xs
xsm
sm
md
lg

สถานที่ท่องเที่ยวเกาสง หลงเสน่ห์ภาคใต้ “ไต้หวัน”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“เกาสง” (Kaohsiung) เมืองสำคัญทางตอนใต้ของไต้หวัน ซึ่งได้รับการขนานนามว่าเป็นศูนย์กลางทางอุตสาหกรรมที่ใหญ่ที่สุดของไต้หวัน และยังเป็นเมืองท่องเที่ยวที่ใครมาเยือนต่างก็หลงใหลในความเป็นเมืองทันสมัยที่มีเสน่ห์น่ารักแบบเมืองต่างจังหวัดผสมผสานกันได้อย่างลงตัว

เมืองเอกแห่งภาคใต้ของไต้หวัน มีสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงเป็นจำนวนมาก อาทิ ทะเลสาบดอกบัวที่งดงามในยามค่ำคืน, อุทยานโลกพระจันทร์เถียนเหลียว แหล่งท่องเที่ยวด้านธรณีวิทยาสุดตระการตา, ฝอกวงซาน แหล่งปฏิบัติธรรมพุทธศาสนาที่ใหญ่ที่สุดในไต้หวัน เป็นต้น

แต่นอกเหนือจากแหล่งเที่ยวชื่อดังที่คุ้นหูคุ้นตากันดีแล้ว “เกาสง” มีสถานที่ท่องเที่ยวเปี่ยมสีสันน่าสนใจให้สำรวจอีกจำนวนไม่น้อย จึงอยากแนะนำคุณมารู้จักกับ “11 แหล่งเที่ยว เกาสง” ที่จะทำให้หลงเสน่ห์ภาคใต้ของไต้หวันยิ่งขึ้นกว่าเดิม


ย่านอ่าวใหม่แห่งเอเชีย (Asia New Bay Area)
แลนด์มาร์กสุดตระการตาที่มองเห็นจากบริเวณนี้ ต้องยกให้กับอาคาร Kaohsiung Music Center ที่สะดุดตาด้วยการออกแบบล้ำยุคจนได้รางวัลเหรียญทองจาก The World Prix d'Excellence Awards ประจำปี 2021 มาแล้ว

ย่านอ่าวใหม่แห่งเอเชีย เป็นต้นแบบยุคใหม่ในการพัฒนาเกาสง เนื่องจากตอนเหนือเป็นที่ตั้งของย่านธุรกิจซานตัวและทางใต้อยู่ติดกับสนามบินนานาชาติเกาสง ภายในมีห้างสรรพสินค้าฮั่นเซิน (Hanshin Department Store) และโรงแรม Grand Hilai Kaohsiung สุดหรูหราโดดเด่นอยู่ใจกลาง จัดเป็นย่านศูนย์กลางห้างของเกาสง เต็มไปด้วยร้านค้าชั้นนำ ร้านอาหาร และห้างสรรพสินค้าอยู่ล้อมรอบ สะดวกต่อการเดินทางเข้ามาใช้บริการ โดยในอนาคตทางรัฐบาลเกาสงจะมีการเปิดตัวโครงการ “หย่าวาน 2.0” ที่มีการร่วมมือครั้งใหญ่กับรัฐบาลกลาง เพื่อยกระดับย่านอ่าวใหม่แห่งเอเชียให้กลายเป็นจุดศูนย์กลางธุรกิจที่สำคัญของไต้หวัน


ท่าเรือ ศูนย์ศิลปะ กับสะพานสุดอาร์ต Great Harbor (Pier-2 Art Center, Great Harbor Bridge)
อีกหนึ่งย่านสุดอาร์ตในเกาสง ตั้งอยู่ในแอ่งหมายเลข 3 ของท่าเรือเกาสง ที่ได้รับการเนรมิตให้เป็นพื้นที่ศิลปะเช่วยให้ศิลปินมีสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมในการแสดงผลงาน และกลายเป็นสถานที่ทางศิลปวัฒนธรรมที่ได้รับความนิยมมากอีกแห่ง กิจกรรมศิลปะทุกประเภทจัดขึ้นเป็นประจำในเขตนี้ เพื่อนำผลงานทางศิลปะมาสู่ย่านท่าเรือของเกาสง และยังนำกระแสใหม่ๆของศิลปะทางใต้ในเกาสงมาจัดแสดงอีกด้วย

