ผลสำรวจเมื่อวานนี้ (11 ม.ค.) ระบุว่า นางฮิลลารี คลินตัน ซึ่งคาดหวังที่จะขึ้นมาเป็นประธานาธิบดีหญิงคนแรกของสหรัฐฯ ขึ้นมามีคะแนนนำเหนือคู่แข่ง หลังคว้าชัยชนะในการเลือกตั้งขั้นต้นที่รัฐนิวแฮมป์เชียร์ โดยอดีตสุภาพสตรีหมายเลข 1ได้รับความนิยมร้อยละ 49 ตามมาด้วยนายบารัก โอบามา ร้อยละ 36 และนายจอห์น เอ็ดเวิร์ดส ร้อยละ 12 ตามลำดับ
รายงานระบุว่า ทั้งนางคลินตัน และนายโอบามา ซึ่งเป็นคู่แข่งคนสำคัญต่างขับเคี่ยวหาเสียงกันในรัฐฝั่งตะวันตก เพื่อปูฐานคะแนนสำหรับการเลือกตั้งขั้นต้นในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ ซึ่งจะมีขึ้นพร้อมกันมากกว่า 20 รัฐ โดยในการหาเสียงที่รัฐแคลิฟอร์เนียที่ผ่านมา นางคลินตัน ได้ชูแผนอัดฉีดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจ 70,000 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 2 ล้านล้านบาท และว่า แผนเศรษฐกิจนี้จะช่วยบรรเทาปัญหาภาระผ่อนชำระที่อยู่อาศัยแก่ชาวอเมริกันกว่า 37 ล้านคน และช่วยให้ประชาชนหลายแสนครอบครัวพ้นจากการถูกยึดบ้าน
ทั้งนี้ ผลสำรวจความคิดเห็นระบุว่า ผู้มีสิทธิออกเสียงมากกว่าหนึ่งในสามจะลงคะแนนเลือกประธานาธิบดีในเดือนพฤศจิกายนโดยพิจารณาจากนโยบายเศรษฐกิจเป็นอันดับแรก ตามมาด้วยปัญหาสงครามอิรัก และบริการสาธารณสุข ขณะที่ สมาชิกพรรคเดโมแครตออกมาระบุว่า นางคลินตันมีแผนรับมือกับปัญหาแต่ละด้านที่ชัดเจนกว่านายโอบามา
รายงานระบุว่า ทั้งนางคลินตัน และนายโอบามา ซึ่งเป็นคู่แข่งคนสำคัญต่างขับเคี่ยวหาเสียงกันในรัฐฝั่งตะวันตก เพื่อปูฐานคะแนนสำหรับการเลือกตั้งขั้นต้นในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ ซึ่งจะมีขึ้นพร้อมกันมากกว่า 20 รัฐ โดยในการหาเสียงที่รัฐแคลิฟอร์เนียที่ผ่านมา นางคลินตัน ได้ชูแผนอัดฉีดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจ 70,000 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 2 ล้านล้านบาท และว่า แผนเศรษฐกิจนี้จะช่วยบรรเทาปัญหาภาระผ่อนชำระที่อยู่อาศัยแก่ชาวอเมริกันกว่า 37 ล้านคน และช่วยให้ประชาชนหลายแสนครอบครัวพ้นจากการถูกยึดบ้าน
ทั้งนี้ ผลสำรวจความคิดเห็นระบุว่า ผู้มีสิทธิออกเสียงมากกว่าหนึ่งในสามจะลงคะแนนเลือกประธานาธิบดีในเดือนพฤศจิกายนโดยพิจารณาจากนโยบายเศรษฐกิจเป็นอันดับแรก ตามมาด้วยปัญหาสงครามอิรัก และบริการสาธารณสุข ขณะที่ สมาชิกพรรคเดโมแครตออกมาระบุว่า นางคลินตันมีแผนรับมือกับปัญหาแต่ละด้านที่ชัดเจนกว่านายโอบามา
