รายการ “ถอนหมุดข่าว” ทาง NEWS1 โดย นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมืองและกระบวนการยุติธรรม เครือผู้จัดการ วันที่ 17 พ.ย.64 นำเสนอรายงานพิเศษ ชอบบอนสีอย่ามือบอน 2 ดร.หนุ่ม ม.ดัง ซีด สูญเงิน เสียชื่อ
มือใหม่หัดเล่นบอนสี ใช้วิธีไม่สวย หวังจะรวยทางลัด ผลสุดท้ายคือ เจ๊งยับเยิน
นี่คือเรื่องราวของดอกเตอร์หนุ่มในมหาวิทยาลัยชื่อดัง 2 คน โดยหนึ่งในสอง จัดเป็นคนมีหน้ามีตาในสังคมด้วย
เขาถูกเจ้าของสวนบอนสีจับได้คาหนังคาเขา ว่าลงมือเด็ดยอดบอนสีและไม้ด่าง รวม 6 ยอด ขณะทำทีมาขอเดินชมสวน
เพื่อแลกกับการปกปิดชื่อเสียงและตัวตน คนทั้งสองยอมจ่ายเงินค่าเสียหายให้เจ้าของสวนบอนสีแต่โดยดี รวมเป็นเงินถึง 387,500 บาท
แต่เงินดังกล่าว ไม่สามารถแลกกับการปกปิดพฤติกรรม เพื่อเตือนภัยไปยังสวนบอนสีต่างๆ
โดย น.ส.หัสยานนท์ จิรโรจนภูวดล หรือดรีม อายุ 30 ปี เจ้าของร้านสวนบอนสีน้องดรีม ย่านงามวงศ์วาน ในฐานะผู้เสียหาย โพสต์ข้อความว่า
“เราจะปราณีด้วยการไม่ลงหน้าเต็ม และชื่อนามสกุลคุณ จะลบโพสต์ตามกลุ่มให้ แต่จะโพสคลิปการกระทำของคุณ เพื่อให้สวนต่างๆได้ระมัดระวัง”
“เราไม่อยากตัดอนาคตคุณ ส่วนยอดบอนสีที่เอาไป ฉันไม่รู้ว่าคุณเอาไปทำอะไรกันแน่ หรืออาจทำเงินให้คุณมากกว่า 4 แสน แต่ฉันหวังว่าจะไม่ได้เจอคุณทำกับใครที่ไหนอีก” สาวเจ้าของสวนโพสต์ฉะอย่างดุเดือด
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 13 พ.ย.ที่ผ่านมา ชายทั้งสองโทร.ติดต่อมาขอชมสวนบอนสีและไม้ด่าง แม้จะเป็นวันที่สวนปิด แต่เจ้าของใจดี ยอมเปิดให้เข้าชม
ทั้งสองขอชมบอนสีและไม้ด่างตัวแพงๆ แต่สุดท้าย ซื้อไปแต่พันธุ์ที่มีราคาถูกๆ
ดึกคืนนั้น เจ้าของสวนจัดการเตรียมบอนสีตัวแพง เพื่อจะส่งไปให้ลูกค้าที่ต่างประเทศ แต่แล้วก็ช็อก เมื่อพบว่ายอดอ่อนถูกเด็ดหายไปแล้ว
พอเอะใจ ตรวจสอบไปที่ต้นต่างๆ ที่ชายทั้งสองขอชม ก็พบว่าถูกเด็ดยอดหายไปเช่นกัน รวม 6 ต้นด้วยกัน
โชคดีของทางสวน และโชคร้ายของ 2 ดอกเตอร์ เพราะกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งไว้รอบบริเวณสวน บันทึกคลิปเหตุการณ์ขณะทั้งสอง ทำพฤติกรรม “มือบอน” เด็ดยอด “บอนสี” ไว้ได้
พอรู้ว่าตัวเองโดนหลักฐานแน่นหนาขนาดนี้ ทั้งสองรีบแจ้นกลับมาหาสาวเจ้าของสวน สารภาพสิ้นโดยดี พร้อมยืมเงินเพื่อนมาจ่ายค่าเสียหายกว่า 3.8 แสนบาท
เพื่อรักษาหน้าตาและหน้าที่การงานในมหาวิทยาลัย ไม่ให้ถูกแจ้งความดำเนินคดี และการเปิดเผยชื่อจริงออกมา
ส่วนแรงจูงใจ ทั้งสองอ้างว่า เด็ดยอดบอนสี เพื่อไปขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเนื้อเยื่อ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ทำได้จริง แต่ก็ประสบผลสำเร็จยาก และใช้เวลานานด้วย
เพียงแต่ง่ายกว่าในการฉกต้นแม่ เพราะต้องการแค่ยอดอ่อนเท่านั้น
ที่ผ่านมา ปรากฏว่าการย่องขโมยต้นบอนสี เกิดขึ้นมาโดยตลอด นับจากเป็นไม้กระแสยอดนิยม เคียงบ่าเคียงไหล่กับพวกไม้ด่าง กล้วยด่าง
“ทีมงานถอนหมุดข่าว” ได้สอบถามไปยังฟาร์มบอนสีแห่งหนึ่ง ให้ข้อมูลว่า บอนสีที่มีราคาแพงระดับหลักหมื่นถึงแสน มีอยู่ 13 พันธุ์ เรียกว่า “13 ตัวเทพ” นอกนั้น ราคาก็จะลดหลั่นลงมา
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ มีคนมากมายพลิกฐานะร่ำรวยได้จากพืชล้มลุกพวกนี้ เสี่ยบอนสีสามารถถอยรถเบนซ์ด้วยเงินสดๆ ราวกับรวยจากธุรกิจผิดกฎหมายเลยทีเดียว
มีสถิติบันทึกเล่นๆ ฟาร์มบอนสีที่โด่งดังในกทม. ใช้เวลาแค่ 4 ชั่วโมง สามารถทำเงินได้ 470,000 บาท จากการที่มีลูกค้าขับรถมาขอดูบอนสี และซื้อติดมือกลับไป เรียกว่าหาเงินง่าย ราวกับปลอกกล้วย
การขยายพันธุ์บอนสีที่ง่ายที่สุด คือการผ่าเหง้า ให้ต้นลูกแตกหน่อออกมา นอกจากนี้ ยังสามารถผสมข้ามสายพันธุ์ได้ด้วย ด้วยการนำ 4 สายพันธุ์มาผสมรวมกัน ให้ออกมาเป็นสายพันธุ์ใหม่
อย่างไรก็ตาม แม้จะเป็นเทรนต์ที่มาแรง เหมือนน้ำหลาก แต่หลายๆ คนก็เชื่อว่า บอนสีก็อาจไปแรงแบบตอนมาได้เช่นกัน เพราะในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา ก็เคยเกิดขึ้นมาแล้วกับไม้ฮอตฮิตหลายสายพันธุ์ ดังแล้วดับ มีคนรวยมีคนเจ๊งจากพวกมันมานักต่อนัก
ส่วน 2 ดอกเตอร์มือบอน แม้สังคมจะไม่รู้ว่าตัวจริงของคุณเป็นใคร แต่ที่แน่ๆ คุณก็คือ ไม้เลว ที่แตกหน่อจากกระถางดีๆ