เอเอฟพี - บารัค โอบามา คะแนนนำโด่งในโพลสำรวจความเห็นก่อนถึงวันหยั่งเสียงเลือกตั้งขั้นต้นที่มลรัฐนิวแฮมป์เชียร์ ในวันนี้(8) เป็นอุปสรรคตอกย้ำฮิลลารี คลินตัน อีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่โอบามาชนะฮิลลารีไปแล้วที่ไอโอวา
อดีตสุภาพสตรีหมายเลข 1 ผู้นี้เคยมีคะแนนนำในมลรัฐนิวแฮมป์เชียร์ แต่คะแนนนำเหล่านั้นดูเหมือนจะจางหายไป โดยผู้ลงคะแนนเริ่มหันไปเทใจให้วุฒิสมาชิกวัย 46 ปีแห่งมลรัฐอิลลินอยส์ ที่มาแรงด้วยการชนะหยั่งเสียงแบบคอคัสที่มลรัฐไอโอวาไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
ด้านผู้ชิงทำเนียบขาวฝั่งรีพับลิกันก็โต้วาทีกันอย่างดุเดือด แม้วุฒิสมาชิกจอห์น แมคเคน ซึ่งเป็นตัวเก็งของรัฐนี้ จะยังมีคะแนนลอยลำตามคาด
เมื่อสถานการณ์เป็นเช่นนี้ ฮิลลารีก็ต้องหันมาเป็นฝ่ายโจมตี โดยเธอกล่าวเตือนว่า โอบามานั้นเก่งแต่พูด แต่ไร้ผลงานพิสูจน์ และบอกผู้สนับสนุนพรรคเดโมแครตว่าพวกเขาควร “เสนอชื่อและเลือกคนที่ลงมือทำ ไม่ใช่คนที่ดีแต่พูด”
แต่ในการรณรงค์หาเสียงทั่วนิวแฮมป์เชียร์ โอบามาร่ายมนตร์เดิมเรื่องความหวังและการเปลี่ยนแปลง และกล่าวหาว่า ฮิลลารีกำลังหันไปใช้กลยุทธ์แบบจนตรอก
“ส่งที่เรากำลังเห็นอยู่ตอนนี้ก็คือ การดิ้นรนครั้งสุดท้ายของวอชิงตันที่พยายามต้านทานการเปลี่ยนแปลง...บิดเบือนความจริง บิดเบือนผลงานการกระทำของคนอื่น บิดเบือนคำพูด” โอบามา ผู้หวังจะเป็นประธานาธิบดีผิวสีคนแรกของสหรัฐฯ กล่าว
โพลของยูเอสเอทูเดย์/แกลลัพ ระบุว่า โอบามามีคะแนนนำคลินตันถึง 13% ส่วนในโพลของ CNN/WMUR โอบามามีคะแนนนำฮิลลารี 10% โดยโพลของทั้งสองสำนักที่ทำการสำรวจก่อนหน้านี้ โอบามาและฮิลลารีมีคะแนนเท่าๆกัน
โพลของ CNN/WMUR ยังชี้ให้เห็นเป็นครั้งแรกว่า ผู้ออกเสียงชาวนิวแฮมป์เชียร์จำนวนมากขึ้น เห็นว่าโอบามาเป็นคนจากแดโมแครตที่จะสามารถเอาชนะคู่แข่งจากรีพับลิกันได้ในศึกชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีสหรัฐฯในครั้งนี้ โดยโอบามาได้แต้ม “ศักยภาพที่จะได้รับเลือกตั้ง” มากกว่าคลินตันที่ 42 ต่อ 31 คะแนน
“ผลคอคัสที่ไอโอวาทำให้ผู้มีสิทธิออกเสียงในนิวแฮมเชียร์จำนวนมากขึ้นเชื่อว่า โอบามาสามารถทำได้อย่างเต็มที่” คีตติ้ง ฮอลแลนด์ ผู้อำนวยการการจัดทำโพลของซีเอ็นเอ็น กล่าว
ฝ่ายฮิลลารีก็สู้ศึกอย่างเต็มที่เพื่อไม่ให้โอบามาชนะไพรมารีในครั้งนี้
“มันมีข้อแตกต่างอย่างมากระหว่างการพูดกับการลงมือทำ ระหว่างการให้คำสัญญากับการทำตามสัญญา” ฮิลลารี คลินตัน ผู้หวังจะเป็นประธานาธิบดีหญิงคนแรกของสหรัฐฯ กล่าวในการหาเสียง
