xs
xsm
sm
md
lg

“4 กิจกรรมเที่ยวหน้าฝน” สุดสดชื่นกรีนซีซัน เที่ยวสนุกชุ่มฉ่ำใจ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เที่ยวหน้าฝนแบบเย็นฉ่ำใจ มีที่เที่ยวสวยๆ และกิจกรรมสนุกๆ หลากหลายให้ได้เพลิดเพลิน ไม่ว่าจะเป็น ดูดอกไม้สวยที่ออกดอกในช่วงฤดูฝน เที่ยวนาขั้นบันได สดชื่นกับน้ำตก และล่องแก่งสุดตื่นเต้น 

ช่วงกรีนซีซั่นที่มีฝนชุ่มฉ่ำ หลายคนอาจจะบอกว่าไม่เหมาะกับการเดินทางท่องเที่ยว แต่ในบางจุด บางแหล่งท่องเที่ยว ก็ต้องอาศัยความชุ่มฉ่ำของน้ำฝน ที่จะช่วยให้มีความงดงาม และเป็นเพียงช่วงเดียวของปีที่จะเที่ยวได้สนุกสนาน โดยเฉพาะป่าเขา ต้นไม้ และดอกไม้ ที่ดูจะเขียวชอุ่มชุ่มฉ่ำเป็นพิเศษ จนกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสวยๆ ในช่วงฤดูฝน

และนี่คือ “4 กิจกรรมเที่ยวหน้าฝน” ที่กรีนซีซั่นนี้ไม่ควรพลาด

กระเจียวบานท่ามกลางสายหมอกที่ป่าหินงาม
ดูดอกไม้ป่าหน้าฝน
พอฤดูฝนมาเยือน ก็นำพาเอาความชุ่มฉ่ำเขียวขจีมาสู่ผืนป่า สายฝนเหล่านี้ยังปลุกให้ดอกไม้ป่าที่หลับใหลอยู่ในพื้นดินได้ตื่นฟื้นคืน เพื่อมาแต่งแต้มสีสันของฤดูฝนให้สวยงามมากยิ่งขึ้น โดยในแต่ละปีจะมีดอกไม้ป่าแสนสวยให้ได้ชมกันหลายแห่ง เช่น

“ดอกกระเจียว” หรือ “บัวสวรรค์” ได้ชื่อว่าเป็น “ราชินีแห่งป่าฝน” สามารถไปชมความงามของดอกกระเจียวกันได้ที่ อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม อ.เทพสถิต และ อุทยานแห่งชาติไทรทอง อ.หนองบัวระเหว จ.ชัยภูมิ คาดว่าช่วงที่บานมากที่สุดคือราวต้น-กลางเดือน ส.ค.

ดอกหงอนนาคคือนางเอกของอุทยานแห่งชาติภูสอยดาว

เอื้องนวลจันทร์กับน้ำค้างยามเช้า
“ดอกหงอนนาค” คือนางเอกของอุทยานแห่งชาติภูสอยดาว อ.น้ำปาด จ.อุตรดิตถ์ ที่จะเบ่งบานอวดโฉมความงามในช่วงฤดูฝนอันสดชื่นประมาณเดือน ส.ค.-ก.ย.

“เอื้องนวลจันทร์” หรือ "ดอกเหลืองพิศมร" ดอกไม้ป่าแสนสวย นางเอกของ "ทุ่งโนนสน" อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง นอกจากนี้ ดอกไม้ป่าที่ทุ่งโนนสนยังมีอีกหลากหลาย อาทิ ดอกจอกบ่วายหรือหยาดน้ำค้าง ดอกกระดุมเงิน กระดุมทอง จุกนกยูง ข้าวตอกฤาษี สิงโตสมอหิน สิงโตรวงข้าว สิงโตกลอกตา (กล้วยไม้ป่าที่พบเห็นได้ยาก) สร้อยสุวรรณา ดุสิตา เอื้องม้าวิ่ง เอื้องบายศรี เอื้องมัน ฯลฯ สามารถชมได้ในช่วงปลายฝนต้นหนาวราวเดือนตุลาคม

