สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ กระทรวงการคลัง ได้สรุปผลการดำเนินการบริหารจัดการหนี้ภาครัฐประจำเดือนพฤศจิกายน 2550 พร้อมทั้งรายงานสถานะหนี้สาธารณะคงค้าง ณ สิ้นเดือนตุลาคม 2550 โดยยอดหนี้สาธารณะคงค้าง ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2550 มีจำนวน 3,182,820 ล้านบาท หรือร้อยละ 37.95 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) เป็นหนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรง 2,042,415 ล้านบาท หนี้รัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน 929,670 ล้านบาท หนี้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน 183,941 ล้านบาท และหนี้หน่วยงานอื่นของรัฐ 26,793 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อน หนี้สาธารณะเพิ่มขึ้น 3,383 ล้านบาท โดยหนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรงลดลง 8,948 ล้านบาท หนี้รัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงินเพิ่มขึ้น 22,344 ล้านบาท สำหรับหนี้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ และหนี้หน่วยงานอื่นของรัฐลดลง 1,214 ล้านบาท และ 8,800 ล้านบาท
สำหรับการเพิ่มขึ้นสุทธิของหนี้สาธารณะเมื่อเปรียบเทียบกับเดือนที่ผ่านมานั้น ที่สำคัญเกิดจากการเพิ่มขึ้นของหนี้ในประเทศของรัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงินที่รัฐบาลค้ำประกัน โดยรัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน ในภาพรวมได้มีการเบิกจ่ายเงินกู้สุทธิเพิ่มขึ้น 16,190 ล้านบาท ประกอบกับองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ การเคหะแห่งชาติ และการรถไฟแห่งประเทศไทย ได้ออกพันธบัตรในประเทศวงเงินรวม 5,800 ล้านบาท นอกจากนี้ หนี้ต่างประเทศของรัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงินที่รัฐบาลไม่ได้ค้ำประกันเพิ่มขึ้น 3,270 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงอัตราแลกเปลี่ยนในรูปดอลลาร์สหรัฐ และการเบิกจ่ายเงินกู้จากแหล่งเงินกู้สูงกว่าการชำระคืนต้นเงินกู้
ทั้งนี้ หนี้สาธารณะ 3,182,820 ล้านบาท แยกออกเป็นหนี้ต่างประเทศ 414,456 ล้านบาท หรือร้อยละ 13.02 และหนี้ในประเทศ 2,768,364 ล้านบาท หรือร้อยละ 86.98 ของยอดหนี้สาธารณะคงค้าง และเป็นหนี้ระยะยาว 2,826,981 ล้านบาท หรือร้อยละ 88.82 และหนี้ระยะสั้น 355,839 ล้านบาท หรือร้อยละ 11.18 ของยอดหนี้สาธารณะคงค้าง
สำหรับการเพิ่มขึ้นสุทธิของหนี้สาธารณะเมื่อเปรียบเทียบกับเดือนที่ผ่านมานั้น ที่สำคัญเกิดจากการเพิ่มขึ้นของหนี้ในประเทศของรัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงินที่รัฐบาลค้ำประกัน โดยรัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน ในภาพรวมได้มีการเบิกจ่ายเงินกู้สุทธิเพิ่มขึ้น 16,190 ล้านบาท ประกอบกับองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ การเคหะแห่งชาติ และการรถไฟแห่งประเทศไทย ได้ออกพันธบัตรในประเทศวงเงินรวม 5,800 ล้านบาท นอกจากนี้ หนี้ต่างประเทศของรัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงินที่รัฐบาลไม่ได้ค้ำประกันเพิ่มขึ้น 3,270 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงอัตราแลกเปลี่ยนในรูปดอลลาร์สหรัฐ และการเบิกจ่ายเงินกู้จากแหล่งเงินกู้สูงกว่าการชำระคืนต้นเงินกู้
ทั้งนี้ หนี้สาธารณะ 3,182,820 ล้านบาท แยกออกเป็นหนี้ต่างประเทศ 414,456 ล้านบาท หรือร้อยละ 13.02 และหนี้ในประเทศ 2,768,364 ล้านบาท หรือร้อยละ 86.98 ของยอดหนี้สาธารณะคงค้าง และเป็นหนี้ระยะยาว 2,826,981 ล้านบาท หรือร้อยละ 88.82 และหนี้ระยะสั้น 355,839 ล้านบาท หรือร้อยละ 11.18 ของยอดหนี้สาธารณะคงค้าง