แต่เดิมเป็นเส้นทางรถไฟสายตะวันตกซึ่งก่อนหน้านี้เคยขนสินค้ามาที่ท่าเรือ ปัจจุบันกลายเป็นเส้นทางปั่นจักรยานที่ได้รับความนิยมที่สุดของเกาสง ท่ามกลางบรรยากาศของเขตศิลปะ อาคารร้านค้า คาเฟ่เก๋ๆ 

นอกจากนี้ ยังมีสะพาน Great Harbour ยาว 110 เมตร อยู่ติดกับศูนย์ศิลปะ Pier-2 เป็นสะพานหมุนแนวนอนแห่งแรกในไต้หวัน สถาปัตยกรรมทันสมัย และเป็นสะพานหมุนข้ามท่าเรือที่ยาวที่สุดในเอเชีย ที่เปิดให้คนเดินเท้าข้ามไปมา และปั่นจักรยานผ่านไปได้ โดยที่จุดกึ่งกลางของสะพานจะมีจุดชมวิวซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถชมทิวทัศน์ริมน้ำอันงดงามของเมืองของท่าเรือเกาสงได้


นอกจากนี้ ยังมีสะพาน Great Harbour ยาว 110 เมตร อยู่ติดกับศูนย์ศิลปะ Pier-2 เป็นสะพานหมุนแนวนอนแห่งแรกในไต้หวัน สถาปัตยกรรมทันสมัย และเป็นสะพานหมุนข้ามท่าเรือที่ยาวที่สุดในเอเชีย ที่เปิดให้คนเดินเท้าข้ามไปมา และปั่นจักรยานผ่านไปได้ โดยที่จุดกึ่งกลางของสะพานจะมีจุดชมวิวซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถชมทิวทัศน์ริมน้ำอันงดงามของเมืองของท่าเรือเกาสงได้


หมู่บ้านศิลปะเว่ยอู่อิ๋ง (Weiwuying Street Art Village)
ในเขตหลิงหย่า ประจำเมืองเกาสง ที่มีความงามด้านศิลปะรอให้คุณได้สัมผัส จากเดิมที่ในอดีตเป็นเขตที่พักของทหาร ก่อนจะค่อยๆเปลี่ยนแปลงไปตามยุค

จนกระทั่งจุดเปลี่ยนสำคัญที่กลายเป็นย่านสีสันสตรีทอาร์ต คือ การเริ่มมีการจัดงานเทศกาลศิลปะ Wallriors Street Art Festival ในปี ค.ศ. 2016 เป็นต้นมา เพื่อเชิญเหล่าบรรดาศิลปินน้อยใหญ่ทั้งในและต่างประเทศมาร่วมประชันฝีมือและสร้างสรรค์งานศิลปะเป็นผลงานจิตรกรรมฝาผนังขนาดใหญ่ รวมถึงรังสรรค์ศิลปะจากวัตถุสาธารณะ 


ทำให้ปัจจุบันมีภาพวาดผนังมากถึง 135 ภาพ และยังเป็นชุมชนจิตรกรรมฝาผนังขนาดใหญ่แห่งแรกในไต้หวันที่ควรค่าแก่การมารับชมด้วยตาของตัวเองอีกด้วย


นั่งรถไฟความเร็วสูงไต้หวัน (THSR) มาลงที่สถานี Xin Zuoying และต่อรถไฟธรรมดา (TRA) จากสถานี Xin Zuoying มาลงที่สถานี Zhengyi และเดินต่อประมาณ 10 นาที พิกัด : No. 6, Shangyong Rd., Lingya Dist., Kaohsiung City


ย่านชอปปิงซินจูเจียง (Shinkuchan Shopping Street)
สายชอปต้องไม่พลาดมาเยือน “ซินจูเจียง” ที่ละลานตาด้วยสินค้าทั้งของกระจุกระจิกน่ารัก ไปจนถึงเสื้อผ้า รองเท้า เครื่องประดับ เครื่องสำอาง ร้านอาหารท้องถิ่น ซึ่งเหมาะแก่การมาอัปเดทเทรนด์แฟชั่นของชาวไต้หวัน สไตล์ของถนนยังมีความคล้ายคลึงกับฮาราจุกุ ประเทศญี่ปุ่น เพิ่มความน่าสนใจและกลายเป็นสถานที่ขวัญใจวัยรุ่นมากมาย 


