ยิ่งเทคโนโลยีก้าวล้ำไปไกล ประเทศไทยก็ยิ่งมีความเชื่อและรูปเคารพแปลก ๆ ให้บรรดาสายมูได้สักการบูชากันมากขึ้นเรื่อย ๆ และล่าสุดกับ “จิ้งจอกเก้าหาง” รูปเคารพ (ตามความเชื่อส่วนบุคคล) ของคนกลุ่มหนึ่ง ที่ได้กลายเป็นดราม่าสนั่นโลกโซเชียล มีผู้วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง
นางพญาจิ้งจอกเก้าหาง
จากกรณีเพจ “ศิษย์มีครู” ได้ออกมาโพสต์เปิดตัวรูปเคารพ ”นางพญาจิ้งจอกเก้าหาง” ที่ตั้งอยู่ร่วมกับรูปเคารพทวยเทพอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น พระพรหม, พระแม่ทุรคา, เห้งเจีย ฯ โดยมีรูปเคารพ “ครูกายแก้ว” เป็นองค์ประธาน พร้อมเชิญชวนให้คนไปกราบไหว้ โดยอ้างความเชื่อว่า หากใครได้บูชาองค์จิ้งจอกเก้าหางจะทำให้เกิดเสน่ห์ เมตตา มหานิยม
หลังเรื่องนี้ถูกเผยแพร่ออกไป ได้กลายเป็นทอล์คออฟเดอะทาวน์ที่มีการพูดถึงกันอย่างกว้างขวางบนโลกออนไลน์ ไม่ต่างจากกรณีของครูกายแก้ว โดยคนส่วนหนึ่งมองว่าเป็นความเชื่อส่วนบุคคล ขณะที่คนส่วนใหญ่ มองว่าไม่ใช่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ แถมยังมีที่มาคล้ายกับปีศาจมากกว่า
ด้าน “พระพยอม กัลยาโณ” เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว จ.นนทบุรี ได้ออกมาให้ความเห็นถึงเรื่องนี้กับสื่อมวลชนว่า สายมูขุดอะไรต่าง ๆ ขึ้นมา ก่อนหน้านี้มีครูกายแก้ว ท้าวเวสสุวรรณ ตอนนี้มีจิ้งจอกเก้าหาง แสดงว่าเพดานจากพระรัตนตรัยรูดลงมาถึงจิ้งจอกแล้ว ตกลงแล้วชาวพุทธเรายึดถือที่กราบไหว้ไว้ที่ไหนกัน จึงไปกราบไหว้จิ้งจอกเก้าหาง ไม่รู้จะพูดอย่างไร เดิมแล้วพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งไว้กราบไหว้ก็ดีอยู่แล้ว ทำไมจะต้องไปหาอย่างอื่นมาเสริมใส่ให้ดูปัญญาต่ำลง ขอฝากว่าอย่าพากันหลงไหลในเรื่องเหล่านี้ เพราะเป็นเช่นนี้ทำให้ชีวิตไม่มีที่พึ่งอันประเสริฐ
นอกจากนี้พระพยอมยังเตือนสติว่า เตือนแล้วเตือนอีกจะกราบไหว้สิ่งใด ต้องนึกถึงว่าสิ่งที่กราบไหว้นั้นให้สิ่งใดกับเรา อย่างพระพุทธเจ้า พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ พระปัญญาคุณ พระบริสุทธิ์คุณ พระมหากรุณาธิคุณอย่างนี้ระลึกแล้วกราบไหว้ จะได้ไม่ผิดพลาดและเสียหาย
ย้อนตำนานจิ้งจอก 9 หาง
หลังเกิดดราม่ารูปเคารพนางพญาจิ้งจอกเก้าหาง ทำให้หลาย ๆ คนสนใจอยากรู้เรื่องราวของจิ้งจอกเก้าหางว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร ทำไมจู่ ๆ เมืองไทยถึงมีการนำจิ้งจอกเก้าหางมาสร้างเป็นรูปเคารพให้คนกราบไหว้ใจกลางเมือง
