นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี เริ่มแถลงนโยบายรัฐบาลด้วยการชี้ให้เห็นว่าประเทศต้องเผชิญกับปัญหาเศรษฐกิจโลก 2 เรื่องใหญ่ คือปัญหาหนี้ด้อยคุณภาพของอสังหาริมทรัพย์ในประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจ และปัญหาราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก ที่ล้วนแต่มีผลกระทบโดยตรงกับเศรษฐกิจไทย ดังนั้นรัฐบาลจึงต้องให้ความสำคัญกับการวางรากฐานในทุกด้านด้วยความมั่นคงและยั่งยืน ส่งเสริมภาคการผลิตและบริการ และย้ำที่จะให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาความรุนแรงใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างจริงจัง โดยยืนยันที่จะเร่งดำเนินการตามกรอบนโยบายเร่งด่วน ในปีแรก 19 เรื่อง รวมถึงเรื่องของการพัฒนาสังคมและคุณภาพชีวิต ที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม การต่างประเทศ และเศรษฐกิจระหว่างประเทศ ความมั่นคงของรัฐและการบริหารจัดการที่ดี ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนโยบายที่เน้นไปยังโครงการประชานิยม อาทิ โครงการเอสเอ็มแอล โครงการธนาคารประชาชน โครงการโอท็อป โครงการพักชำระหนี้ และที่เรียกกันว่า โครงการนโยบายตามประชานิยม
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้าน ตั้งข้อสังเกตถึงภาพรวมของนโยบาย เป็นการสานต่อรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมกับตั้งคำถามว่า นโยบายทั้งหมดจะทำเพื่อใคร พร้อมย้ำให้เชื่อมั่นถึงการทำงานของฝ่ายค้าน ที่จะทำงานอย่างตรงไปตรงมา หากรัฐบาลล้มก็จะล้มด้วยเสถียรภาพและแนวทางการบริหารของรัฐบาลเองอย่างแน่นอน ฝ่ายค้านจะไม่ทำสิ่งใดที่แสวงหาผลประโยชน์เพื่อตัวเองและพวกพ้อง
ผู้นำฝ่ายค้าน ให้ความสำคัญกับนโยบายด้านการศึกษาเป็นอันดับแรก และพยายามอภิปรายถึงแนวทางการแก้ปัญหาด้านการศึกษา โดยเฉพาะแนวทางการปฏิรูปการศึกษา รวมถึงการกำหนดแผนการศึกษาขั้นพื้นฐาน ที่จะต้องเรียนฟรี และฟรีจริง พร้อมเสนอให้เริ่มดำเนินการได้ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2552 และควรมีนโยบาย "คืนครูให้นักเรียน" เนื่องจากประเทศขาดแคลนบุคลากรครู
การอภิปรายในวันนี้ นอกจากผู้นำฝ่ายค้านจะให้ความสำคัญไปที่การศึกษาแล้ว พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะฝ่ายค้าน ก็ให้ความสำคัญในเรื่องการแก้ไขปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเฉพาะเรื่องของผู้ก่อสถานการณ์ความไม่สงบ
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้าน ตั้งข้อสังเกตถึงภาพรวมของนโยบาย เป็นการสานต่อรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมกับตั้งคำถามว่า นโยบายทั้งหมดจะทำเพื่อใคร พร้อมย้ำให้เชื่อมั่นถึงการทำงานของฝ่ายค้าน ที่จะทำงานอย่างตรงไปตรงมา หากรัฐบาลล้มก็จะล้มด้วยเสถียรภาพและแนวทางการบริหารของรัฐบาลเองอย่างแน่นอน ฝ่ายค้านจะไม่ทำสิ่งใดที่แสวงหาผลประโยชน์เพื่อตัวเองและพวกพ้อง
ผู้นำฝ่ายค้าน ให้ความสำคัญกับนโยบายด้านการศึกษาเป็นอันดับแรก และพยายามอภิปรายถึงแนวทางการแก้ปัญหาด้านการศึกษา โดยเฉพาะแนวทางการปฏิรูปการศึกษา รวมถึงการกำหนดแผนการศึกษาขั้นพื้นฐาน ที่จะต้องเรียนฟรี และฟรีจริง พร้อมเสนอให้เริ่มดำเนินการได้ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2552 และควรมีนโยบาย "คืนครูให้นักเรียน" เนื่องจากประเทศขาดแคลนบุคลากรครู
การอภิปรายในวันนี้ นอกจากผู้นำฝ่ายค้านจะให้ความสำคัญไปที่การศึกษาแล้ว พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะฝ่ายค้าน ก็ให้ความสำคัญในเรื่องการแก้ไขปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเฉพาะเรื่องของผู้ก่อสถานการณ์ความไม่สงบ