ที่นี่เป็นแหล่งสินค้านำเข้าอันโด่งดังในอดีต เนื่องจากเป็นสถานที่ติดกับท่าเรือใหญ่ที่สุดของไต้หวัน ปัจจุบันมีการพัฒนาย่านนี้จนกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยม ทั้งรูปแบบร้านค้าและสินค้าที่คัดสรรมาอย่างประณีตเหมาะกับยุคสมัยมากยิ่งขึ้น

นั่งรถไฟความเร็วสูงไต้หวัน (THSR) มาลงที่สถานี Zuoying และต่อรถไฟฟ้าเกาสง (Kaohsiung MRT) สายสีแดงมาลงสถานี Central Park พิกัด : Xinxing Dist., Kaohsiung City


ตลาดนัดกลางคืนลิ่วเหอ (Liuhe Tourist Night Market)
หากชอบลิ้มลองอาหารสไตล์สตรีทฟูดของไต้หวันแล้วล่ะก็ ไม่ควรพลาด “ตลาดนัดกลางคืนลิ่วเหอ” ซึ่งมีมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1950 ตอนกลางวันที่นี่เป็นถนนปกติ แต่เมื่อถึงเวลากลางคืน ถนนสายเดิมจะเปลี่ยนโฉมเป็นย่านตลาดนัดสุดคึกคัก เรียงรายสองข้างทางด้วยของกินที่ละลานตากว่า 140 ร้าน แต่จัดสรรพื้นที่ได้อย่างเป็นระเบียบและสะอาดสะอ้าน

ตลาดแห่งนี้มีขายทุกอย่าง ตั้งแต่ของทานเล่น อาหาร เครื่องดื่ม เสื้อผ้า ของสะสม เกม ไปจนถึงความบันเทิงนานาชนิด แต่ทีเด็ดที่เป็นจุดขายสำคัญ ก็ต้องยกให้กับอาหารนานาชนิด ทั้งคาวหวาน ของว่างและอาหารทะเลท้องถิ่น โดยนอกจากรสชาติอร่อยแบบคนท้องถิ่นแล้ว ราคาอาหารยังสบายกระเป๋าอีกด้วย

นั่งรถไฟความเร็วสูงไต้หวัน (THSR) มาลงที่สถานีรถไฟ Zuoying หรือนั่งรถไฟธรรมดา (TRA) มาลงที่สถานี Kaohsiung เดินทางต่อด้วยรถไฟฟ้าเกาสง (Kaohsiung MRT) มาลงที่สถานี Formosa Boulevard


โดมแห่งแสง (Dome of Light)
โดมแห่งแสง ถือเป็นงานศิลปะของการออกแบบที่สะดุดตามาก ตั้งอยู่ภายในสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน Formosa Boulevard (MRT) เป็นโดมกระจกสีกลางแจ้ง มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 30 เมตร ครอบคลุมพื้นที่ 660 ตารางเมตร และใช้เวลาสร้างนานถึง 4 ปีเต็ม ประติมากรรมนี้ ไม่เพียงแต่เพิ่มความสวยงามให้กับสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินเท่านั้น แต่ยังเพิ่มมิติใหม่ให้กับชีวิตศิลปะของเมืองเกาสงด้วย

ถ่ายทอดเรื่องราวของชีวิตมนุษย์ ผ่านแนวคิด ดิน น้ำ ลม ไฟ เรียงกันตามลำดับช่วงชีวิต พร้อมข้อความที่กล่าวถึง ความรักและความอดทน ด้วยความพิเศษและความตื่นตาตื่นใจของโดมแห่งนี้ ทำให้สถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน Formosa Boulevard กลายเป็นจุดถ่ายรูปและเช็กอินยอดนิยมของนักท่องเที่ยว


วัดเถียนเหลียว (Tianliao Stone Temple)

