xs
xsm
sm
md
lg

เช็คอิน 10 โลเคชั่นสุดฮอต ใน “กาญจนบุรี” ที่ต่างชาติยกกองมาถ่ายหนัง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


กาญจนบุรี หนึ่งในโลเคชั่นยอดฮิตของกองถ่ายหนังต่างประเทศ
ชวนไป 10 ที่เที่ยวยอดฮิตใน “กาญจนบุรี” ที่เป็นโลเคชั่นยอดนิยมของกองถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นน้ำตก สะพานไม้ ทางรถไฟ และต้นไม้ยักษ์

เมืองไทยของเรามีความสวยงามและเป็นเอกลักษณ์อย่างมาก ทั้งวิถีชีวิต ธรรมชาติ อาหารการกิน ไปจนถึงสถานที่ท่องเที่ยวที่มีอย่างหลากหลาย และบางส่วนก็กลายเป็นฉากหนึ่งในภาพยนตร์ทั้งของไทยและต่างชาติ

อย่างจังหวัดไม่ไกลกรุงเทพฯ คือ “กาญจนบุรี” ที่ปกติแล้วก็เป็นจังหวัดท่องเที่ยวที่หลายคนชื่นชอบ เพราะความเป็นธรรมชาติ มีประวัติศาสตร์ และวิถีชีวิตที่เป็นเอกลักษณ์ และก็ยังถูกเลือกให้เป็นโลเคชั่นในการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในหลายๆ เรื่อง

โดยทาง กรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้แนะนำ 10 สถานที่ยอดนิยมในกาญจนบุรี ที่ถูกเลือกให้เป็นโลเคชั่นในการการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศ ดังนี้

น้ำตกไทรโยคน้อย
อุทยานแห่งชาติไทรโยค
ครอบคลุมพื้นที่ใน อ.ไทรโยค และ อ.ทองผาภูมิ มีที่เที่ยวยอดฮิตคือ “น้ำตกไทรโยคใหญ่” เป็นน้ำตกที่ไหลลงจากหน้าผาสู่แม่น้ำแควน้อย มีขนาดใหญ่และมีเพียงชั้นเดียว น้ำตกจะไหลลงมาแล้วรองรับด้วยหินสลับเป็นชั้นๆ ความสูงประมาณ 8 เมตร “น้ำตกไทรโยคน้อย” ตัวน้ำตกเกิดจากหน้าผาหินปูนที่พังทลายลงมา จนเกิดโขดหินปูนลดหลั่นกันอยู่ตรงบริเวณเชิงเขา มีต้นกำเนิดเป็นน้ำผุดจากภูเขาแล้วไหลมาตามลำธารเล็กๆ ไหลตกลงที่ผาหินปูนที่มีความสูง ประมาณ 15 เมตร แล้วแผ่กระจายไปตามพื้นเขาลาดเอียง รอบข้างร่มรื่นไปด้วยแมกไม้นานาพันธุ์

ทางรถไฟสายมรณะช่วงถ้ำกระแซ
ทางรถไฟสายมรณะ
สร้างขึ้นในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เริ่มต้นจากสถานีชุมทางหนองปลาดุก อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ผ่านกาญจนบุรี ข้ามแม่น้ำแควใหญ่ จนถึงด่านเจดีย์สามองค์ และมีปลายทางอยู่ที่เมืองตาน-พยูซะยะ พม่า ทางรถไฟสายนี้ใช้แรงงานเชลยศึกฝ่ายสัมพันธมิตรและพรรกรชาวเอเชียที่กองทัพญี่ปุ่นเกณฑ์มาสร้าง เพื่อให้เป็นเส้นทางยุทธศาสตร์ผ่านพม่า เหตุที่ชื่อทางรถไฟสายมรณะ เนื่องจากระหว่างการสร้างทางรถไฟสายนี้ มีแรงงานเสียชีวิตไปเป็นจำนวนมาก ทั้งจากความทารุณของสงคราม โรคภัยไข้เจ็บ รวมถึงการขาดแคลนอาหาร ปัจจุบัน ทางรถไฟสายมรณะเส้นนี้ไปสุดปลายทางอยู่ที่บ้านท่าเสา หรือ สถานีน้ำตก