ทางฟากรีพับลิกัน ก็เกิดความรู้สึกไม่ค่อยสู้ดีนักระหว่างการโต้วาทีครั้งล่าสุด โดยไมก์ ฮักคาบี ซึ่งเป็นผู้ชนะคอคัสที่ไอโอวา ปะทะคารมกับมิตต์ รอมนีย์ อดีตผู้ว่าการมลรัฐแมสซาชูเซตส์ โดยรอมนีย์กล่าวเสียดสีฮักคาบีเรื่องที่เขาขึ้นภาษีเมื่อสมัยที่เป็นผู้ว่าการมลรัฐอาร์คันซอ แต่ฮักคาบีก็ปฏิเสธคำโจมตีเหล่านั้น
ส่วนแมคเคน ดูเหมือนจะอยู่นอกเวทีสู้รบของฮักคาบีและรอมนีย์ เขาใช้น้ำเสียงแบบประนีประนอมมากกว่า และยกประวัติการเป็นทหารของเขาโดยชี้ว่าเป็นสิ่งที่ทำให้เขามีประสบการณ์ในการจัดการกับอุซามะห์ บินลาดิน และภัยคุกคามก่อการร้ายอื่นๆ
ทั้งนี้ โพลยูเอสเอทูเดย์/แกลลัพ ซึ่งสำรวจผู้สนับสนุนพรรคเดโมแครต 778 คนในนิวแฮมเชียร์เมื่อวันศุกร์(4)ถึงวันอาทิตย์(6) ระบุว่า มีผู้สนับสนุนโอบามา 41% ส่วนฮิลลารีมีผู้สนับสนุน 28%
ด้านโพลชิ้นใหม่ของ CNN/WMUR ซึ่งสำรวจความเห็นของผู้สนับสนุนพรรคเดโมแครต 268 คน เมื่อวันเสาร์และอาทิตย์ ระบุว่า โอบามานำฮิลลารีด้วยคะแนน 39 ต่อ 29%
โพลยูเอสเอทูเดย์/แกลลัพ ชี้แมคเคนมีคะแนนนำรอมนีย์ 34 ต่อ 30% อนึ่ง โพลก่อนหน้าที่นี้ที่จัดทำเมื่อกลางเดือนธันวาคม ระบุว่า รอมนีย์นำแมคเคนอยู่ 34 ต่อ 27%
โพล CNN/WMUR เผยว่า แมคเคนมีคะแนนนำรอมนีย์ 32 ต่อ 26%
ส่วนฮักคาบี แม้จะชนะในไอโอวาเพราะมีกลุ่มเคร่งศาสนาลงคะแนนให้เขามาก แต่ที่นิวแฮมป์เชียร์ เขาตามหลังโดยอยู่ในอันดับที่ 3 ของทั้งสองโพล
อดีตสุภาพสตรีหมายเลข 1 ผู้นี้เคยมีคะแนนนำในมลรัฐนิวแฮมป์เชียร์ แต่คะแนนนำเหล่านั้นดูเหมือนจะจางหายไป โดยผู้ลงคะแนนเริ่มหันไปเทใจให้วุฒิสมาชิกวัย 46 ปีแห่งมลรัฐอิลลินอยส์ ที่มาแรงด้วยการชนะหยั่งเสียงแบบคอคัสที่มลรัฐไอโอวาไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
ด้านผู้ชิงทำเนียบขาวฝั่งรีพับลิกันก็โต้วาทีกันอย่างดุเดือด แม้วุฒิสมาชิกจอห์น แมคเคน ซึ่งเป็นตัวเก็งของรัฐนี้ จะยังมีคะแนนลอยลำตามคาด
เมื่อสถานการณ์เป็นเช่นนี้ ฮิลลารีก็ต้องหันมาเป็นฝ่ายโจมตี โดยเธอกล่าวเตือนว่า โอบามานั้นเก่งแต่พูด แต่ไร้ผลงานพิสูจน์ และบอกผู้สนับสนุนพรรคเดโมแครตว่าพวกเขาควร “เสนอชื่อและเลือกคนที่ลงมือทำ ไม่ใช่คนที่ดีแต่พูด”
แต่ในการรณรงค์หาเสียงทั่วนิวแฮมป์เชียร์ โอบามาร่ายมนตร์เดิมเรื่องความหวังและการเปลี่ยนแปลง และกล่าวหาว่า ฮิลลารีกำลังหันไปใช้กลยุทธ์แบบจนตรอก
“ส่งที่เรากำลังเห็นอยู่ตอนนี้ก็คือ การดิ้นรนครั้งสุดท้ายของวอชิงตันที่พยายามต้านทานการเปลี่ยนแปลง...บิดเบือนความจริง บิดเบือนผลงานการกระทำของคนอื่น บิดเบือนคำพูด” โอบามา ผู้หวังจะเป็นประธานาธิบดีผิวสีคนแรกของสหรัฐฯ กล่าว