ออกจากตัวเมืองเกาสง มาสัมผัสกับความเงียบสงบและงานศิลปะแปลกตาที่ “วัดเถียนเหลียว” หรือ วัดหินเถียนเหลียว สร้างขึ้นตั้งแต่ พ.ศ. 2537 ในอดีตวัดแห่งนี้เคยช่วยเหลือแรงงานชาวไทยที่ตกงานจากการล้มละลายในยุคนั้น และเพื่อเป็นการขอบคุณทางวัดที่มีความเมตตา กลุ่มผู้ใช้แรงงานจึงได้มีการก่อสร้างวัดจากหิน ปะการัง และเปลือกหอย 


กลายเป็นสถาปัตยกรรมที่สวยงามและแตกต่างจากวัดอื่นๆ มีจุดไฮไลต์เป็นสะพานหินทอดยาว ที่สามารถรับชมความงดงามของรูปปั้นมังกร รูปปั้นปลาทอง ปลาในสระน้ำ ตลอดจนทิวทัศน์ของขุนเขาบริเวณวัด

นั่งรถไฟความเร็วสูงไต้หวัน (THSR) มาลงสถานี Tainan จากนั้นต่อรถบัสสาย 8042 มาลงป้าย Alice Police Staion และต่อรถแท็กซี่ พิกัด : No. 2-7, Xinxing Rd., Tianliao Dist., Kaohsiung City


พิพิธภัณฑ์รถไฟน้ำตาลฉีซาน (Qishan Station Sugar Railway Museum)
พิพิธภัณฑ์ขนาดเล็ก ที่เหมาะสำหรับครอบครัว และมาเรียนรู้ประวัติศาสตร์เมืองกับการคมนาคมในอดีต อยู่ภายในอาคารสไตล์ตะวันตกเก่าแก่ที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้ อาคารสร้างขึ้นระหว่างปี ค.ศ. 1913 - 1915 ที่มีแนวคิดมาจากนักศึกษาสถาปัตยกรรมของญี่ปุ่น ในการสร้างสรรค์อาคารผสมผสานสถาปัตยกรรมสไตล์ญี่ปุ่น วิกตอเรียน และกอทิก เข้าด้วยกันได้อย่างลงตัว ซึ่งหลังจากที่สถานีรถไฟปิดตัวลงใน ปี ค.ศ. 1978 ได้มีการปรับปรุงและซ่อมแซมให้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยว อาทิ บริการให้คำปรึกษาด้านการท่องเที่ยว การขายสินค้า และบริการเช่าจักรยาน เป็นต้น


ภายในพิพิธภัณฑ์ขนาดย่อมแห่งนี้ มีนิทรรศการจัดแสดงเรื่องราวกับภาพถ่ายประวัติศาสตร์การรถไฟ การเป็นเมืองที่เคยเป็นแหล่งผลิตน้ำตาลอ้อย กิจกรรมนั่งรถไฟจำลองผ่าน VR ที่โดนใจเด็กๆ รวมถึงของฝากของที่ระลึกเกี่ยวกับรถไฟ

นั่งรถไฟความเร็วสูงไต้หวัน (THSR) มาลงที่สถานี Xin Zuoying จากนั้นต่อรถบัส E25 Gaoqi Liugui Express ไปลงที่สถานี Zhongxue Rd. พิกัด : No. 1, Zhongshan Rd., Qishan Dist., Kaohsiung City


ถนนสายโบราณฉีซาน (Qishan Old Street)

บริเวณถนนสายเดียวกันของที่ตั้ง พิพิธภัณฑ์รถไฟน้ำตาลฉีซาน เป็นถนนทอดยาวที่เรียงรายไปด้วยร้านค้าแหล่งรวมอาหารและขนมท้องถิ่นแบบดั้งเดิม จุดเด่นอยู่ที่ขนมที่ทำจากกล้วย บะหมี่เป็ดตุ๋นสไตล์ไต้หวัน หมั่นโถว 


ตลอดจนเอาใจสายสตรีทฟูดให้อิ่มหนำสำราญด้วยร้านอาหารแสนอร่อยสไตล์ไต้หวันแท้สูตรต้นตำรับอีกมากมาย นอกจากนี้ ถนนโบราณฉีซานยังรายล้อมไปด้วยอาคารโบราณหลายสไตล์ ไม่ว่าจะเป็นบ้านดิน สถาปัตยกรรมบาโรก และสถาปัตยกรรมสไตล์หมิ่นหนานผสมผสาน