นาขั้นบันไดบ้านป่าบงเปียง
นาขั้นบันได
ช่วงฤดูฝนราวเดือนกรกฎา-สิงหาคม เป็นต้นมา ชาวนาในหลายๆ พื้นที่ได้เริ่มหว่านดำข้าวกล้าในนาอันเป็นวัฏจักรตามปกติของเกษตรกร จวบจนใกล้จะเข้าสู่เดือนกันยายน ต้นข้าวเหล่านั้นก็กำลังเขียวขจีมองแล้วสบายตาสบายใจเป็นที่สุด

สำหรับในภาคเหนือซึ่งพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นภูเขาที่มีความลาดชันจึงยิ่งเพิ่มเสน่ห์ให้นาข้าวมากขึ้นไปอีกเพราะเป็น “นาขั้นบันได” ซึ่งเป็นภูมิปัญญาในการทำนาบริเวณภูเขา เพื่อเพิ่มพื้นที่ในการเพาะปลูก และยังเป็นการรักษาหน้าดินไม่ให้ถูกกัดเซาะหรือชะล้างไป

ต้นข้าวดูราวกับพรมสีเขียว

นาขั้นบันไดบ้านดง แม่ลาน้อย
ซึ่งที่ภาคเหนือก็มีหลายแห่งที่สามารถชมนาขั้นบันไดสวยๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็น “บ้านป่าบงเปียง” ไฮไลต์นาขั้นบันไดแห่งแม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ มองเห็นทุ่งนาแผ่กว้างไกลออกไป มีกระท่อมหลังน้อยแทรกตัวอยู่ในนาข้าว เบื้องหน้าเป็นภูเขาสลับซับซ้อน

“บ้านแม่กลางหลวง” อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ ทุ่งนาขั้นบันไดบริเวณนี้เป็นผืนกว้างสวยงามเขียวขจี มีฉากหลังเป็นภูเขาสูงให้ได้ถ่ายรูปกันแบบสวยงาม โดยเฉพาะในยามที่มีแสงอาทิตย์สาดส่องยิ่งเขียวสดใส

“บ้านดง” อ.แม่ลาน้อย จ.แม่ฮ่องสอน ในช่วงฤดูฝนทุ่งนาขั้นบันไดที่นี่จะดูเขียวจีสดสวยสบายตา ขณะที่ในช่วงยามเช้าไปจนถึงช่วงสายๆ จะมีสายหมอกฝนลอยไต่ไล่เลี่ยปกคลุมยอดเขา เป็นฉากหลังประดับทุ่งนาดูสวยงามโรแมนติกชวนฝันเป็นยิ่งนัก

น้ำตกทีลอซู จ.ตาก (ภาพจาก Facebook : เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง)
เที่ยวน้ำตก
“น้ำตก” เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตในช่วงฤดูฝนเช่นนี้ เพราะจะเป็นช่วงที่น้ำตกมีน้ำเยอะมากที่สุด และบรรยากาศของธรรมชาติโดยรอบจะชุ่มฉ่ำ เขียวขจีเป็นอย่างมาก

และน้ำตกสวยๆ ของเมืองไทยก็มีหลายแห่ง เช่น “น้ำตกทีลอซู” เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง จ.ตาก เกิดจากลำห้วยกล้อทอที่อยู่ด้านบน ซึ่งได้ไหลมารวมกัน และไหลตกลงมายังช่องเขาขาดที่สูงประมาณ 300 เมตร กว้างประมาณ 500 เมตร เกิดเป็นน้ำตกทีลอซูอันสวยงามอลังการ ได้รับการยกย่องจากคนส่วนใหญ่ให้เป็นน้ำตกที่สวยที่สุดในเมืองไทย (ในปี 2566 นี้ มีประกาศปิดการท่องเที่ยวน้ำตกทีลอซู ตั้งแต่ 1 ก.ค.- 31 ส.ค. 66)

น้ำตกเอราวัณ จ.กาญจนบุรี

น้ำตกพลิ้ว จ.จันทบุรี
“น้ำตกเอราวัณ” อุทยานแห่งชาติเอราวัณ จ.กาญจนบุรี น้ำตกมี 7 ชั้นด้วยกัน โดยชั้น 7 ภูผาเอราวัณ ถือเป็นชั้นไฮไลต์ของน้ำตกเอราวัณเลยทีเดียว ตรงจุดนี้สายน้ำตกไหลลงมาจากหน้าผาสูงที่ต้องแหงนมองคอตั้งบ่า เมื่อน้ำตกไหลลงมายังก้อนหิน (โดยเฉพาะเวลาที่น้ำมาก) จะมีลักษณะคล้ายช้างสามเศียรหรือช้างเอราวัณ จนเป็นที่มาของชื่อน้ำตกและชื่ออุทยานแห่งชาติเอราวัณนั่นเอง

