองอย่างใสสะอาด และได้มาซึ่งฝ่ายบริหารที่บริสุทธิ์
นายปกรณ์ ยืนยันด้วยว่า ไม่เคยคิดวางยาทางการเมืองใคร และการเป็นนักวิชาการมีประสบการณ์เพียงพอ ไม่จำเป็นต้องเป็นนักการเมืองถึงจะเขียนกฎหมายการเมืองได้อย่างถ่องแท้ และยอมรับได้ หากคณะรัฐมนตรี หรือ ส.ส.จะเสนอแก้รัฐธรรมนูญ แต่ควรมีเหตุผลชี้แจงต่อสังคมได้ เช่นเดียวกับ
นายวุฒิสาร ตันไชย อดีตคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ เห็นว่า เป็นสิทธิ์ของผู้ใช้รัฐธรรมนูญที่จะเสนอแก้ไข แต่ควรเป็นไปเพื่อประโยชน์ของมหาชน ใช่เพียงของคนเพียงแค่กลุ่มเดียว และยืนยันว่าปัญหาทางการเมืองไม่ได้เกิดจากรัฐธรรมนูญวางยา แต่อยู่ที่การตีความของกฎหมาย
นายปกรณ์ ยืนยันด้วยว่า ไม่เคยคิดวางยาทางการเมืองใคร และการเป็นนักวิชาการมีประสบการณ์เพียงพอ ไม่จำเป็นต้องเป็นนักการเมืองถึงจะเขียนกฎหมายการเมืองได้อย่างถ่องแท้ และยอมรับได้ หากคณะรัฐมนตรี หรือ ส.ส.จะเสนอแก้รัฐธรรมนูญ แต่ควรมีเหตุผลชี้แจงต่อสังคมได้ เช่นเดียวกับ
นายวุฒิสาร ตันไชย อดีตคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ เห็นว่า เป็นสิทธิ์ของผู้ใช้รัฐธรรมนูญที่จะเสนอแก้ไข แต่ควรเป็นไปเพื่อประโยชน์ของมหาชน ใช่เพียงของคนเพียงแค่กลุ่มเดียว และยืนยันว่าปัญหาทางการเมืองไม่ได้เกิดจากรัฐธรรมนูญวางยา แต่อยู่ที่การตีความของกฎหมาย