สะพานข้ามแม่น้ำแคว
สะพานข้ามแม่น้ำแคว
เป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางรถไฟสายมรณะ ที่สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ปัจจุบันจุดนี้ถือเป็นไฮไลต์อีกแห่งหนึ่งของกาญจนบุรี ที่จะต้องแวะมาถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึก ได้เห็นสะพานเหล็กที่ทอดข้ามผ่านแม่น้ำแควใหญ่ พร้อมกับวิวรอบๆ แต่ถ้าใครอยากสัมผัสเส้นทางรถไฟ ก็สามารถมาดักรอขึ้นรถไฟที่บริเวณสถานีรถไฟใกล้กับสะพานได้ โดยแต่ละวันก็จะมีรถไฟวิ่งข้ามสะพานตามตารางเวลาทั้งช่วงเช้าและบ่าย หรือจะขึ้นรถไฟนำเที่ยวขบวนพิเศษมาจากกรุงเทพฯ ก็ได้ ซึ่งรถไฟก็จะวิ่งไปตามเส้นทางรถไฟสายมรณะ ตรงไปสุดอยู่ที่สถานีน้ำตก บริเวณน้ำตกไทรโยคน้อย

น้ำตกเอราวัณ
น้ำตกเอราวัณ
เป็นน้ำตกที่ขึ้นชื่อว่าสวยที่สุดในกาญจนบุรี โดยเป็นน้ำตกหินปูนสีเขียวมรกตที่มีความสวยงามโดยมี 7 ชั้นด้วยกัน ชั้นบนสุดชั้นที่7 มีชื่อว่าภูผาเอราวัณ เมื่อน้ำตกไหลบ่าลงมายังก้อนหินจะมีลักษณะคล้ายช้างสามเศียรหรือช้างเอราวัณจึงเป็นที่มาของชื่อน้ำตกและชื่ออุทยานแห่งชาติเอราวัณนั่นเอง

น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น (ภาพจากเพจ : อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์)
อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์
พื้นที่ส่วนหนึ่งของอุทยานเกิดจากการสร้างเขื่อนศรีนครินทร์กั้นขวางแม่น้ำแควใหญ่ พื้นที่ส่วนใหญ่ของอุทยานเป็นป่าดงดิบ บริเวณรอบอ่างเก็บน้ำเขื่อนศรีนครินทร์ มีน้ำตกที่มีชื่อเสียง เช่น “น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น” ได้รับการกล่าวขานว่าเป็นน้ำตกที่สวยเป็นอันดับ 2 ของกาญจนบุรี รองจากน้ำตกเอราวัณ น้ำตกห้วยแม่ขมิ้นทั้งหมด 7 ชั้น มีต้นน้ำไหลมาจากเทือกเขากะลา แต่ละชั้นมีความสูงลดหลั่นทอดยาวไหลลงสู่อ่างเก็บน้ำเขื่อนศรีนครินทร์

ถ้ำกระแซ
ถ้ำกระแซ
เป็นถ้ำขนาดเล็กที่เคยเป็นที่พักอาศัยของเชลยศึกเมื่อครั้งมาสร้างทางรถไฟสายมรณะ ซึ่งปัจจุบันนี้เปิดให้เข้าชมได้โดยสามารถเข้าไปสักการะพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่ประดิษฐานอยู่ภายใน และหากเดินออกมาบริเวณปากถ้ำ ก็จะเป็นเส้นทางรถไฟสายมรณะ ที่ปัจจุบันก็ยังใช้เป็นเส้นทางการคมนาคมทางรถไฟ โดยตัวสะพานถ้ำกระแซนั้น เป็นสะพานไม้เลียบหน้าผา มีความยาวกว่า 450 เมตร เส้นทางจะโค้งเลียบเขาไป ด้านหนึ่งติดกับภูเขา อีกด้านเบื้องล่างเป็นแม่น้ำแควน้อย มองแล้วสวยงามน่าชม

บ้านของชาวบ้านในหมู่บ้านมอญ ท่าเสา
หมู่บ้านมอญ ท่าเสา
อยู่ด้านหลังของที่พักแพริเวอร์แคว จังเกิ้ลราฟท์ ในหมู่บ้านจะมีบ้านเรือนของชุมชนชาวมอญ มีโรงเรียนเล็กๆ ให้เด็กๆ ในชุมชนได้มาเรียนภาษามอญ เพิ่มเติมจากภาษาไทยที่ได้เรียนกันตามปกติในโรงเรียนอยู่แล้ว ใกล้ๆ กันจะมีวัดมอญ ซึ่งมีพระสงฆ์จำพรรษาตามปกติ มีเจดีย์ชเวดากององค์จำลอง นอกจากนี้ในหมู่บ้านยังมีการเลี้ยงช้าง ให้บริการนักท่องเที่ยวที่อยากขี่ช้างชมธรรมชาติด้วย