โพลของยูเอสเอทูเดย์/แกลลัพ ระบุว่า โอบามามีคะแนนนำคลินตันถึง 13% ส่วนในโพลของ CNN/WMUR โอบามามีคะแนนนำฮิลลารี 10% โดยโพลของทั้งสองสำนักที่ทำการสำรวจก่อนหน้านี้ โอบามาและฮิลลารีมีคะแนนเท่าๆกัน
โพลของ CNN/WMUR ยังชี้ให้เห็นเป็นครั้งแรกว่า ผู้ออกเสียงชาวนิวแฮมป์เชียร์จำนวนมากขึ้น เห็นว่าโอบามาเป็นคนจากแดโมแครตที่จะสามารถเอาชนะคู่แข่งจากรีพับลิกันได้ในศึกชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีสหรัฐฯในครั้งนี้ โดยโอบามาได้แต้ม “ศักยภาพที่จะได้รับเลือกตั้ง” มากกว่าคลินตันที่ 42 ต่อ 31 คะแนน
“ผลคอคัสที่ไอโอวาทำให้ผู้มีสิทธิออกเสียงในนิวแฮมเชียร์จำนวนมากขึ้นเชื่อว่า โอบามาสามารถทำได้อย่างเต็มที่” คีตติ้ง ฮอลแลนด์ ผู้อำนวยการการจัดทำโพลของซีเอ็นเอ็น กล่าว
ฝ่ายฮิลลารีก็สู้ศึกอย่างเต็มที่เพื่อไม่ให้โอบามาชนะไพรมารีในครั้งนี้
“มันมีข้อแตกต่างอย่างมากระหว่างการพูดกับการลงมือทำ ระหว่างการให้คำสัญญากับการทำตามสัญญา” ฮิลลารี คลินตัน ผู้หวังจะเป็นประธานาธิบดีหญิงคนแรกของสหรัฐฯ กล่าวในการหาเสียง
ทางฟากรีพับลิกัน ก็เกิดความรู้สึกไม่ค่อยสู้ดีนักระหว่างการโต้วาทีครั้งล่าสุด โดยไมก์ ฮักคาบี ซึ่งเป็นผู้ชนะคอคัสที่ไอโอวา ปะทะคารมกับมิตต์ รอมนีย์ อดีตผู้ว่าการมลรัฐแมสซาชูเซตส์ โดยรอมนีย์กล่าวเสียดสีฮักคาบีเรื่องที่เขาขึ้นภาษีเมื่อสมัยที่เป็นผู้ว่าการมลรัฐอาร์คันซอ แต่ฮักคาบีก็ปฏิเสธคำโจมตีเหล่านั้น
ส่วนแมคเคน ดูเหมือนจะอยู่นอกเวทีสู้รบของฮักคาบีและรอมนีย์ เขาใช้น้ำเสียงแบบประนีประนอมมากกว่า และยกประวัติการเป็นทหารของเขาโดยชี้ว่าเป็นสิ่งที่ทำให้เขามีประสบการณ์ในการจัดการกับอุซามะห์ บินลาดิน และภัยคุกคามก่อการร้ายอื่นๆ
ทั้งนี้ โพลยูเอสเอทูเดย์/แกลลัพ ซึ่งสำรวจผู้สนับสนุนพรรคเดโมแครต 778 คนในนิวแฮมเชียร์เมื่อวันศุกร์(4)ถึงวันอาทิตย์(6) ระบุว่า มีผู้สนับสนุนโอบามา 41% ส่วนฮิลลารีมีผู้สนับสนุน 28%
ด้านโพลชิ้นใหม่ของ CNN/WMUR ซึ่งสำรวจความเห็นของผู้สนับสนุนพรรคเดโมแครต 268 คน เมื่อวันเสาร์และอาทิตย์ ระบุว่า โอบามานำฮิลลารีด้วยคะแนน 39 ต่อ 29%
โพลยูเอสเอทูเดย์/แกลลัพ ชี้แมคเคนมีคะแนนนำรอมนีย์ 34 ต่อ 30% อนึ่ง โพลก่อนหน้าที่นี้ที่จัดทำเมื่อกลางเดือนธันวาคม ระบุว่า รอมนีย์นำแมคเคนอยู่ 34 ต่อ 27%
โพล CNN/WMUR เผยว่า แมคเคนมีคะแนนนำรอมนีย์ 32 ต่อ 26%
ส่วนฮักคาบี แม้จะชนะในไอโอวาเพราะมีกลุ่มเคร่งศาสนาลงคะแนนให้เขามาก แต่ที่นิวแฮมป์เชียร์ เขาตามหลังโดยอยู่ในอันดับที่ 3 ของทั้งสองโพล