โรงงานร่มน้ำมันก่วงจิ้นเซิ่ง (Kuang Chin Sheng)
ใครชอบงานแนว DIY ของฝากน่ารักๆจากฝีมือตัวเองต้องมาเยือนโรงงานร่มแห่งนี้ ซึ่งเป็นสถานที่สุดโด่งดังในยุคไทโช ช่วงญี่ปุ่นยึดครองไต้หวันจนถึงปี ค.ศ. 1961 สำหรับยุคนั้นความต้องการร่มกระดาษของเหม่ยหนงมีอัตราสูงมาก โรงงานร่มสามารถผลิตได้มากถึง 20,000 คันต่อปี ต่อมาเมื่ออุตสาหกรรมถูกพัฒนาและมีวิวัฒนาการที่ทันสมัยมากยิ่งขึ้น อุตสาหกรรมร่มกระดาษน้ำมันดั้งเดิมจึงปิดตัวลงไปมาก


ปัจจุบันที่เหม่ยหนงเหลือโรงงานที่ผลิตร่มกระดาษน้ำมันอยู่เพียง 5 แห่งเท่านั้น หนึ่งในนั้นคือที่ “ก่วงจิ้นเซิ่ง” ซึ่งพร้อมรอต้อนรับผู้มาเยือนให้สัมผัสวิถีการผลิตร่มน้ำมันอันเก่าแก่ด้วยตนเอง เหมาะสำหรับติดมือกลับไปเป็นของฝาก โดยนักท่องเที่ยวสามารถลงสี ลวดลายร่มด้วยตนเองได้ นำกลับเป็นที่ของที่ระลึก ของฝากที่ไม่ซ้ำใคร

นั่งรถไฟความเร็วสูงไต้หวัน (THSR) มาลงที่สถานี Xin Zuoying จากนั้นต่อรถบัส E25 Gaoqi Liugui Express ไปลงที่สถานี Kaohsiung Bus Meinong Station และเรียกแท็กซี่ พิกัด : No. 47, Minquan Rd., Meinong Dist., Kaohsiung City


ทะเลสาบเหม่ยหนง (Meinong Lake)
จากโรงงานร่มฯ เพียงไม่กี่ร้อยเมตร แวะไปชมความงามของทะเลสาบเทียม ที่สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1748 นับเป็นทะเลสาบเทียมที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ในเกาสงรองจากทะเลสาบเฉิงซิง ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นสถานที่ชมนกที่สวยงามที่สุดในภาคใต้ เนื่องจากช่วงเดือนตุลาคมถึงมีนาคมของทุกปีจะมีนกอพยพมากมาย อาทิ นกอีล้ำ นกคู้ต นกเป็ดผีเล็ก เป็นต้น รวมถึงทะเลสาบแห่งนี้ยังมีพืชน้ำอันอุดมสมบูรณ์ กิจกรรมที่ต้องห้ามพลาดคือ การปั่นจักรยานรอบทะเลสาบ ตกปลา และเดินกินลมชมวิวอย่างเพลิดเพลิน หรือจะแค่แวะมาชมทัศนียภาพอันงดงาม ถ่ายรูปสวยๆติดไว้ก็ไม่ผิดหวัง

ข้อมูลเพิ่มเติม
- เมืองเกาสง มีเที่ยวบินตรงจากกรุงเทพฯ หรือเดินทางด้วยรถไฟความเร็วสูงจากกรุงไทเป เมืองหลวงของไต้หวัน ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง
- แม้ว่าร้านค้าขนาดใหญ่ ยินดีรับบัตรเครดิต หรือทราเวล การ์ด แต่ร้านค้า ร้านอาหารขนาดเล็ก ร้านค้าสตรีทฟูด ยังรับเฉพาะเงินสด ดังนั้น ควรแลกเงินสดติดตัวเผื่อไว้

ข่าวสารและกิจกรรมการท่องเที่ยวไต้หวัน 
สำนักงานท่องเที่ยวไต้หวัน ประจำกรุงเทพฯ https://www.taiwantourism.org/th หรือ Facebook : Taiwan Tourism TH

สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Youtube :Travel MGR และ Instagram : @travelfoodonline และ TikTok : @travelfoodonline


กำลังโหลดความคิดเห็น