อินโดนีเซียเปิดให้บริการรถไฟความเร็วสูงสายแรกในภูมิภาคอาเซียน หนึ่งในเมกะโปรเจ็กต์มูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ที่มีจีนเป็นผู้สนับสนุนหลักตามโครงการแถบและเส้นทาง (belt and road) ขณะประธานาธิบดี โจโก วิโดโด กล่าวยกย่องเส้นทางรถไฟสายนี้ว่าเป็น “สัญลักษณ์แห่งความทันสมัย” ของอินโดนีเซีย
รถไฟหัวกระสุน ‘Whoosh’ ซึ่งทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 350 กิโลเมตรต่อชั่วโมงจะช่วยย่นระยะเวลาเดินทางระหว่างกรุงจาการ์ตากับเมืองบันดุงเหลือเพียง 45 นาที จากเดิมที่ต้องใช้เวลา 3 ชั่วโมงด้วยระบบรถไฟธรรมดา
“รถไฟความเร็วสูงจาการ์ตา-บันดุงเป็นเครื่องบ่งชี้ถึงความมีประสิทธิภาพ ความเป็นมิตร และการบูรณาการระบบขนส่งมวลชนของเรา” วิโดโด กล่าวในพิธีเปิดตัวบริการรถไฟความเร็วสูงที่สถานีกลางกรุงจาการ์ตาวันนี้ (2 ต.ค.)
“นี่คือสัญลักษณ์แห่งความทันสมัยของระบบราง ซึ่งจะสามารถเชื่อมโยงกับระบบขนส่งอื่นๆ ได้อย่างไร้รอยต่อ”
รถไฟหัวกระสุน Whoosh ซึ่งจุผู้โดยสารได้เที่ยวละ 600 คน ถือเป็นรถไฟความเร็วสูงสายแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเป็นความร่วมมือระหว่างรัฐบาลจีนและอินโดนีเซียภายใต้โครงการแถบและเส้นทาง ซึ่งคำว่า Whoosh นั้นย่อมาจากตัวอักษรแรกของสโลแกน ‘Waktu Hemat, Operasi Optimal, Sistem Handal’ ซึ่งเป็นภาษาอินโดนีเซียแปลว่า “ประหยัดเวลา ปฏิบัติการดีที่สุด ระบบที่เชื่อถือได้”
รถไฟขบวนนี้จัดสร้างขึ้นโดย PT Kereta Cepat Indonesia-China หรือ PT KCIC ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างรัฐวิสาหกิจอินโดนีเซีย 4 แห่งกับบริษัท China Railway International Co. ของจีน
เดิมทีโครงการนี้กำหนดวงเงินงบประมาณไว้ไม่ถึง 5,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และมีกำหนดแล้วเสร็จตั้งแต่ปี 2019 แต่ก็ต้องเผชิญความล่าช้าจากปัญหาในการก่อสร้างและสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งทำให้งบบานปลายจนมาอยู่ที่ราวๆ 7,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ทางการอินโดนีเซียได้เปิดให้ประชาชนทดลองนั่งรถไฟความเร็วสูงขบวนนี้ก่อนที่จะเปิดใช้งานจริง และเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว รัฐมนตรีกระทรวงคมนาคม บูดี การ์ยา ซูมาดี ก็ยืนยันว่า รัฐบาลอิเหนามีแผนที่จะต่อขยายเส้นทางรถไฟความเร็วสูงจากบันดุงไปจนถึงสุราบายา (Surabaya) ซึ่งเป็นเมืองใหญ่อันดับ 2 ของประเทศทางตะวันออกของเกาะชวา
นายกรัฐมนตรี หลี่ เฉียง ของจีน และ ลูฮุต ปันไจตัน รัฐมนตรีอาวุโสของอินโดนีเซีย ได้ทดลองนั่งรถไฟ Whoosh ระหว่างที่ หลี่ เดินทางไปร่วมประชุมซัมมิตกับบรรดาผู้นำอาเซียนที่กรุงจาการ์ตาเมื่อเดือนที่แล้ว
ปันไจตัน ให้สัมภาษณ์สื่อเมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้ว (28 ก.ย.) ว่า วิโดโด มีแผนที่จะเชิญประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ให้มาร่วมทดลองนั่งรถไฟหัวกระสุนขบวนนี้ในอนาคตด้วย แต่ยังไม่ขอให้รายละเอียดเพิ่มเติม
ที่มา: เอเอฟพี