“...ให้มีการปรับปรุงสภาพป่าบริเวณอ่างเก็บน้ำปางตองใหม่และฝายปางอุ๋ง ตำบลหมอกจำแป่ อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน ให้กลับคืนสู่สภาพเดิม...”
พระราชกระแสรับสั่งของ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในหลวงรัชกาลที่ ๙ เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2527
หลังจากนั้น “โครงการพระราชดำริปางตอง 2 (ปางอุ๋ง)” หรือ ที่คนนิยมเรียกกันสั้นๆว่า “ปางอุ๋ง” ได้ถือกำเนิดขึ้นมาในปีเดียวกันนี้ (2527) ก่อนจะได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องเรื่อยมา
วันนี้ “ปางอุ๋ง” นอกจากจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมเบอร์ต้น ๆ ในช่วงฤดูหนาวแล้ว ที่นี่ยังถูกยกให้เป็นหนึ่งใน “สวิตเซอร์แลนด์เมืองไทย” กับบรรยากาศภายใต้อ้อมกอดธรรมชาติ ที่มีไฮไลต์คือ ป่าสน สายหมอก และอ่างเก็บน้ำในตำนาน ใต้พระบารมี พ่อ-แม่ของแผ่นดิน
ปางอุ๋ง ใต้พระบารมี พ่อ-แม่ของแผ่นดิน
โครงการพระราชดำริปางตอง 2 (ปางอุ๋ง) หรือ ปางอุ๋ง เป็นส่วนหนึ่งของ “ศูนย์บริการและพัฒนาที่สูงปางตองตามพระราชดำริ” โครงการในพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2523 โดยในหลวงรัชกาลที่ ๙ และ สมเด็จพระพันปีหลวง ทรงเห็นว่าพื้นที่บริเวณนี้เป็นพื้นที่อันตราย อยู่ติดแนวชายแดนพม่า มีกองกำลังต่าง ๆ มีการขนส่ง ปลูกพืชเสพติด และบุกรุกพื้นที่ตัดไม้ทำลายป่าอยู่เสมอ
ทั้ง 2 พระองค์ จึงมีพระราชดำริให้รวบรวมราษฎรกลุ่มน้อยบริเวณนั้นมาอยู่รวมกันเป็นชุมชน โดยมีพระราชประสงค์สร้างความมั่นคงตามแนวชายแดน เพื่อพัฒนาความเป็นอยู่ของราษฎรให้ดีขึ้นด้วยการส่งเสริมให้ปลูกป่า สร้างอ่างเก็บน้ำ และฟื้นฟูอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติให้สมบูรณ์ยั่งยืนตลอดไป
ปางอุ๋ง ชื่อนี้มาจากคำว่า “ปาง” หมายถึงที่พักของคนทำงานในป่า และคำว่า “อุ๋ง” เป็นภาษาเหนือ หมายถึงพื้นที่ลุ่มต่ำ คล้ายแอ่งกระทะใบใหญ่
ปางอุ๋ง ตั้งอยู่ที่บ้านรวมไทย ต.หมอกจำแป่ อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน ปัจจุบันอยู่ในความดูแลของ “อุทยานแห่งชาติ ถ้ำปลา-น้ำตกผาเสื่อ”
ในอดีตพื้นที่บริเวณปางอุ๋งมีสภาพเป็นเขาหัวโล้น ป่าเสื่อมโทรม ในหลวงรัชกาลที่ ๙ จึงมีพระราชกระแสรับสั่ง (ข้างต้น) ให้สร้าง “อ่างเก็บน้ำปางตอง” หรือ “ปางอุ๋ง” ขึ้น ตามแนวพระราชดำริ “มีคนย่อมมีน้ำ” เพื่อกักเก็บน้ำไว้ให้ชาวชุมชนได้ใช้ทำการเกษตรทำไร่นา และเก็บไว้สำหรับใช้ในโครงการศูนย์ฯปางตองตามพระราชดำริ
นอกจากนี้พระองค์ท่านยังทรงให้มีการปลูกป่าตามแนวพระราชดำริ “ปลูกป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง” ขึ้น พร้อมทั้งการปลูกป่าในด้านอื่น ๆ เพื่อทำการฟื้นฟูสภาพป่าให้กลับมาอุดมสมบูรณ์อีกครั้ง
ปางอุ๋ง สวิตเซอร์แลนเมืองไทย
