เกิดปีชงหรือเปล่า? มักจะเป็นคำถามที่ได้บ่อยๆ ในช่วงต้นปี ซึ่งบางคนอาจยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าปีชงของปีนี้มีปีนักษัตรอะไรบ้าง หรือตรงกับปีเกิดตัวเองมั้ย หากปีเกิดของเราเป็นปีชง้องทำอย่างไร ไปไหว้สะเดาะเคราะห์ที่ไหนดี วันนี้มีวัดจีนชื่อว่า “วัดเล่งเน่ยยี่2” ตั้งอยู่ที่ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี อีกหนึ่งวัดดังที่มีคนนิยมเดินทางไปทำบุญแก้ปีชงกัน
ตามความเชื่อทางโหราศาสตร์จีน เชื่อว่าชะตาชีวิตของมนุษย์ขึ้นอยู่กับ “เทพไท้ส่วยเอี๊ย” หรือที่รู้จักกันดีในนาม “เทพเจ้าผู้คุ้มครองดวงชะตา” และหากในปีนั้นเทพไท้ส่วยเอี๊ยเคลื่อนทับดวงดาวของปีนักษัตรใด ก็แปลว่าเป็นปีชงของนักษัตรนั้น ซึ่งส่งผลให้ปีนักษัตรนั้นได้รับผลกระทบไปด้วย จึงเป็นที่มาของคำว่า “ปีชง”
สำหรับปีชง 2567 ได้แก่ ผู้ที่เกิด ปีจอ และปีชงร่วม ได้แก่ ปีมะโรง, ปีฉลู และปีมะแม ซึ่งตามความเชื่อของชาวจีน การไหว้ องค์ไท้ส่วยเอี้ย สามารถที่จะช่วยบรรเทาเคราะห์กรรมในปีชงนี้ให้เบาบางลง เพื่อเป็นการสะเดาะเคราะห์และเสริมสิริมงคลให้กับตัวเอง
“วัดเล่งเน่ยยี่ 2” หรือ “วัดบรมราชากาญจนาภิเษกอนุสรณ์” ตั้งอยู่ที่ ต.โสนลอย อ.บางบัวทอง เป็นวัดจีนที่อยู่ในความอุปถัมภ์ของคณะสงฆ์จีนนิกายแห่งประเทศไทย ถือเป็นธรรมสถานที่ผู้คนให้ความศรัทธาในเรื่องการสะเดาะเคราะห์ เสริมดวงชะตา โดยเฉพาะบรรดาคน “ปีชง”ทั้งหลาย วัดแห่งนี้จัดสร้างขึ้นเพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติถวายรัชกาลที่ ๙ เนื่องในวโรกาสที่ทรงครองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี ซึ่งพระองค์ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามว่า "วัดบรมราชากาญจนาภิเษกอนุสรณ์”
ภายในวัดมีสถาปัตยกรรมงดงามตระการตา ได้ถูกออกเเบบด้วยสถาปัตยกรรมจีนในยุคสมัยราชวงศ์หมิง เเละถูกตกแต่งด้วยภาพจิตรกรรมพุทธศิลป์จีนโบราณ บรรยากาศจึงเหมือนอยู่ในพระราชวังจีน หลายคนที่มาที่นี่นอกจากจะมาไหว้ขอพรเสริมสิริมงคลในชีวิตแล้ว ก็มักจะมาแก้ปีชงภายใน “วิหารท้าวจตุโลกบาล” ส่วนใครที่ต้องการมาไหว้สะเดาะเคราะห์แก้ปีชง ทางวัดจะมีจุดจำหน่ายชุดเครื่องไหว้ตามต้องการ
บริเวณด้านใน “วิหารท้าวจตุโลกบาล” ในจุดนี้ผู้ที่เกิดปีชงจะต้องมาสักการะองค์ “ไท้ส่วยเอี๊ย” หรือ “เทพเจ้าคุ้มครองดวงชะตาชีวิต” โดยจะต้องนำชุดไหว้ฝากดวงชะตา พร้อมทั้งเขียนชื่อ อายุ วัน เดือน ปีและเวลาเกิด มาสักการะเพื่อฝากดวงชะตาให้องค์ท่านคุ้มครองตลอดปี สำหรับคนที่ไม่ได้เป็นปีชงก็มาสักการะขอพรเทพเจ้าองค์อื่นๆ อาทิ พระศรีอาริยเมตไตรย, ท้าวจตุโลกบาลทั้งสี่ทิศ และเทพเจ้าองค์อื่นๆ ที่ประดิษฐานอยู่ภายในวิหารเเห่งนี้เพื่อความเป็นสิริมงคล
เมื่อเดินเข้ามาด้านในจะพบกับ “พระอุโบสถ" ที่เป็นที่ประดิษฐานองค์พระประธาน 3 พระองค์คือ พระอมิตาภพุทธเจ้า พระศากยมุนีพุทธเจ้า เเละพระไภษัชยคุรุไวฑูรย์พุทธเจ้า องค์ใหญ่เด่นเป็นสง่าอยู่บริเวณตรงกลาง เป็นพุทธศิลป์แบบจีนที่มีพุทธลักษณะ งดงามซึ่งถอดแบบมาจากวัดมังกรกมลาวาส (เล่งเน่ยยี่) พระพักตร์มีลักษณะ มหาเมตตา มหากรุณา องค์พระมีพุทธลักษณะที่เด่นเป็นสง่า และงดงามยิ่ง บริเวณรอบอุโบสถจะเป็นหินแกรนิตขนาดใหญ่สลักเสลาเป็นรูปธรรมชาติต่างๆ พร้อมทั้งมีรูปปั้นอรหันต์ทั้ง 18 พระองค์ อยู่ทั้งสองฝั่งซ้าย-ขวา ซึ่งหากใครได้มาขอพรก็มีความเชื่อว่าจะบรรลุผลสำเร็จทุกๆ อย่างในพรที่ขอ
บริเวณด้านหลังของพระอุโบสถก็ยังเป็นที่ตั้งของ “วิหารพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์” โดยชั้นล่างเป็นที่ประดิษฐาน “องค์พระโพธิสัตว์กวนอิมปางเนตรพันกร” ที่ถูกแกะสลักจากไม้สักทองลักษณะสมบูรณ์ทั้งพุทธลักษณะและพุทธศิลป์ และชั้นบนเป็นที่ตั้ง “วิหารสุขาวดีหมื่นพุทธ” ที่ภายในประดิษฐาน “พระอมิตาภพุทธเจ้า” องค์ประธานพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์
หลังจากไหว้พระสะเดาะเคราะห์แก้ปีชงและเพื่อความสิริมงคลกันแล้ว หากใครพอมีเวลาว่างก็อยากจะชวนทุกคนเดินชมความงดงามของสถาปัตยกรรมของวัดกันต่อ ซึ่งมีมุมถ่ายรูปสวยๆ ให้เราได้เก็บภาพความประทับใจกันด้วย
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Youtube :Travel MGR และ Instagram : @travelfoodonline และ TikTok : @travelfoodonline