xs
xsm
sm
md
lg

“ช่องส่องผี” ยกทีมลาบวช รอแหกตาภาค 2

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



รายการ “ถอนหมุดข่าว”ทาง NEWS1 โดย นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมืองและกระบวนการยุติธรรม เครือผู้จัดการ วันที่ 11 พ.ย.64 นำเสนอรายงานพิเศษ “ช่องส่องผี” ยกทีมลาบวช รอแหกตาภาค 2



รายการผีที่โด่งดัง พอๆกับอื้อฉาว “ช่องส่องผี” ประกาศออกมาแล้ว ว่าจะยุติรายการในวันที่ 19 เม.ย. 2565 โดยในวันดังกล่าว จะเผยแพร่เทปสุดท้าย แล้วทีมงานสำคัญ 3 คน อย่าง “บ๊วย-เรนนี่-เชษฐ์” จะแยกย้ายกันไปทางใครทางมัน

เล่นเอาเหล่า FC ใจหาย คอมเมนต์อาลัยกันอื้ออึง บางคนก็ครวญว่า เพราะรายการ “ช่องส่องผี” นี่เอง ทำให้ตัวเองกลายเป็นคนดี รู้จักเรื่องบาปบุญคุณโทษ

“ช่องส่องผี” ได้รับความนิยมอย่างสูง เพราะนำเสนอเนื้อหาด้วยจุดแข็งที่แตกต่างจากรายการท้าพิสูจน์ผีอื่นๆ

สุดยอดที่สุด ก็คือ กล้องที่อ้างว่าสามารถจับภาพพลังงานของดวงวิญญาณได้ มีลักษณะคล้ายๆ “ผีขี้ก้าง” มีแขนขา เต้นกระดุ๊กกระดิ๊ก สิงสู่อยู่ตามเสา และอื่นๆ ในที่มืดๆ วังเวง

เล่นเอาคนดูอึ้งตามๆกัน แม้แต่คนที่ไม่เชื่อ ก็จนปัญญาจะหาอะไรมาพิสูจน์โต้แย้งว่า ผีขี้ก้างชักกระดุ๊กชักกระดิ๊กพวกนั้น มันไม่ใช่ผี

อีกจุดแข็งก็คือ พิธีกรสาวคนเดียว “อาจารย์เรนนี่” ซึ่งประกาศออกสื่ออย่างไม่กะพริบตาว่า ตัวเองมีญาณวิเศษ มองเห็นภูตผีปีศาจ

พ่วงด้วยความสามารถเหนือชั้นกว่าผีถ้วยแก้ว หรือหมอผีทั้งมวล อาจารย์เรนนี่ถ่ายทอดคำพูดของผีได้เป็นฉากๆ พูดทีเป็นประโยคยาวเฟื้อย แล้วไม่มีการดีเลย์ใดๆ จากฝั่งผีด้วย

พูดง่ายๆว่า ผีตนใดที่มาเจออาจารย์เรนนี่ มักจะพูดจ้อเป็นต่อยหอย ไม่ใช่ถามคำ ตอบคำ แบบ “ร่างทรง”

ขณะที่พิธีกรดังอย่าง “บ๊วย” ก็สร้างเครดิตความน่าเชื่อถือให้กับรายการได้มากพอสมควร ในฐานะที่เป็นคนดังในวงการบันเทิง

“ช่องส่องผี” ดำเนินไปอย่างสบายใจ ทั้งคนทำและคนดูมาตลอด จนกระทั่งมาเจอตอ ที่ตัวเองหาเรื่องเดินไปชนเอง

เมื่อรายการเริ่มอัพเลเวล เล่นใหญ่เกินตัว ไม่เอาแล้วที่จะคุยกับผีสางสัมภเวสีเร่ร่อน หันไปสื่อสารกระแสจิตกับบุคคลสำคัญในหน้าประวัติศาสตร์ จนเกิดดราม่างานเข้า แทบเอาตัวไม่รอด

เพราะบรรดานักวิชาการด้านประวัติศาสตร์ สุดทนต่อข้อมูลแหกๆ บิดเบือนประวัติศาสตร์ ที่นำเสนอในรายการ

เช่น ระบุว่า พระเจ้าตากสินมหาราช ทรงช้างไม่เป็น

นักประวัติศาสตร์ต้องออกมาให้ข้อมูลที่ถูกต้องว่า พระเจ้าตากทรงช้างเป็นแน่นอน มีจารึกชัดเจนในหน้าประวัติศาสตร์อยู่แล้ว

ฝ่ายรายการก็ชี้แจงกลับ ประมาณว่า นำเสนอตามถ้อยคำที่ “ผีบอก”

เรียกว่าทันทีที่เล่นใหญ่มาถึงเหล่ากษัตริย์ และบุคคลสำคัญในหน้าประวัติศาสตร์ รายการ “ช่องสองผี” ถูกจับโป๊ะหน้าแหกกันแทบทุกตอนก็ว่าได้

หลายครั้ง ต้องไปทำพิธีบวงสรวงขอขมาที่อนุสาวรีย์ เพื่อลดกระแสความโกรธแค้น

นอกจากนี้ ยังโดนคดีหมิ่นประมาท ผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ อย่างการไปกล่าวหาผู้ตายที่เคยมีตัวตนจริง ว่าตายแล้วกลายเป็นเปรต สร้างความโกรธแค้นให้กับญาติพี่น้อง จนต้องแจ้งจับ

พอโดนจับโป๊ะเรื่องแหกประวัติศาสตร์ ก็ลามมาถูกเพจใหญ่ๆ จับโป๊ะเรื่องกล้องว่า ไม่ได้ส่องเห็นผีจริงๆ เสียหน่อย แต่เป็นเรื่องปกติของกล้องรุ่นดังกล่าว ที่จะแสดงผลออกมาเช่นนั้นตลอด ไม่ใช่ผีที่ไหน

แถมมีคลิปหลักฐานหลุดออกมา ขณะทีมงานทดสอบกล้องดังกล่าว ก็เห็นผีขี้ก้างเต้นหยึงๆ ไปมาตลอด

อย่างไรก็ดี วิจารณญาณของคนในสังคมที่แตกต่างกันไป ส่งผลให้ “ช่องส่องผี” ยังคงยืนหยัดหากินต่อไปได้ เพราะต่อให้โดนจับโป๊ะหน้าแหกสารพัดเรื่อง ผู้ชมก็ยังเชื่อในความสุจริตของทีมงานอยู่ดี

ขณะที่ทีมงานเอง ก็มีชั้นเชิงที่เล่ห์เหลี่ยมเจนจัด ไม่ธรรมดา เพราะย้ำจุดยืนของรายการ นำเสนอบาปบุญคุณโทษ ไม่ว่าอย่างไรก็ส่งเสริมให้คนทำดี หมั่นทำบุญสร้างกุศล

นอกจากนี้ ยังเป็นสะพานบุญให้ผู้ชม ร่วมบริจาคทำบุญให้กับวัดต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ถือว่าได้ใจไปเต็มๆ

การประกาศยุติ “ช่องส่องผี” เพื่อแยกย้ายกันไปบวช และเดินเส้นทางของตัวเอง ใครจะมองว่า “รวยแล้วเลิก” ก็มองได้

หรือใครจะมองว่าเป็นมุข แยกย้ายเพื่อจะกลับมารวมตัวกันหากินกับผีในภาคสอง ก็ย่อมคิดได้เช่นกัน


กำลังโหลดความคิดเห็น