ออกนอกตัวเมืองเชียงใหม่ ไปที่ “สารภี” แวะกราบพระนอน ถ่ายรูปถนนสายต้นยาง ที่ทอดยาวไปสู่ “ลำพูน” ก่อนเข้าเมืองลำพูนแวะไปที่สถานีรถไฟลำพูนสุดคลาสสิก ต่อด้วยการไปสักการะพระธาตุหริภุญชัย ขอพรกู่ช้าง-กู่ม้า ไปถ่ายรูปสวยๆ ที่สวนไม้ไทยพ่อเลี้ยงหมื่น ปิดท้ายด้วยการชอปปิ้งผักผลไม้ที่ตลาดยามค่ำ
“เชียงใหม่-ลำพูน” เป็นเมืองเที่ยวที่ตั้งอยู่ติดกัน ใครที่เดินทางท่องเที่ยวในเมืองเชียงใหม่แล้ว ก็มักจะแวะมาเที่ยวที่ลำพูนด้วย เนื่องจากระยะทางไม่ไกล มีทั้งวัดและสถานที่ท่องเที่ยวให้แวะเที่ยวหลากหลาย ถึงมีเวลาเที่ยวแค่วันเดย์ทริปก็เก็บได้ครบ
จากในตัวเมืองเชียงใหม่ เดินทางมาที่ อ.สารภี ชวนแวะมาไหว้พระกันก่อนที่ “วัดพระนอนหนองผึ้ง” (ต.หนองผึ้ง อ.สารภี จ.เชียงใหม่) วัดเก่าแก่ ที่สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นมาตั้งแต่สมัยพญามังราย โดยที่นี่ประดิษฐานพระพุทธไสยาสน์ (พระนอน) นามว่า “พระนอนป้านปิง” ขนาดความยาว 19 เมตร เป็นพุทธศิลปแบบศิลปะล้านนายุคต้นถึงยุคกลาง ราวพุทธศตวรรษที่ 19-20
คำว่า “พระนอนป้านปิง” มีความหมายเฉพาะ “ป้าน” แปลว่า ต้าน, ขวาง หมายถึงต้านน้ำปิงไว้ให้ไหลเบี่ยงออกซ้ายขวาไป ซึ่งภายหลังจากสร้างพระนอนป้านปิงเสร็จเรียบร้อย ปรากฏว่าน้ำปิงไม่เคยไหลมาท่วมในหมู่บ้านแห่งนี้ รวมทั้งจังหวัดลำพูน
เข้าไปสักการะองค์พระพุทธไสยาสน์แล้ว ในบริเวณวัดยังมีสิ่งสำคัญอีกหลายจุด ไม่ว่าจะเป็น เจดีย์ อุโบสถ วิหาร หลวงพ่อทันใจ รวมถึงพิพิธภัณฑ์ของทางวัด ชื่อว่า “พิพิธภัณฑ์ชัยศีลพุทธภิรักษ์” ด้านในจัดแสดงโบราณวัตถุและพระพุทธรูปที่สามารถสืบย้อนกลับไปตั้งแต่สมัยอาณาจักรหริภุญชัย เช่น เศษชิ้นส่วนพระพิมพ์ดินเผาที่ได้จากเวียงกุมกาม รูปจำลองเจดีย์ทำด้วยหินทราย เศียรพระพุทธรูป ฐานพระพุทธรูปชิ้นส่วนองค์พระพุทธรูปหินทราย ครกหิน ไหหิน ไม้แกะสลักสัตตภัณฑ์รูปพญานาค ไม้แกะสลักประดับกระจกจีน เครื่องปั้นดินเผาโบราณ เป็นต้น
ออกมาจากวัดก็เข้าสู่ถนนสายเชียงใหม่-ลำพูน (ทางหลวงหมายเลข 106) ที่หลายๆ คนอาจจะคุ้นเคยกันในชื่อ “ถนนสายต้นยาง” ที่มีต้นยางนาปลูกเรียงรายอยู่ตลอดแนวสองข้างทาง
โดยถนนสายนี้จริงๆ แล้วมีมาตั้งแต่สมัยพญามังรายสร้างเมืองเชียงใหม่ เป็นเส้นทางคมนาคมทางบกเลียบตามแนวแม่น้ำปิง ใช้ติดต่อค้าขายกันระหว่างเชียงใหม่และลำพูน แต่การปลูกต้นยางนาริมถนนนั้นเริ่มตั้งแต่สมัยพระเจ้าอินทรวิชยานนท์ ราว พ.ศ.2425 โดยปลูกต้นยางนาตลอดสองข้างทางตั้งแต่เชิงสะพานนวรัฐ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ไปจนจรดเขต จ.ลำพูน
