“วัดโพธิ์” หรือวัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร หนึ่งในปูชนียสถานที่สำคัญแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ วัดแห่งนี้ไม่เพียงเป็นมรดกล้ำค่าของประเทศไทย แต่ได้รับการยอมรับว่าเป็นสถานที่สำคัญทรงคุณค่าในระดับโลก
วัดโพธิ์ได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโกให้เป็น “มรดกความทรงจำแห่งโลก” นั่นคือ “จารึกวัดโพธิ์” ที่ว่าด้วยภูมิปัญญาไทย และสรรพศาสตร์แขนงต่างๆ
ต้นตำรับการนวดวัดโพธิ์ ก็ถือเป็นจุดกำเนิดการนวดแผนไทย ซึ่งนวดแผนไทย ได้รับการรับรองให้เป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของมนุษยชาติ
นอกจากนี้ วัดโพธิ์ ยังเป็นแหล่งรวบรวมศาสตร์ และศิลป์ที่สำคัญไว้หลากหลายแขนง วิจิตรงดงามไปด้วยสถาปัตยกรรมที่ดึงดูดให้มีผู้มาเยือนจากทั่วโลก
ประวัติโดยย่อของ “วัดโพธิ์" เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก และเป็นวัดประจำรัชกาลที่ ๑ แห่งราชวงศ์จักรี เดิมชื่อ “วัดโพธาราม" เป็นวัดโบราณที่ราษฎรสร้างไว้ ตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี เมื่อพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช (รัชกาลที่ ๑) เสวยพระราชสมบัติ และทรงย้ายเมืองหลวงมายังฝั่งพระนคร มีการสร้างพระบรมมหาราชวังขึ้นใหม่ จึงทรงปฎิสังขรณ์วัดโพธารามที่อยู่บริเวณเดียวกันไปด้วย
สำหรับการมาเยือนวัดโพธิ์ คงต้องใช้เวลาทั้งวันในการศึกษา ชื่นชมความวิจิตร และเรียนรู้สิ่งสำคัญต่างๆภายในพระอารามหลวงแห่งนี้ แต่หากมีเวลาจำกัด ผู้มาเยือนอาจเลือกชมสิ่งสำคัญที่เป็นจุดเด่นที่ไม่ควรพลาด ซึ่งหลายอย่างได้รับการยกย่องให้เป็นสิ่งมหัศจรรย์แห่งวัดโพธิ์
สิ่งแรกที่พลาดไม่ได้ คือ “พระพุทธไสยาส” ซึ่งเปรียบเสมือนภาพแทนสัญลักษณ์ของวัดโพธิ์ รวมทั้งเป็นความงามในรูปแบบ Amazing Thailand ที่ปรากฏออกสู่สายตาชาวโลก
พระพุทธไสยาส เป็นพระพุทธรูปปางโปรด อสุรินทราหู ประดิษฐานอยู่ในวิหารพระพุทธไสยาส เป็นพระพุทธรูปนอนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในกรุงเทพมหานคร และใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศไทย
พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๓ เป็นผู้โปรดเกล้าฯให้สร้างขึ้นเมื่อครั้งปฏิสังขรณ์วัดครั้งใหญ่ ด้วยขนาดของพระพุทธรูปองค์ใหญ่ จึงต้องสร้างองค์พระพุทธรูปขึ้นก่อน แล้วจึงสร้างวิหารครอบองค์พระภายหลัง
พระบาทของพระพุทธรูป มีการประดับมุกเป็นภาพมงคล 108 ประการ ลายมงคล 108 ประการ ได้แก่ ปราสาท หอยสังข์ ช้างแก้ว นก หงส์ ภูเขา เมฆ ฯลฯ ตรงกลางเป็นรูปกงจักร แสดงถึงพระบุญญาบารมีอันแรงกล้า
