นายบุญชัย รุ่งเรืองไพศาลสุข ประธานเครือข่ายคัดค้านขึ้นค่าโดยสารรถสาธารณะ เปิดเผยว่า ภายใน 3 เดือนข้างหน้า กลุ่มเครือข่ายในฐานะภาคประชาชนจะขอความร่วมมือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กองบังคับการตำรวจจราจร และกรมการขนส่งทางบก โดยจะจัดตั้งกลุ่มอาสาสมัครกว่า 100 คน เพื่อออกตรวจสอบคุณภาพและบริการของรถร่วมบริการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ที่ให้บริการประชาชน โดยอาสาสมัครจะตั้งจุดตรวจสอบร่วมกับตำรวจในเรื่องควันดำ คุณภาพรถ รวมถึงลักษณะการขับขี่ว่า ประมาทนำไปสู่อุบัติเหตุหรือไม่ หากตรวจพบจะขอให้หยุดให้บริการและดำเนินคดีกับผู้ขับและบริษัทเจ้าของรถทันที
ขณะเดียวกัน ทางกลุ่มเครือข่ายเห็นว่ายังมีแนวทางที่จะปราบปรามรถร่วมบริการ ขสมก.ที่มีคุณภาพบริการไม่ได้มาตรฐาน เช่น หลังจากตรวจสอบพบว่ารถร่วมบริการเหล่านี้งดนำส่งรายได้ตามสัญญาให้แก่ ขสมก. เป็นเวลาหลายปี และมียอดเงินคงค้างรวมทั้งระบบกว่า 600 ล้านบาท ซึ่งตามกฎหมาย ขสมก.สามารถเลิกสัญญาและให้รถเหล่านี้หยุดวิ่งให้บริการได้ แต่กลับไม่ดำเนินการ ถือเป็นการละเว้นปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งประเด็นดังกล่าวกลุ่มเครือข่ายจะทวงถามข้อเท็จจริงจากผู้บริหาร ขสมก.ต่อไป
นอกจากนี้ กลุ่มเครือข่ายฯ ยังมีแนวคิดที่จะเชิญตัวแทนของหน่วยราชการร่วมกันจัดตั้งเป็นสมาคมคุ้มครองผู้โดยสารและพัฒนาบริการรถสาธารณะ ซึ่งจะเป็นหน่วยงานหลักของภาคประชาชนเข้ามาแก้ปัญหาคุณภาพการบริการของรถโดยสาร ขสมก. บขส. และรถร่วมบริการของทั้ง 2 หน่วยงาน
ขณะเดียวกัน ทางกลุ่มเครือข่ายเห็นว่ายังมีแนวทางที่จะปราบปรามรถร่วมบริการ ขสมก.ที่มีคุณภาพบริการไม่ได้มาตรฐาน เช่น หลังจากตรวจสอบพบว่ารถร่วมบริการเหล่านี้งดนำส่งรายได้ตามสัญญาให้แก่ ขสมก. เป็นเวลาหลายปี และมียอดเงินคงค้างรวมทั้งระบบกว่า 600 ล้านบาท ซึ่งตามกฎหมาย ขสมก.สามารถเลิกสัญญาและให้รถเหล่านี้หยุดวิ่งให้บริการได้ แต่กลับไม่ดำเนินการ ถือเป็นการละเว้นปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งประเด็นดังกล่าวกลุ่มเครือข่ายจะทวงถามข้อเท็จจริงจากผู้บริหาร ขสมก.ต่อไป
นอกจากนี้ กลุ่มเครือข่ายฯ ยังมีแนวคิดที่จะเชิญตัวแทนของหน่วยราชการร่วมกันจัดตั้งเป็นสมาคมคุ้มครองผู้โดยสารและพัฒนาบริการรถสาธารณะ ซึ่งจะเป็นหน่วยงานหลักของภาคประชาชนเข้ามาแก้ปัญหาคุณภาพการบริการของรถโดยสาร ขสมก. บขส. และรถร่วมบริการของทั้ง 2 หน่วยงาน