จนมาถึงปี พ.ศ.2454 ได้มีการนำต้นยางนามาให้ประชาชนช่วยกันปลูกเพิ่มเติมตลอดสองข้างทางเพื่อให้มีความร่มรื่นสวยงามในเขต จ.เชียงใหม่ และได้ปลูกต้นขี้เหล็กทั้งสองข้างทางในเขต จ.ลำพูน ทำให้เป็นเอกลักษณ์ของถนนสายนี้ และเป็นที่รู้กันว่า หากเห็นต้นยางนาริมถนนนั้นหมายถึงเขต จ.เชียงใหม่ แต่ถ้าเปลี่ยนเป็นต้นขี้เหล็กก็หมายถึงได้เข้าเขต จ.ลำพูนแล้ว
ถนนสายต้นยางนี้ ได้มีโครงการอนุรักษ์และดูแลต้นไม้ใหญ่สองข้างทางมาโดยตลอด แต่อย่างไรก็ตาม การพัฒนาเมืองและการขยายพื้นที่อยู่อาศัยของประชาชน รวมถึงการสัญจรบนถนนสายนี้ ก็ส่งผลกระทบกับต้นไม้เป็นอย่างมาก จึงเป็นเรื่องที่ต้องติดตามกันต่อไปว่าจะมีแนวทางการจัดการอย่างยั่งยืนได้อย่างไร
ก่อนเข้าเมืองลำพูน ขอแวะ “สถานีรถไฟลำพูน” บรรยากาศสุดคลาสสิก แวะมาถ่ายรูปก็ได้บรรยากาศการเดินทางแบบสมัยก่อน ซึ่งปัจจุบันก็ยังคงมีขบวนรถไฟที่แวะจอดอยู่ทุกวัน โดยนอกจากจะมีขบวนรถไฟไปกลับ กรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ก็ยังมีขบวนรถไฟท้องถิ่น เชียงใหม่-นครสวรรค์ ใครที่อยากสัมผัสการเดินทางโดยรถไฟแบบคลาสสิก จากเชียงใหม่มาลำพูน ก็สามารถไปขึ้นได้ที่สถานีรถไฟเชียงใหม่ ออกเดินทางประมาณ 09.30 น. งรถไฟชิลๆ ชมวิวสองข้างทาง ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมงก็จะมาถึงสถานีลำพูน (ส่วนขากลับจากลำพูนไปเชียงใหม่ ประมาณ 14.15 น.)
มาถึงตัวเมืองลำพูนแล้ว จุดแรกที่ต้องไปก็คือ “วัดพระธาตุหริภุญชัย” (อ.เมือง จ.ลำพูน) เป็นวัดสำคัญคู่บ้านคู่เมืองลำพูน และเป็นสถานที่ประดิษฐาน “พระธาตุหริภุญชัย” พระธาตุศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองลำพูน และพระธาตุประจำปีคนเกิดปีระกา (ไก่) ตามคติความเชื่อของชาวล้านนา ภายในประดิษฐานพระเกศธาตุบรรจุอยู่ในโกศทองคำ ซึ่งในแต่ละวันจะมีพุทธศาสนิกชนเดินทางมาไหว้องค์พระธาตุหริภุญชัยกันไม่ได้ขาด
นอกจากพระธาตุหริภุญชัยที่เป็นศูนย์รวมใจของชาวลำพูนแล้ว วัดพระธาตุหริภุญชัยและบริเวณโดยรอบยังมีสิ่งน่าสนใจให้สักการะและเที่ยวชมกันอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ซุ้มประตูโขงท่าสิงห์, พระเจ้าทองทิพย์ ในโบสถ์ด้านหน้า, พระมหามุนีศรีหริภุญชัย พระพุทธปฏิมาในวิหารหลวง, หลวงพ่อพระนอน, พระเจ้าแดง, สุวรรณเจดีย์ หรือ เจดีย์ปทุมวดี, รอยพระพุทธบาท 4 รอย, เสาสะดือเมือง เป็นต้น
และหากว่าใครมาที่วัดพระธาตุหริภุญชัยในช่วงเทศกาลยี่เป็ง ก็จะได้เข้าร่วม “เทศกาลโคมแสนดวง” ประเพณีโบราณของชาวล้านนา ที่นิยมที่จะจุดผางประทีปโคมไฟหน้าบ้านในคืนช่วงยี่เป็ง เพื่อถวายเป็นพุทธบูชาและต้อนรับการกลับมาของพระเวสสันดรตามตำนานเทศน์มหาชาติ ปกติแล้วที่วัดพระธาตุหริภุญชัยจะเริ่มประดับโคมตั้งแต่ช่วงหลังวันออกพรรษาไปจนถึงช่วงวันยี่เป็ง จะมีนักท่องเที่ยวมาทำบุญและถ่ายภาพสวยๆ กับโคมที่ประดับไว้ตลอดช่วงงาน