ช่องเขาขาด
พิพิธภัณฑสถานแห่งความทรงจำช่องเขาขาด
“ช่องเขาขาด” หรือในอีกชื่อหนึ่งคือ “ช่องไฟนรก” (Hellfire Pass) ที่นี่เป็นเหมือนพิพิธภัณฑ์แห่งความทรงจำในช่วงนั้น เพราะบริเวณนี้เป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางรถไฟสายมรณะ และเป็นจุดที่เชลยศึกและกรรมกรจะต้องขุดภูเขาให้เป็นช่อง เพื่อเปิดเส้นทางให้รถไฟสามารถวิ่งผ่านไปได้ ปัจจุบันพื้นที่ในบริเวณนี้ได้รับการออกแบบและปรับปรุง จัดทำเป็นพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมข้าวของเครื่องใช้ ภาพถ่าย และบรรยากาศในสมัยนั้นมาไว้ รวมถึงพื้นที่ด้านหลังของพิพิธภัณฑ์ จะมีเส้นทางเดินลัดเลาะลงไปยังเส้นทางรถไฟสายมรณะ ซึ่งบางจุดยังคงมีรางรถไฟให้เห็นอยู่บ้าง ตลอดสองข้างทางเป็นป่าครึ้ม มีจุดที่จัดแสดงเครื่องมือเครื่องใช้ที่ใช้ในการก่อสร้างทางรถไฟ และมีจุดที่แสดงความไว้อาลัยแก่ผู้ที่เสียชีวิต ณ ที่นี้

สะพานอุตตมานุสรณ์
สะพานอุตตมานุสรณ์
“สะพานมอญ” หรือ “สะพานอุตตมานุสรณ์” เปรียบเสมือนสัญลักษณ์ของสังขละบุรี สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2538 เพื่อให้ชาวบ้านใช้เป็นสะพานข้ามแม่น้ำซองกาเลีย เดินทางไปมาหาสู่กันระหว่างฝั่งไทยและฝั่งมอญ โดยมีหลวงพ่ออุตตมะเป็นผู้ดำเนินการสร้าง ซึ่งตัวสะพานมีความยาว 850 เมตร นับว่าเป็นสะพานไม้ที่ยาวที่สุดในประเทศไทย ภายหลังมีการชำรุดจากน้ำป่าเมื่อปี 2556 และได้ซ่อมแซมจนสะพานมอญกลับมาเป็นเหมือนเดิม

ต้นจามจุรียักษ์
ต้นจามจุรียักษ์
ต้นจามจุรีย์ยักษ์เป็นต้นไม้มีอายุยืนยาวมากกว่า 100 ปี ขนาดของลำต้นโดยรอบประมาณ 10 คนโอบ มีเส้นรอบวงประมาณ 15 เมตร ความสูงประมาณ 20 เมตร ถือเป็นอีกหนึ่งต้นจามจุรีที่มีขนาดใหญ่และหาชมได้ยากในปัจจุบัน ความร่มรื่นจากกิ่งก้านน้อยใหญ่ แผ่กว้างออกไปรอบๆ บริเวณของพื้นที่พุ่มที่มีประมาณ 1 ไร่เศษ ส่วนของบริเวณโคนต้นจะมีรากไม้ขนาดใหญ่ชอนไชแผ่ออกไปทั่วทั้งพื้นที่โดยรอบ มีการทำสะพานไม้ทางเดินเป็นวงกลมล้อมรอบต้นจามจุรียักษ์ เป็นทางเดินเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้เดินชมรอบๆ แบบไม่ต้องเหยียบรากต้นไม้ให้ได้รับความเสียหาย พร้อมทั้งปรับภูมิทัศน์รอบๆ ตกแต่งด้วยไม้ดอกไม้ประดับอย่างสวยงาม เพื่อเป็นอีกจุดพักผ่อนหย่อนใจ แวะถ่ายรูปสวยๆ เก็บเป็นที่ระลึก

(ภาพจากเพจ : กรมการท่องเที่ยว Department of Tourism)

#########################################

สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Youtube :Travel MGR และ Instagram : @travelfoodonline และ TikTok : @travelfoodonline




กำลังโหลดความคิดเห็น