จิ้งจอกเก้าหาง เป็นตำนานปีศาจชื่อดังของหลายประเทศในเอเชีย ว่าด้วยเรื่องราวของปีศาจจิ้งจอกที่บำเพ็ญเพียรจนมีตบะแก่กล้า สามารถแปลงร่างเป็นมนุษย์ได้ทั้งบุรุษและสตรี (ส่วนใหญ่จะแปลงเป็นสาวงาม หนุ่มหล่อ) ถือว่าเก่งที่สุดในบรรดาปีศาจจิ้งจอก
ปัจจุบันจิ้งจอกเก้าหางเป็นหนึ่งในตัวละครปีศาจดาวดังที่ปรากฏทั้งใน นวนิยาย ซีรีส์ ภาพยนตร์ อะนิเมะ มังงะ เกม งานศิลปะ ฯลฯ ซึ่งมีทั้งด้านดีและชั่วร้าย โดยเฉพาะในซีรีส์แนวเทพเซียนของจีนนั้น จะปรากฏปีศาจจิ้งจอกและจิ้งจอกเก้าหางเป็นพระเอก-นางเอก ตัวร้าย และตัวเอกดาวเด่นอื่น ๆ (ทั้งหญิงและชาย) อยู่หลายเรื่องด้วยกัน จนหลายคนคิดว่าตำนานจิ้งจอกเก้าหางมีต้นกำเนิดจากเมืองจีน
แต่จากข้อมูลส่วนใหญ่ต่างระบุว่า จิ้งจอกเก้าหางมีตำนานเริ่มต้นมาจาก “อินเดีย” แล้วถ่ายทอดไปทางเส้นทางสายไหม จากจีนไปญี่ปุ่นเกาหลี รวมถึงมายังประเทศไทยในปัจจุบัน
ตำนานจิ้งจอกเก้าหางในอินเดีย-จีน
เรื่องราวของปีศาจจิ้งจอกเก้าหางของอินเดีย จีน และญี่ปุ่น จะคล้าย ๆ กัน แต่จะต่างกันในรายละเอียดของประเทศนั้น ๆ ที่มีผู้มาแต่งเติมเพิ่มมากขึ้น
โดยตำนานจิ้งจอกเก้าหางในอินเดีย เล่าเรื่องของปีศาจจิ้งจอกที่ชั่วร้ายแปลงร่างเป็นสาวงามมาล่อลวงองค์ชายรัชทายาทจนลุ่มหลงมัวเมา จนบ้านเมืองปั่นป่วนวุ่นวาย
เช่นเดียวกับตำนานจิ้งจอกเก้าหางของเมืองจีน ที่มีการอ้างอิงพงศาวดารจีนชื่อว่า “ฮ่องสิน” หรือ “ห้องสิน” เล่าเรื่องราวในสมัยราชวงศ์ซาง ว่า “พระเจ้าอินโจว” หรือ “โจ้วหวาง” ไปล่วงเกินเจ้าแม่หนี่วาในเชิงลบลู่ลามก จนเจ้าแม่พิโรธ สั่งปีศาจจิ้งจอกเก้าหาง และ “ไก่ฟ้าเก้าเศียร” กับ “ปีศาจพิณหยก” มากำจัดพระเจ้าอินโจว
โดยปีศาจเก้าหางมาสิงสู่ในร่างสาวงามและล่อลวงพระเจ้าอินโจวผู้มักมากในกาม จนบ้านเมืองปั่นป่วนวุ่นวาย ขยายกลายเป็นศึกระหว่างมนุษย์กับเทพบนสวรรค์ ซึ่งสุดท้ายพระเจ้าอินโจวพ่ายแพ้ต้องจบชีวิตลงกลายเป็นอีกหนึ่งทรราชย์ที่ถูกกล่าวถึงในประวัติศาสตร์จีน
ศิลาจิ้งจอกเก้าหาง
ส่วนจิ้งจอกเก้าหางของญี่ปุ่น ว่ากันว่าคือปีศาจตัวเดียวกันจากเมืองจีนที่หลบหนีไปจากสงครามมนุษย์-เทพ แต่ตำนานของญี่ปุ่นมีการนำไปเชื่อมโยงกับสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติชื่อดัง คือ “ศิลาเซ็ตโชเซกิ” (Sessho-seki) หรือ “หินสังหาร” หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ “ศิลาจิ้งจอกเก้าหาง”