อีกจุดในลำพูนที่คนนิยมไปขอพรกันก็คือ “กู่ช้าง-กู่ม้า” หนึ่งในสิ่งศักดิ์สิทธิ์สำคัญที่ชาวเมืองลำพูนเคารพนับถือกันมาก โดยเฉพาะกู่ช้าง ที่สร้างเป็นสถูปทรงกระบอกปลายมน เชื่อกันว่าเป็น “ปู้ก่ำงาเขียว” ช้างศึกคู่บารมีของพระนางจามเทวี ซึ่งหากใครได้มากราบไหว้ขอพรและได้ลอดท้องรูปปั้นช้างปู้ก่ำงาเขียว เชื่อว่าจะได้รับพรแห่งชัยชนะ สมหวังทั้งเรื่องเรียน เรื่องงาน และการดำเนินชีวิต
เที่ยวกันเกือบทั้งวันแล้ว ชวนแวะไปพักผ่อน ถ่ายรูปสวยๆ กันต่อที่ “สวนไม้ไทยพ่อเลี้ยงหมื่น” เข้ามาที่นี่แล้วก็จะได้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ของสถาปัตยกรรมแบบประยุกต์ ที่ใช้ดินเผามาสรรค์สร้างเป็นสิ่งต่างๆ
โดยเมื่อราว 40 ปีก่อน ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของสวนประติมากรรมดินเผาแห่งนี้ พ่อเลี้ยงแดง-สุทธิพงษ์ ใหม่วัน ศิลปินที่รักในการสร้างสรรค์ผลงานจากดินเผาเป็นผู้ริเริ่ม ในทุกจุดของที่นี่จะเป็นการใช้ดินเหนียวลำพูนมาสร้างสรรค์เครื่องปั้นดินเผาชิ้นต่างๆ ไปจนถึงงานสถาปัตยกรรมที่มีความผสมผสานทั้งศิลปะไทย ล้านนา หริภุญชัย และขอม และภายในสวนก็ยังรวมรวมพันธุ์ไม้ไทยหายากมาปลูกไว้ที่นี่ เป็นทั้งการอนุรักษ์ไม้ไทย และเพิ่มความร่มรื่นให้กับสวน
มาถึงสวนไม้ไทยพ่อเลี้ยงหมื่น ก็ต้องไปถ่ายรูปกับมหาเจดีย์ขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่กลางน้ำ เชื่อมต่อด้วยสะพานไม้ไผ่ รอบๆ ยังตกแต่งด้วยเครื่องปั้นดินเผา และมีโซนร้านอาหาร เดินผ่านซุ้มประตูเข้าไปก็จะได้สัมผัสกับความร่มรื่น มีมุมนั่งทั้งด้านในร้านและบริเวณสวนด้านนอก ให้บริการอาหารไทย อาหารนานาชาติ ของว่าง เครื่องดื่ม และเบเกอรี
ช่วงเย็นๆ ค่ำๆ ชวนมาเดินเล่นกันที่ “กาดหนองดอก” ตลาดโต้รุ่งเก่าแก่ของเมืองลำพูน ตั้งอยู่ข้างๆ อนุสาวรีย์พระนางจามเทวี กาดนี้จะเปิดขายทุกวัน ตั้งแต่ประมาณหกโมงเย็นไปจนถึงราวๆ หกโมงเช้า สินค้าที่มีขายก็เป็นพวกผักผลไม้ท้องถิ่น ไม่ว่าจะเป็น พริก มะเขือม่วง แตงกวา กะหล่ำปลี ฟักแม้ว ผักกาดขาว กวางตุ้ง มะเขือเทศ ส้ม อะโวคาโด บัวหิมะ มะม่วง พุทรานมสด เป็นต้น มีขายกันทั้งแบบขายปลีกและขายส่ง แต่ละอย่างสดใหม่ส่งตรงจากสวน เหล่าแม่บ้านพ่อบ้านเห็นแล้วต้องคันไม้คันมืออยากซื้อกลับบ้านกันแน่นอน
ปิดวันเดย์ทริปเที่ยวสารภี-ลำพูนแบบเต็มอิ่ม ได้ไปทั้งไหว้พระ ขอพร ถ่ายรูปสวยๆ ชิมของอร่อย และได้ชอปปิ้งผักผลไม้กลับบ้าน เป็นอีกทริปสั้นๆ ที่อิ่มใจไม่น้อย
#########################################
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Youtube :Travel MGR และ Instagram : @travelfoodonline และ TikTok : @travelfoodonline