"น้ำตกพลิ้ว" อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว จ.จันทบุรี น้ำตกพลิ้ว เกิดจากการไหลทิ้งตัวลงมาจากผาสูงราว 20 เมตร ลงมาสู่แอ่งน้ำใสขนาดใหญ่ มีความลึกราว 2 เมตร เป็นศูนย์รวมของนักท่องเที่ยวที่มาแหวกว่ายรับความเย็นกับสายน้ำ และมาว่ายน้ำเล่นกับ “ปลาพลวงหิน” หรือ “ปลาพลวง” ตัวสีดำเป็นเงาว่ายนิ่งๆ อยู่ในธารน้ำใส เป็นสัญลักษณ์คู่กับน้ำตกพลิ้วนั่นเอง

ปลาพลวงหิน สัญลักษณ์คู่น้ำตกพลิ้ว

ล่องแก่งน้ำเข็ก จ.พิษณุโลก
ล่องแก่ง
กิจกรรมยามหน้าฝนกับสายน้ำที่ไม่ควรพลาดอีกหนึ่งอย่างก็คือ “ล่องแก่ง” ด้วยสายน้ำที่มีปริมาณมากขึ้นในช่วงนี้ ก็ทำให้การล่องแก่งนั้นสนุกสนานตื่นเต้นมากขึ้น ยิ่งหากว่าใครชื่นชอบกิจกรรมแอดเวนเจอร์ในสายน้ำ ต้องห้ามพลาดกับการล่องแก่งสุดสนุกในเมืองไทย ที่มีอยู่หลายแห่ง เช่น

ล่องแก่งหินเพิง จ.ปราจีนบุรี (ภาพจาก Facebook : ททท. สำนักงานนครนายก)
“ล่องแก่งน้ำเข็ก” อ.วังทอง จ.พิษณุโลก โดยปกติแล้วลำน้ำเข็กจะเป็นสีขาวใสในช่วงหน้าแล้ง แต่จะเปลี่ยนเป็นสายน้ำสีน้ำตาลแดงไหลเชี่ยวกรากมากไปด้วยแก่งต่างๆ ในช่วงหน้าน้ำ ราวเดือนกรกฎาคม-ตุลาคมของทุกๆ ปี จุดเด่นคือแก่งที่นี่มีความมันครบตั้งแต่ระดับ 1-5 จากน้ำนิ่งไปจนถึงน้ำไหลเชี่ยวกราก โดยเส้นทางล่องเรือยางมีระยะทางประมาณ 8 กิโลเมตร ใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง (ขึ้นอยู่กับกระแสน้ำ) โดยเรือจะล่องไปยังบริเวณตอนบนของน้ำตกแก่งซอง ผจญฝ่าแก่งต่างๆ จำนวน 15 แก่ง

“ล่องแก่งหินเพิง” อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี กิจกรรมล่องแก่งหินเพิงเป็นกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงนิเวศยอดนิยมของคนรักการผจญภัย โดยล่องผ่านแก่งต่างๆ ที่มีระดับความยากง่ายของสายน้ำอยู่ที่ 3-5 แก่งหินเพิงจะสวยงามมากที่สุดในยามน้ำหลาก ฤดูฝนจึงเป็นช่วงเวลาที่เหมาะที่สุดสำหรับการล่องแก่งหินเพิง (ราวเดือนกรกฎาคม-ตุลาคม)

ฤดูฝน-กรีนซีซั่นนี้ เตรียมตัวเตรียมใจกันให้พร้อม แล้วเก็บกระเป๋าออกเดินทางท่องเที่ยวสัมผัสธรรมชาติชุ่มฉ่ำให้ชื่นใจ

#########################################

สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Youtube :Travel MGR และ Instagram : @travelfoodonline และ TikTok : @travelfoodonline




กำลังโหลดความคิดเห็น