xs
xsm
sm
md
lg

เที่ยวสนุกในเมืองใหญ่ “จาการ์ตา” ตะลุยอดีตสู่ปัจจุบัน เมืองหลวงแห่งอินโดนีเซีย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


เที่ยว “จาการ์ตา” เมืองหลวงของอินโดนีเซีย
ตะลอนเที่ยว “จาการ์ตา” เมืองหลวงของอินโดนีเซีย ตะลุยอดีตสู่ปัจจุบัน ชมมัสยิดที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มหาวิหารงดงาม เมืองจำลองจากทั่วอินโดนีเซีย และคึกคักยามค่ำคืนไปกับย่านเมืองใหม่

บนขนาดใหญ่อย่างเกาะชวา เป็นที่ตั้งของ “จาการ์ตา” (Jakarta) เมืองหลวงของประเทศอินโดนีเซีย และเป็นเมืองที่ขึ้นชื่อว่ามีขนาดใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ด้วยประชากรที่มีกว่า 10 ล้านคน รถยนต์ 4 ล้านคัน และจักรยานยนต์อีกกว่า 12 ล้านคัน ทำให้เมืองหลวงแห่งนี้ได้ขึ้นชื่อว่ารถติดที่สุดแห่งหนึ่งของโลก เชื่อว่าใครที่ได้มาเยือนกรุงจาการ์ตา ก็ย่อมจะได้สัมผัสประสบการณ์รถติด (จนท้อ) กันบ้างไม่มากก็น้อย

ใจกลางย่านธุรกิจในจาการ์ตา

อนุสาวรีย์แห่งชาติ
แต่ก็ใช่ว่าการจราจรที่คับคั่งนั้นจะทำให้เราท้อใจจนไม่อยากเที่ยวเมืองหลวงแห่งนี้ กลับกัน หากลองใช้ช่วงเวลาที่ติดอยู่บนท้องถนนลองมองดูสองข้างทาง สังเกตวิถีชีวิตผู้คนในเมืองใหญ่ ก็ถือเป็นการสำรวจเมืองแห่งนี้ไปในตัว

เริ่มต้นเที่ยวเมืองจาการ์ตากันจากโซนใจกลางเมือง ที่ “อนุสาวรีย์แห่งชาติ” (National Monument หรือ Monas) หอคอยสูง 132 เมตร ที่เปรียบเสมือนแลนด์มาร์กแห่งจาการ์ตา บริเวณจัตุรัสเมอร์เดกา ที่นี่สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์แก่การประกาศอิสรภาพของชาวอินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม ค.ศ.1945 โดยยอดหอคอยเป็นรูปเปลวไฟหล่อด้วยทองคำ ภายในฐานหอคอยมีพิพิธภัณฑ์เกี่ยวกับการต่อสู้เพื่อเอกราชของอินโดนีเซีย ส่วนบริเวณฐานเปลวไฟเป็นจุดชมวิวมุมสูงของเมือง

พระราชวังเมอร์เดกา
บริเวณใกล้ๆ กับอนุสาวรีย์แห่งชาติ เป็นที่ตั้งของสถานที่สำคัญหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็น “พระราชวังเมอร์เดกา” ซึ่งเคยเป็นที่ทำการของนายพลชาวดัตช์ ปัจจุบันเป็นสำนักงานของประธานาธิบดีและคณะรัฐมนตรี นอกจากนี้ยังมีกระทรวงต่างๆ อาคารสำนักงาน และสถานทูต

มัสยิดอิสติกลัล

มัสยิดอิสติกลัล

มัสยิดอิสติกลัล
ถัดมาอีกนิด มีจุดท่องเที่ยวซึ่งเป็นศาสนสถานสำคัญของจาการ์ตา เริ่มตั้งแต่ “มัสยิดอิสติกลัล” (Istiqlal Mosque) ศูนย์รวมความศรัทธาของชาวมุสลิม วิจิตรงดงามด้วยสถาปัตยกรรม และยังเป็นมัสยิดที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สามารถรองรับผู้คนได้มากกว่า 120,000 คน (และอาจจะมากกว่านั้น หากรวมพื้นที่ลานกว้างด้านนอกที่สามารถรองรับผู้คนได้เพิ่มเติม)

ความโดดเด่นของอาคารมัสยิดที่เป็นสไตล์ร่วมสมัย เริ่มตั้งแต่หลังคาถูกออกแบบเป็นโคมขนาดใหญ่และตกแต่งด้วยรูปจันทร์เสี้ยวและดาว ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของศาสนาอิสลาม โดมรองที่มีขนาดเล็กกว่านั้นยังประดับด้วยยอดสแตนเลสที่มีพระนามของอัลลอฮ์ (พระเจ้า) ในการเขียนพู่กันอิสลาม และโครงสร้างส่วนใหญ่ห่อหุ้มด้วยหินอ่อนจากชวาตะวันออก