วัดโพธิ์ยังได้ชื่อว่าเป็นวัดแห่งเจดีย์ เพราะมีเจดีย์มากถึง 99 องค์ องค์ใหญ่และโดดเด่นที่สุด คือ มหาเจดีย์ขนาดใหญ่ 4 องค์ เรียกว่า “มหาเจดีย์สี่รัชกาล” เพราะเป็นพระมหาเจดีย์ประจำรัชกาลที่ ๑ - รัชกาลที่ ๔ มีความงดงามด้วยการประดับกระเบื้องเคลือบ และเครื่องถ้วยลวดลายต่างๆ เป็นอีกหนึ่งจุดที่ผู้มาเยือนไม่ควรพลาดที่จะต้องเก็บภาพไว้
ใกล้กับมหาเจดีย์ ยังมี “พิพิธภัณฑ์นวดไทย มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม” ให้ความรู้ด้านศาสตร์วิชาการนวดแผนไทยอันเป็นหนึ่งในมรดกวัฒนธรรมของโลก
ดังที่ทราบกันว่า วัดโพธิ์ เป็นต้นตำรับนวดแผนไทย จึงมีรูปปั้นฤาษีดัดตน จำนวน 82 ตน ในท่วงท่าต่างๆ ประดับอยู่โดยรอบเขามอ หรือสวนหย่อม ซึ่งเป็นพระราชประสงค์ของรัชกาลที่ ๑ ที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ
ให้รวบรวมการแพทย์แผนโบราณ และศิลปวิทยาการครั้งกรุงศรีอยุธยาไว้ ใช้ท่าดัดตนอันเป็นการพักผ่อนอิริยาบถ แก้ปวดเมื่อยตามส่วนต่างๆของร่างกาย ประยุกต์รวมกับคติไทยที่ยกย่องฤาษีเป็นครูผู้ประสิทธิ์ประสาทศิลปวิทยาการ
ส่วนนักท่องเที่ยวคนไหน อยากลองนวดไทยต้นตำรับวัดโพธิ์ขนานแท้ ก็มีบริการทุกวันที่โรงเรียนแพทย์แผนโบราณ ที่ตั้งอยู่ภายในวัด
อีกสิ่งไม่ควรพลาด เมื่อมาเยือนวัดโพธิ์ คือ การตามหา “ยักษ์วัดโพธิ์”ซึ่งคนมักเข้าใจผิดว่า เป็นตุ๊กตาหินจีนขนาดใหญ่ที่ยืนตามประตูทางเข้าต่างๆ แต่ยักษ์วัดโพธิ์จริงๆแล้ว มีอยู่สองตน ยืนเฝ้าซุ้มประตูทางเข้าพระมณฑป
ปิดท้ายอย่าลืมไปสักการะพระประธาน “พระพุทธเทวปฏิมากร” พระพุทธรูปประธานภายในพระอุโบสถ เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิที่งดงามวิจิตรมาก พระพุทธเทวปฏิมากรเป็นพระพุทธรูปโบราณ รัชกาลที่ ๑ ทรงอัญเชิญมาจากวัดศาลาสี่หน้า หรือวัดคูหาสวรรค์ ได้รับการกล่าวว่าเป็นพระพุทธรูปที่ราวกับเทวดามาสร้างไว้ เนื่องจากมีลักษณะอันงดงามยิ่งนัก
นอกจากสิ่งสำคัญเหล่านี้แล้ว วัดโพธิ์ ยังมีมรดกทรงคุณค่าให้ศึกษาเรียนรู้อีกเป็นจำนวนมาก นับเป็นสถานที่ที่พร้อมเปิดต้อนรับคนทุกเชื้อชาติ ทุกศาสนา เพราะพระอารามหลวงแห่งนี้ ไม่ได้เป็นเพียงสถานที่สำคัญทางพุทธศาสนาเท่านั้น แต่เปรียบเป็นมหาวิทยาลัยแห่งสรรพวิชาไทย หรือ มหาวิทยาลัยเปิดแห่งแรก ที่รวมเอาภูมิปัญญาไทยไว้เป็นมรดกให้คนรุ่นหลังได้เรียนรู้ต่อไปอย่างไม่สิ้นสุด
สนใจข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ "9 สิ่งมหัศจรรย์วัดโพธิ์” อ่านได้ที่นี่ https://mgronline.com/travel/detail/9600000012816