วันนี้นับเป็นเวลากว่า 40 ปีแล้ว ที่โครงการพระราชดำริปางตอง 2 หรือ ปางอุ๋ง ได้พลิกฟื้นจากสภาพของป่าเสื่อมโทรม ให้กลับมาอุดมสมบูรณ์ มีทัศนียภาพที่เป็นเอกลักษณ์สวยงามและมีอากาศที่เย็นตลอดทั้งปี จนได้รับฉายาว่า “สวิตเซอร์แลนด์แห่งเมืองไทย” ซึ่งถือเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของภาคเหนือในช่วงฤดูหนาว ที่หากใครมาเยือนเมืองสามหมอกไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง
ปางอุ๋งมีบรรยากาศโดดเด่นไปด้วย วิวทิวทัศน์ของอ่างเก็บน้ำอันสวยงาม แวดล้อมไปด้วยป่าสนเรียงราย ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถมาถ่ายรูปเช็กอินกันได้รอบ ๆ อ่างเก็บน้ำ ไม่ว่าจะเป็น บริเวณลานกางเต็น ในพื้นที่ป่าสนสองใบ บริเวณจุดล่องแพ มุมสะพานไม้ มุมสะพานฝาย และบริเวณสันเขื่อนอ่างเก็บน้ำ ที่แต่ละจุดจะมีมนต์เสน่ห์และสีสันที่แตกต่างกันออกไป
ขณะที่ในยามเช้าตรู่ของหน้าหนาวหลังจากที่พระอาทิตย์แย้มแสงแรกแห่งวันสาดส่อง บริเวณอ่างเก็บน้ำปางตอง หรือ ปางอุ๋ง จะดูงดงามไปด้วยสายหมอกที่เกิดจากไอน้ำ ลอยปกคลุมไหลระเรี่ยเหนือผิวน้ำ ท่ามกลางองค์ประกอบแห่งความงามปานประหนึ่งภาพฝัน ของทะเลสาบ ทิวสน ผืนป่า เรือนแพ และหงส์พระราชทานที่แหวกว่าย ที่ถือเป็นอีกหนึ่งสีสันของปางอุ๋งแห่งนี้
นอกจากนี้ปางอุ๋งยังมีกิจกรรมล่องแพไม้ไผ่นั่งชมวิวทิวทัศน์ของท้องทะเลสาบทั้งในช่วงเช้าและเย็น รวมถึงยังมีสถานที่กางเต็นท์และเต็นท์ของอุทยานฯ ไว้บริการในป่าสนริมทะเลสาบ มีจุดกางเต็นท์บริเวณสันเขื่อนของทหาร มีที่พัก โฮมสเตย์ ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ร้านของของที่ระลึก ไว้บริการในพื้นที่ของหมู่บ้านรวมไทย และบ้านพักของโครงการฯ ปางตอง 2 (ปางอุ๋ง) อช.ถ้ำปลา-น้ำตกผาเสื่่อ ไว้ให้บริการแก่ผู้สนใจ
และนี่ก็คือมนต์เสน่ห์ความงดงามของปางอุ๋ง จังหวัดแม่ฮ่องสอน สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังใต้พระบารมี ในหลวงรัชกาลที่ ๙ และสมเด็จพระพันปีหลวง พ่อและแม่ของแผ่นดิน ที่ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจในด้านต่าง ๆ อย่างไม่เหน็ดเหนื่อย เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของพสกนิกรชาวไทยให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
#######################
ปางอุ๋ง เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความสวยงามเป็นพิเศษในช่วงฤดูหนาว โดยปี 2568 นี้ อุทยานแห่งชาติ ถ้ำปลา-น้ำตกผาเสื่อ เปิดให้บริการท่องเที่ยวและพักแรมตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป
ผู้สนใจสามารถจอง พื้นที่ลานกางเต็นท์ และ เต็นท์อุทยานฯได้ตั้งแต่วันนี้
ผ่านเว็บไซต์กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช
https://nps.dnp.go.th
หรือติดต่อสอบถามเพิ่มเติม ได้ที่ inbox เพจ อุทยานแห่งชาติ ถ้ำปลา-น้ำตกผาเสื่อ Thamplanamtokphasuea หรือ โทร. 082-191-1746