ห้องโถงกลาง เป็นห้องละหมาดสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ โดยมีโดมเส้นผ่านศูนย์กลาง 45 เมตร ซึ่งหมายเลข 45 เป็นสัญลักษณ์ของการประกาศเอกราชของอินโดนีเซียในปี ค.ศ.1945 รองรับด้วยเสากลม 12 ต้น เป็นตัวเลขวันเกิดของศาสดามูฮัมหมัด ส่วนที่ด้านนอก มีลานกว้างที่สามารถรองรับผู้คนในการทำกิจกรรมต่างๆ ได้ และยังมีหอคอยสูงเพื่อประกาศให้ชาวมุสลิมเข้ามาสวดมนต์ และผู้แสวงบุญจะเดินตามหอสูงนี้เพื่อไปยังมัสยิดได้

มหาวิหารจาการ์ตา

มหาวิหารจาการ์ตา

มหาวิหารจาการ์ตา
ฝั่งตรงข้ามของมัสยิดเป็นที่ตั้งของ “มหาวิหารจาการ์ตา” (Jakarta Cathedral) โบสถ์โรมันคาทอลิคเก่าแก่กลางเมือง สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1901 ด้วยสถาปัตยกรรมรูปแบบนีโอ - กอธิค ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมที่ได้รับความนิยมในสมัยนั้น ตัวอาคารนั้นทำจากอิฐสีแดงถูกฉาบทับด้วยปูนปลาสเตอร์ ยอดแหลมของหอคอยทำจากโครงเหล็ก ความสูง 197 ฟุต ตัวหลังคาทำจากไม้สัก หน้าต่างกรุกระจกสีโค้งใหญ่เหนือประตู ด้านในมหาวิหารมีแท่นบูชาทั้งหมด 3 แท่น คือ แท่นบูชาเซนต์แมรี แท่นบูชานักบุญยอแซฟ และแท่นสุดท้ายคือ แท่นบูชาหลักที่ตั้งอยู่กลาง

ย่านโอลด์ ปัตตาเวีย

จัตุรัสฟาตาฮิลลาห์
สำหรับ “จาการ์ตา” นั้นมีประวัติศาสตร์ความเป็นมาที่ยาวนาน ถูกปกครองโดยคนท้องถิ่น จนกระทั่งชาวดัตช์ได้เข้ามามีบทบาททางการค้าเครื่องเทศในแถบหมู่เกาะอินโดนีเซีย ภายใต้การค้าของบริษัทอินเดียตะวันออกของเนเธอร์แลนด์ จากนั้นจึงเข้ายึดครองจาการ์ตา มีการสร้างเมืองใหม่ขึ้นมาและตั้งชื่อใหม่ว่า “ปัตตาเวีย” (Batavia)

ซึ่งในปัจจุบัน เรายังสัมผัสความเป็นเมืองเก่าปัตตาเวียกันได้ที่ “จัตุรัสฟาตาฮิลลาห์” (Fatahillah Square) บริเวณเขตเมืองเก่ากรุงจาการ์ตา หรือ โอลด์ ปัตตาเวีย (Old Batavia) โดยที่นี่เคยเป็นศูนย์กลางการค้าของชาวดัตช์เมื่อกว่า 400 ปีก่อน รายล้อมด้วยอาคารประวัติศาสตร์มากมาย เช่น ศาลาว่าการ อาคารพานิชย์ พิพิธภัณฑ์ ท่าเรือ เป็นต้น

อาคารศาลาว่าการ (เดิม)

พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์จาการ์ตา
หากว่ามาถึงจัตุรัสฟาตาฮิลลาห์แล้ว ก็จะพบกับลานกว้างที่รอบๆ มีอาคารเก่าแก่มากมาย อย่างเช่น อาคารศาลาว่าการ (เดิม) ปัจจุบันกลายมาเป็น “พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์จาการ์ตา” ที่จัดแสดงเรื่องราวตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ การก่อตั้งจายาการ์ตา (ชื่อเดิมของจาการ์ตา) และยุคอาณานิคมของดัตช์ จนกระทั่งการประกาศอิสระภาพของอินโดนีเซีย ซึ่งภายในนั้นมีทั้งเรื่องราว ภาพวาด ข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ไปจนถึงห้องคุมขังผู้กระทำผิดที่อยู่บริเวณใต้ถุนของตึก