ศิลาจิ้งจอกเก้าหาง เป็นหินลาวาขนาดใหญ่ ตั้งอยู่บนเนินเขานาสุ จังหวัดโทชิกิ เกาะฮอนชู ตามตำนานเล่ากันว่าในสมัยเฮอัน จิ้งจอกเก้าหางได้แปลงร่างเป็นสาวงามชื่อ “ทามาโมะ โนะ มาเอะ” เข้ามาหลอกล่อองค์จักรพรรดิโทบะให้ลุ่มหลงแล้วสูบกลืนพลังชีวิต เมื่อข้าราชบริพารเห็นดังนั้นจึงส่งคนมาปราบจิ้งจอกเก้าหางได้สำเร็จ ซากศพของนางได้กลายมาเป็นศิลาเซ็ตโชเซกิอันโด่งดัง
อย่างไรก็ดีปัจจุบันหินลาวาก้อนใหญ่นี้ได้แตกออกเป็น 2 ซีก ทำให้ชาวโซเชียลญี่ปุ่นส่วนหนึ่งเชื่อกันว่า นี่เป็นลางร้าย รวมถึงเชื่อว่านี่จะเป็นการปลดปล่อยวิญญาณจิ้งจอกเก้าหางให้ออกมาอีกครั้ง ? ทำให้ทางการต้องจัดพิธีปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายบริเวณหินก้อนนี้ออกไป
กูมิโฮ ตัวแทนความรักบริสุทธิ์
ไปดูตำนานจิ้งจอกเก้าหางที่ของเกาหลีกันบ้าง เป็นเรื่องราวของปีศาจจิ้งจอกเก้าหางชื่อ “กูมิโฮ” ที่แปลงร่างเป็นสาวงาม เพื่อกินหัวใจของมนุษย์ให้ครบ 100 คน แล้วจะกลายเป็นมนุษย์อย่างถาวร
กูมิโฮกินหัวใจเหยื่อมาแล้ว 99 คน กระทั่งมาเจอคนสุดท้ายเป็นชายหนุ่ม แต่สุดท้ายกูมิโฮตกหลุมรักชายผู้นี้ จนไม่สามารถกลายเป็นมนุษย์อย่างถาวรได้ ซึ่งชาวเกาหลีได้ยกเรื่องนี้ให้เป็นดังตัวแทนของ “ความรักบริสุทธิ์” ที่แปลกและแตกต่างออกไปจากตำนานจิ้งจอกเก้าหางของอินเดีย จีน และญี่ปุ่น
จิ้งจอกเก้าหางในไทย
มาที่เมืองไทยกันบ้าง บ้านเราแม้ไม่มีเรื่องราวตำนานปีศาจจิ้งจอกเก้าหางในสารบบผีไทย แต่คนไทยส่วนหนึ่งมีความเชื่อเรื่องการบูชานับถือจิ้งจอกเก้าหางมาหลายปีแล้ว
ในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา มีกระแสนิยมสักยันต์รูปจิ้งจอกเก้าหางในบ้านเรากันไม่น้อย โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวจีนจะชอบกันมาก นอกจากนี้ก็ยังมีการสร้างวัตถุมงคลจิ้งจอกเก้าหางต่าง ๆ อาทิ เหรียญ ล็อกเก็ต ตะกรุด ยันต์ เทียน เป็นต้น โดยเชื่อกันว่า นางพญาจิ้งจอกเก้าหาง มีพุทธคุณในด้านเมตตามหานิยม มีเสน่ห์แก่เพศตรงข้าม เป็นที่รักใคร่แก่ผู้พบเห็น ตามตำนานจิ้งจอกเก้าหางที่กล่าวมาข้างต้น รวมถึงช่วยเสริมในเรื่องโชคลาภค้าขายมีกำไร หน้าที่การงาน
ขณะที่วันนี้มีการยกระดับความเชื่อเรื่องจิ้งจอกเก้าหางด้วยการสร้างเป็นรูปเคารพใหญ่โตให้คนมากราบไหว้ใจกลางเมือง ซึ่งนี่ถือเป็นความเชื่อส่วนบุคคลที่แต่ละคนมีสิทธิ์ที่จะ “เชื่อ” และ “ไม่เชื่อ” ในการเคารพ บูชา กราบไหว้ สิ่งต่าง ๆ เพราะวันนี้ในขณะที่โลกเรามีความรุดหน้าทางเทคโนโลยีมากยิ่งขึ้น ประเทศไทยก็มีความเชื่อและรูปเคารพแปลก ๆ ให้บรรดาสายมูได้กราบไหว้กันมากยิ่งขึ้นเช่นกัน