อช.ภูลังกา ดำเนินการลบ-ทำความสะอาดทันที หลังมีคนมือบอนจงใจทำลอยเปื้อนบนหินหัวงู ถ้ำนาคา พร้อมเดินหน้าหาผู้กระทำผิด ระบุการกระทำดังกล่าวผิดกฎของทางอุทยาน ฯ
หลังมีนักท่องเที่ยวมือบอนนำของเหลวสีขาว คาดว่าเป็นน้ำอบมาราดบน “หินหัวงู” หรือ “หินหัวนาคา 1” ที่เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ของ “ถ้ำนาคา” แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังแห่งอุทยานแห่งชาติภูลังกา ซึ่งปรากฏเป็นข่าวโด่งดัง พร้อมคำตำหนิถึงการกระทำที่ไร้สำนึกของนักท่องเที่ยวดังกล่าว เนื่องจากทำให้สถานที่ท่องเที่ยวและแหล่งธรรมชาติเสียหาย
ล่าสุดทาง “อุทยานแห่งชาติภูลังกา” ได้ดำเนินการทำความสะอาดและลบร่องรอยของคนมือบอนดังกล่าวตามหลักวิชาการที่ไม่ทำให้แหล่งท่องเที่ยวเสียหาย
ทั้งนี้หลังดำเนินการลบรอยดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อย ทางเพจ “ประชาสัมพันธ์ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช” ได้ออกมาโพสต์ถึงกรณีดังกล่าว ดังนี้
#รู้จากข่าว…อุทยานแห่งชาติภูลังกาทำความสะอาดหิน (หัวนาคา1) หลังพบรอยเปื้อนคล้ายน้ำอบ พร้อมเตือนการกระทำดังกล่าวผิดกฎของทางอุทยาน ฯ และขอความร่วมมือปฏิบัติตนเป็นนักท่องเที่ยวที่ดี ไม่กระทำการใดๆที่ส่งผลกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติเด็ดขาด
19 พฤศจิกายน 2564 นายวันชัย จริยาเศรษฐโชค ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 10 เปิดเผยว่า จากกรณีมีภาพของเหลวสีขาวคล้ายน้ำอบเปื้อนบริเวณหินที่มีลักษณะคล้ายหัวงูใหญ่ บริเวณถ้ำนาคา นั้น สืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายนที่ผ่านมา มีการนำเสนอข่าวว่ามีผู้ใช้เฟชบุ๊กได้โพสต์ภาพบริเวณถ้ำนาคา อุทยานแห่งชาติภูลังกา จ.บึงกาฬ เป็นภาพคล้ายน้ำอบเปื้อนบริเวณหินที่มีลักษณะคล้ายหัวงูใหญ่ ทาง สบอ.10 (อุดรธานี) ได้มอบหมายให้หัวหน้าฝ่ายจัดการท่องเที่ยว ฯ พร้อมด้วยหัวหน้าฝ่ายวิชาการ ลงพื้นที่ตรวจสอบ เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2564
ทั้งนี้จากการตรวจสอบพบรอยเปื้อนดังกล่าวจริง ซึ่งอุทยานแห่งชาติภูลังกา ได้ดำเนินการทำความสะอาดบริเวณที่เปื้อนน้ำอบสีขาวเรียบร้อยแล้ว โดยมิได้ก่อให้เกิดความเสียหายต่อหินดังกล่าวแต่อย่างใด (หัวนาคาที่ 1) จากเหตุการณ์ดังกล่าวคาดว่านักท่องเที่ยวไม่ปฏิบัติตามกฎที่ทางอุทยานแห่งชาติภูลังกากำหนดไว้ โดยใช้น้ำอบสีขาวป้ายบริเวณดังกล่าว จึงได้กำชับให้หัวหน้าอุทยานแห่งชาติภูลังกา จัดเจ้าหน้าที่เพื่อเฝ้าระวังมิให้เกิดเหตการณ์แบบนี้ขึ้นอีก นอกจากนี้จะได้ดำเนินการสืบสวนหาตัวผู้กระทำผิดต่อไป อีกทั้งให้กำชับไกด์ท้องถิ่นที่นำเที่ยวคอยห้ามปรามและควบคุมนักท่องเที่ยวให้ปฏิบัติตามกฎที่ทาง อช.ภูลังกา กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด และขอความร่วมมือไปยังนักท่องเที่ยวให้ปฏิบัติตามกฎระเบียบอย่างเคร่งครัดเพื่อไม่ทำให้ทรัพยากรธรรมชาติได้รับผลกระทบจากการท่องเที่ยว
สำหรับ “หินหัวงู” หรือ “หินหัวนาคา” หรือ “หินหัวพญานาค” เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์แห่งถ้ำนาคา หินหัวงูเป็นส่วนของหิน(ขนาดใหญ่) ที่แตกและหล่นมาจากหน้าผา โดยบริเวณส่วนหัวมีลวดลายเป็นรอยแตกของผิวหน้าของหินแบบ “ซันแครก” (Sun Cracks) ที่ดูคล้ายผิวหนังของงูยักษ์ไม่น้อยเลย โดยที่ถ้ำนาคามีการพบหินรูปร่างแปลกประหลาดในลักษณะหินหัวงูอยู่ 3 หัวด้วยกัน
ขณะที่ในส่วนของ “ถ้ำนาคา” แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังนั้น ตั้งอยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติภูลังกา อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ เหตุที่ถ้ำแห่งนี้ได้ชื่อว่า “ถ้ำนาคา” หรือ “ถ้ำพญานาค” เนื่องจากมีของหินและผนังถ้ำดูคล้ายพญานาค ที่มีรูปทรงคล้ายพญานาคหรืองูขนาดใหญ่นอนขดตัว โดยมีส่วนสำคัญๆ ทั้งส่วนหัว ลำตัว และเกล็ดพญานาค (ตามจินตนาการและความเชื่อของชาวบ้าน)
ถ้ำนาคามีสิ่งน่าสนใจเด่น ๆ ได้แก่ส่วนหัว คือ “หินหัวงู” ที่พบเจออยู่ 3 จุด กระจัดกระจายกันในพื้นที่บริเวณถ้ำนาคา, ส่วนลำตัว หรือ “ลำตัวพญานาค” ซึ่งเกิดจากการยกตัวของแผ่นดิน (Tectonic uplift) ในภาคอีสาน และส่วน “เกล็ดพญานาค” ที่เกิดจากปรากฏการณ์ทางธรณีวิทยา “ซันแครก” (Sun Cracks) และ “ป่าโบราณ” เป็นต้น
ขณะที่ในบริเวณใกล้ ๆ กับถ้ำนาคายังมี ถ้ำหลวงปู่วัง เจดีย์หลวงปู่วัง เจดีย์หลวงปู่เสาร์ ผาใจขาด และจุดชมวิว ภูลังกา หน้าผาสูงชันที่เป็นจุดชมวิวทิวทัศน์อันสวยงามกว้างไกล
นอกจากถ้ำนาคาแล้ว อช.ภูลังกา ยังมีสิ่งน่าสนใจชวนเที่ยวชมอีก ได้แก่ ถ้ำนาคี หินหัวรถบัส เจดีย์กองข้าวศรีบุญเนาว์ น้ำตกตาดโพธิ์ น้ำตกตาดวิมานทิพย์ และน้ำตกตาดขาม เป็นต้น
ทั้งนี้ ผู้สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ที่เพจอุทยานแห่งชาติภูลังกา จังหวัดนครพนม - Phulangka National Park Thailand