รอบๆ จัตุรัสฟาตาฮิลลาห์

ปืนใหญ่ซีจากูร์
นอกจากนั้น บริเวณนี้ก็ยังมีร้านค้า ร้านอาหาร คาเฟ่ พิพิธภัณฑ์เล็กๆ ให้เดินเที่ยวชม และมุมหนึ่งของจัตุรัสก็จะมีปืนใหญ่ที่ตั้งอยู่ ซึ่งปืนกระบอกนี้มีชื่อว่า “ซีจากูร์” (Si Jaguar) ได้มาจากการหล่อปืนใหญ่ 16 กระบอก แต่ผู้สร้างปืนกระบอกนี้ไม่ใช่ชาวดัตช์ แต่เป็นชาวโปรตุเกสที่ปกครองมะละกาในอดีต จนกระทั่งชาวดัตช์แห่งฮอลันดาตีเมืองมะละกาแตก ปืนใหญ่กระบอกนี้จึงถูกย้ายมาที่ป้อมปัตตาเวีย จนกระทั่งป้อมถูกทำลาย ปืนกระบอกนี้จึงถูกย้ายมาไว้ยังจุดปัจจุบัน ที่แปลกอีกอย่างคือ บริเวณท้ายปืนจะมีมือขวาโผล่ออกมา ว่ากันว่าเป็นสัญลักษณ์ของเพศชาย

เมืองจำลองอินโดนีเซีย

บ้านจำลองจากจังหวัดสุมาตราตะวันตก
แหล่งท่องเที่ยวอีกแห่งของจาการ์ตาที่ไม่ควรพลาดคือ “เมืองจำลองอินโดนีเซีย” (Indonesia Miniature Park หรือ Taman Mini Indonesia Indah) ที่ได้รวบรวมเอาเอกลักษณ์ของอินโดนีเซียจากทั่วประเทศมาไว้ในที่เดียว

ในพื้นที่ขนาด 625 ไร่ หากเดินชมโดยละเอียดนั้นคาดว่าเวลา 1 วันคงไม่เพียงพอ เพราะที่นี่รวบรวมสถาปัตยกรรมและศิลปะวัฒนธรรมอินโดนีเซียมาจากทั่วประเทศ ซึ่งเป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่าอินโดนีเซียนั้นมีพื้นที่กว้างใหญ่ มีคนอยู่อาศัยมากมาย มีวัฒนธรรม ความเชื่อ การแต่งกาย ประเพณี ไปจนถึงอาหารการกินที่แตกต่างกันไป

จำลองพิธีแต่งงานในสุมาตราตะวันตก

จำลองที่อยู่ของชาวเผ่าในจังหวัดปาปัว

พิพิธภัณฑ์บาติกอินโดนีเซีย
ที่นี่จะมีสถาปัตยกรรมที่เป็นตัวแทนของกลุ่มชาติพันธุ์หรือผู้คนในอินโดนีเซียจาก 33 จังหวัด แต่ละจุดก็สามารถเข้าไปชมบ้านเรือน ข้าวของเครื่องใช้ หรือแม้แต่การแสดงศิลปวัฒนธรรมของแต่ละท้องถิ่นได้ และด้วยขนาดพื้นที่กว้างขวาง ที่นี่ก้มีบริการรถราง รถกอล์ฟ รถรางลอยฟ้า กระเช้าลอยฟ้า หรือใครอยากจะซึมซับแบบละเอียดก็สามารถเดินชมไปเรื่อยๆ ได้

และภายในพื้นที่ของเมืองจำลองแห่งนี้ ก็ยังมีพิพิธภัณฑ์ที่น่าสนใจอีกหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็น พิพิธภัณฑ์การคมนาคม พิพิธภัณฑ์ทหาร พิพิธภัณฑ์ไฟฟ้าและพลังงานใหม่ พิพิธภัณฑ์บาติกอินโดนีเซีย เป็นต้น และยังมีสวนสัตว์ สวนนก และเครื่องเล่นต่างๆ อีกด้วย เรียกว่าเป็นสถานที่ที่เหมาะกับคนทุกเพศทุกวัย

ริมหาดทรายในย่านเมืองใหม่จาการ์ตา

Pantjoran PIK

Pantjoran PIK
เที่ยวเมืองเก่ากันไปแล้ว ไปเยือนเมืองใหม่ของจาการ์ตากันบ้าง ที่นี่คือ “PIK 2” หรือ Pantai Indah Kapuk เป็นย่านเมืองใหม่ของจาการ์ตาที่เพรียบพร้อมในระบบขนส่งและสาธารณูปโภคครบครัน ประกอบด้วยหมู่บ้าน คอนโดมีเนียม อาคารพานิชย์ ห้างสรรพสินค้า สถานศึกษา ศูนย์กีฬา ศูนย์แสดงสินค้า สวนสาธารณะขนาดใหญ่ และร้านอาหารนานาชนิด พร้อมหาดทรายสีขาวที่เกิดจากการถมทะเล ที่สำคัญคือ ที่นี่เป็นย่านเดียวในประเทศอินโดนีเซียที่มีน้ำประปาดื่มได้ เนื่องจากมีการสร้างระบบสาธารณูปโภคขึ้นมาใหม่

