รู้หรือไม่ว่า สัญลักษณ์ที่เป็นโลโก้สามสีของการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค (APEC Economic Leaders’ Meeting) ปี 2022 ซึ่งปรากฏอยู่ทั่วกรุงเทพมหานคร เกิดจากฝีมือการออกแบบของเด็กไทย วัย 21 ปี
สำนักข่าวซินหัว สื่อทางการของประเทศจีน รายงานว่า บุคคลที่อยู่เบื้องหลังการออกแบบสัญลักษณ์การประชุมเอเปค 2022 คือ “ชวนนท์ วงศ์ตระกูลจง” นิสิตชั้นปีที่ 3 คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งได้บอกเล่ากระบวนการออกแบบโลโก้สำหรับการประชุมทางเศรษฐกิจระดับโลกว่า ความท้าทายอยู่ที่จะผสมผสานอัตลักษณ์ของเอเปคเข้ากับสัญลักษณ์ของไทยได้อย่างไร
ชวนนท์เผยว่า ช้าง วัด หรือยักษ์ มักถูกใช้เป็นสัญลักษณ์ของไทย แต่เขามองว่าธรรมดาเกินไป จึงอยากคิดนอกกรอบ และไม่อยากใช้สัญลักษณ์ที่ใช้กันบ่อยๆ จึงนึกถึง “ชะลอม” ขึ้นมา
“เรานึกถึงต้มยำกุ้งเมื่อพูดถึงอาหารไทย หรือรถตุ๊กตุ๊กเมื่อพูดถึงการขนส่ง แล้วสัญลักษณ์ของเศรษฐกิจในไทยที่อยู่คู่กับคนไทยมานาน คือ อะไร ชะลอมเป็นเครื่องไม้เครื่องมือที่ใช้งานกันมาแต่โบราณ มันจักสานขึ้นจากไม้ไผ่และเป็นงานฝีมือที่ยั่งยืน ซึ่งสะท้อนความสมดุลของวิสัยทัศน์การประชุมฯ ในปีนี้” ชวนนท์กล่าว
ชวนนท์ ใช้เวลาราว 3 เดือน ปรับแต่งลักษณะของชะลอมจนกลายเป็นโลโก้รูปแบบสุดท้าย โดยไผ่ที่จักสานเข้าด้วยกันก่อตัวเป็นช่องว่าง 21 ช่อง สื่อถึงสมาชิก 21 เขตเศรษฐกิจของเอเปค ส่วนปลายชะลอมที่ชี้ขึ้นฟ้าสื่อถึงการเติบโตของเอเปค ส่วนสีต่างๆ อาทิ สีน้ำเงินอันเป็นสัญลักษณ์การอำนวยความสะดวก สีชมพูแห่งการเชื่อมโยง และสีเขียวที่ยั่งยืน ยังสะท้อนหัวข้อการประชุมฯ ปีนี้ ได้แก่ “เปิดกว้างสร้างสัมพันธ์ เชื่อมโยงกัน สู่สมดุล” (Open. Connect. Balance.)
แนวคิดหลากหลายและการออกแบบอันประณีตงดงามดังกล่าว ทำให้ชวนนท์ ซึ่งคลุกคลีกับการวาดภาพมาตั้งแต่ชั้นประถม เอาชนะผู้ร่วมประกวดเกือบ 600 รายได้ในที่สุด
ด้าน “อุไร เสงี่ยมศรี” ช่างจักสาน วัย 65 ปี จากชุมชนพนัสนิคม แหล่งอนุรักษ์เทคนิคจักสานไม้ไผ่แบบโบราณ กล่าวว่า ตั้งแต่โลโก้เอเปคเปิดตัว คนหนุ่มสาวก็หันมาสนใจชะลอมมากขึ้น บางคนได้มาเรียนรู้วิธีทำชะลอมด้วย
หลังจากหายไปจากชีวิตประจำวันคนไทยนานหลายสิบปี ปัจจุบันดูเหมือนชะลอมและงานจักสานไม้ไผ่อื่นๆ กำลังได้รับความนิยม และอาจมีโอกาสกลับมาเป็นส่วนหนึ่งในวิถีชีวิตผู้คนอีกครั้ง
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Youtube :Travel MGR และ Instagram : @travelfoodonline และ TikTok : @travelfoodonline