ในยามค่ำคืนที่คึกคักของ PIK2 ต้องมาเดินเล่นที่ “Pantjoran PIK” ที่นี่ได้รับแรงบันดาลใจจากสถาปัตยกรรมจีน มีร้านอาหารจีนและชาติอื่นๆ ขายในบริเวณนี้ มีจุดถ่ายรูปสวยๆ เดินเล่นเพลินๆ ยังคิดว่าเหมือนเดินอยู่ที่เมืองจีนกันเลยทีเดียว

โรงแรม เบสท์ เวสเทิร์น เซนายัน

โรงแรม เบสท์ เวสเทิร์น เซนายัน

โรงแรม เบสท์ เวสเทิร์น เซนายัน

โรงแรม เบสท์ เวสเทิร์น เซนายัน
มาเที่ยวจาการ์ตากันแบบเต็มอิ่ม ใครที่กำลังมองหาที่พักสบายๆ ใจกลางเมืองจาการ์ตา ก็มีแนะนำอยู่ 2 แห่ง เริ่มจาก “โรงแรม เบสท์ เวสเทิร์น เซนายัน” (Best Western Senayan) ตั้งอยู่ในย่านเซนายันด้านใต้ของกรุงจาการ์ตา รายล้อมด้วยห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ อาคารสำนักงานด้านการเงิน บ้านพักนักการฑูต และสนามกีฬาแห่งชาติ เดินทางสะดวกสู่ใจกลางเมือง

ประกอบด้วยห้องพัก 137 ห้อง ทั้งห้องพักแบบมาตรฐาน ซูพีเรีย ดีลักซ์ เอ็กเซคคูทีฟ และแฟมิลี่ ให้ได้เลือกตามความต้องการ พร้อมห้องประชุมขนาดกลางและขนาดเล็ก สำหรับงานเลี้ยงหรืองานประชุมสัมมนา อีกทั้งยังมีห้องอาหาร Chill In Café ที่ให้บริการตลอดทั้งวัน

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม และสำรองห้องพัก โทรศัพท์ (+62) 21 2903 7345 อีเมล์ : reservation@bwsenayan.com เว็บไซต์ : bwsenayan.com

โรงแรม เบสท์ เวสเทิร์น พรีเมียร์ เดอะ ไฮฟ์

โรงแรม เบสท์ เวสเทิร์น พรีเมียร์ เดอะ ไฮฟ์

โรงแรม เบสท์ เวสเทิร์น พรีเมียร์ เดอะ ไฮฟ์

โรงแรม เบสท์ เวสเทิร์น พรีเมียร์ เดอะ ไฮฟ์
ส่วนอีกแห่งคือ “โรงแรม เบสท์ เวสเทิร์น พรีเมียร์ เดอะ ไฮฟ์” (Best Western Premier The Hive) ตั้งอยู่ย่านธุรกิจ Cawang ฝั่งตะวันออกของกรุงจาการ์ตา ไม่ไกลจากสถานที่ราชการ ห้างสรรพสินค้า เขตอุตสาหกรรม สถานีรถไฟความเร็วสูงไปยังเมืองบันดุง และเพียง 10 นาที สู่สนามบินนานาชาติ Halim Perdana Kusuma อีกทั้งยังใกล้แลนด์มาร์คของกรุงจาการ์ตา เช่น Taman Mini Indonesia Indah

โรงแรมแห่งนี้พร้อมสร้างความประทับใจให้ทุกการเข้าพัก ด้วยห้องขนาดกว้างขวางและสวีทรวม 188 ห้อง สระว่ายน้ำ สปา ห้องออกกำลังกาย ห้องประชุมสัมมนา ห้องอาหารและบาร์ 2 แห่ง ตลอดทั้งวัน โดยผู้เข้าพักจะได้ลิ้มลองอาหารพื้นเมืองและเครื่องดื่มนานาชนิด

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม และสำรองห้องพัก โทรศัพท์ (+62) 21 2982 1888 เว็บไซต์ : bestwestern.com/best-western-premier-the-hive

#########################################

สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Youtube :Travel MGR และ Instagram : @travelfoodonline และ TikTok : @travelfoodonline




กำลังโหลดความคิดเห็น