หลังจากรัฐบาลคลายล็อกมาตรการต่างๆ ผู้คนเริ่มเดินทางท่องเที่ยวกันมากขึ้นหลังจากต้องเก็บตัวอยู่บ้านกันนานหลายเดือน และหลายคนก็เลือกเดินทางไปสัมผัสกับความสดชื่นเย็นฉ่ำของสายฝนและสายหมอกช่วงหน้าฝนกันในภาคเหนือ
หากใครเลือกเดินทางมายังจังหวัดลำปางในช่วงนี้ ขอบอกว่าต้องไม่พลาดมาเยือน “วัดพระธาตุดอยพระฌาน” ในอำเภอแม่ทะ จังหวัดลำปาง วัดงามบนยอดดอยพระฌาน ซึ่งนอกจากตัววัดจะมีความงดงามเป็นอย่างยิ่งแล้ว นักท่องเที่ยวยังสามารถมาชมพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอกยามเช้าได้ที่นี่อีกด้วย
และในวันนี้ทางวัดยังได้มีแลนด์มาร์กใหม่ที่ทำเอาหลายคนต้องขยี้ตาเมื่อได้เห็น นั่นคือ “พระพุทธรูปไดบุตสึ” องค์ใหญ่โดดเด่นอยู่บนยอดเขา ราวกับอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่นก็มิปาน
สำหรับประวัติของวัดพระธาตุดอยพระฌาน แต่เดิมบนยอดเขามีเพียงซากอิฐปรักหักพังมานานหลายชั่วอายุคน ชาวบ้านเชื่อว่าสถานที่แห่งนี้มีความศักดิ์สิทธิ์เต็มไปด้วยเรื่องราวลี้ลับ ต่อมาใน พ.ศ.2445 ได้มีการสร้างองค์พระธาตุขึ้นบนยอดเขา เป็นที่เคารพศรัทธาของชาวบ้านในแถบนั้นสืบมา
จากนั้นใน พ.ศ.2496 พระครูปัญญาวุฒิคุณ (หลวงพ่อปัญญา คนฺธิโย) อดีตเจ้าอาวาสวัดนาคตหลวงเป็นผู้นำพระสงฆ์ สามเณรและพระพุทธศาสนิกชนขึ้นมาบูรณะองค์พระธาตุ รวมทั้งปรับปรุงสถานที่โดยรอบให้สะดวกแก่การประกอบพิธีบูชาพระธาตุ จนเกิดเป็นประเพณีขึ้นดอยพระฌานบูชาพระธาตุปีละครั้ง แต่ระหว่างนั้นก็ยังไม่มีพระสงฆ์ขึ้นมาจำพรรษาและยังไม่มีสิ่งก่อสร้างใดเพิ่มเติม
จวบจน พ.ศ.2551 พระอาจารย์พรชัย อคฺควํโส เจ้าอาวาสวัดพระธาตุดอยพระฌาน และพระอาจารย์ปิยพงษ์ ธมมฺวํโส พระภิกษุสหธรรมิกชาวบ้านนาคต ได้ขึ้นมาสำรวจบนดอยพระฌานเป็นครั้งแรก ได้พบองค์พระธาตุสีขาว ยอดพระธาตุบุแผ่นทองจังโก้ มีบ่อน้ำและศาลาบำเพ็ญกุศลหลังเล็กสองหลัง และหลังจากนั้นในปี 2552 จึงได้มีการบูรณะก่อสร้างวัดพระธาตุดอยพระฌานครั้งใหญ่จนสำเร็จงดงามอย่างที่เห็นในปัจจุบัน
นักท่องเที่ยวนิยมมาที่วัดพระธาตุดอยพระฌานกันตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่างเพื่อมารอชมพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้า โดยสามารถขับรถขึ้นเขามาจอดยังวัดด้านบนก็ได้ หรือจะเดินเท้าผ่านบันไดนาคตรงขึ้นมายังตัววิหารก็ได้เช่นกัน
เมื่อผ่านซุ้มประตูโขงที่ต่อเนื่องกับบันไดนาคเข้ามาแล้ว จะพบกับลานด้านหน้าวิหารที่ผู้คนมายืนถ่ายรูปชมวิวกัน จากลานด้านหน้ามีบันไดนาคที่ทอดตัวขึ้นไปยังพระวิหารพระพุทธเจ้าองค์ปฐม วิหารหลังเล็กแต่สร้างได้สมส่วนงดงามยิ่งนัก
ภายในวิหารเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปนามว่า “สมเด็จพระพุทธสิกขีทศพลญาณ พิชิตมารวิกรม ปฐมสัมมาสัมโพธิญาณ ศรีพระฌานบรรพต” ประดิษฐานอยู่ในซุ้มเรือนแก้วสีทองอร่าม ภายในวิหารยังประดับด้วยงานแกะสลักปิดทองที่งดงามอ่อนช้อย โดยเฉพาะชิ้นงานแกะสลักเหนือบานประตูฝั่งตรงกับข้ามกับพระประธานที่เป็นรูปพญานาคกระหวัดเกี่ยวรอบองค์พระธาตุสีขาวนั้นถือได้ว่าวิจิตรงดงามเป็นอย่างยิ่ง
เมื่อกราบพระประธานเรียบร้อยแล้ว เดินออกมาด้านหลังจะพบกับความงามอีกอย่างหนึ่งของพระวิหาร นั่นคือลวดลายของต้นโพธิ์สีทองที่วาดลงบนตัววิหารที่มีพื้นสีดำ ทำให้ต้นโพธิ์ลอยเด่นอย่างสวยงาม
และที่อยู่ด้านหลังพระวิหารก็คือองค์พระธาตุเจดีย์สีขาวที่มีปลียอดและฉัตรสีทอง หรือก็คือองค์พระธาตุดอยพระฌานที่มีมาแต่ดั้งเดิมนั่นเอง
เมื่อเราก้มกราบสักการะองค์พระธาตุเรียบร้อยแล้วเดินลงบันไดมาก็จะพบกับศาลาเฉลิมพระเกียรติและศาลาพระเจ้าห้าพระองค์ และบริเวณที่เป็นกุฏิพระสงฆ์
และหากมองไปไกลๆ เบื้องหลัง ก็จะมองเห็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่ พระไดบุทสึ ขนาดหน้าตัก 14 เมตร เนื้อทองแดง ประดิษฐานโดดเด่นอยู่บนเนินเขาที่ต่อเนื่องกัน
พระพุทธรูปไดบุตสึหรือหลวงพ่อโตนี้ ลักษณะคล้ายกับพระไดบุตสึแห่งวัดโคโตคุ เมืองคามาคุระ ประเทศญี่ปุ่น โดยเป็นพระพุทธรูปประทับนั่ง ธยานมุทรา (ปางสมาธิ) ห่มจีวรคลุมแบบเปิดพระอุระแบบสมดุล พระพักตร์โน้มลงไปด้านหน้า พระเนตรมองต่ำ
การก่อสร้างพระไดบุตสึแห่งลำปางนี้เริ่มต้นขึ้นในราวปี 2562 โดยองค์พระเพิ่งสร้างสำเร็จเรียบร้อยเมื่อไม่นานมานี้ และที่เห็นองค์พระพุทธรูปเป็นสีออกฟ้าอมเขียวก็เกิดจากสนิมทองแดง หรือการทำปฏิกิริยาทางเคมีของทองแดงกับสภาพอากาศนั่นเอง
องค์หลวงพ่อไดบุตสึตั้งโดดเด่นท่ามกลางป่าเขียวขจีของดอยพระฌาน หลายๆ คนที่ได้ไปเยือนและถ่ายรูปมาต่างบอกว่าบรรยากาศราวกับอยู่ในประเทศญี่ปุ่น และเชื่อแน่ว่า หน้าหนาวนี้ที่ใครๆ ต่างก็อยากเดินทางท่องเที่ยวมารับลมหนาวทางภาคเหนือ ต้องเลือกจังหวัดลำปางและพระธาตุดอยพระฌานเป็นจุดหมายปลายทางอย่างแน่นอน
หมายเหตุ : ภาพพระไดบุตสึโดย อำนาจ ดวงใย
#################
“วัดพระธาตุดอยพระฌาน” ตั้งอยู่ที่หมู่ 5 ตำบลป่าตัน อำเภอแม่ทะ จังหวัดลำปาง จากตัวเมืองลำปางใช้เส้นทางถนนพหลโยธิน (ทางหลวงหมายเลข 1) เมื่อมาถึงแยกแม่ทะให้เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนแม่ทะ-ลำปาง (ทางหลวงหมายเลข 1036) เมื่อถึงบ้านแม่ปุงให้เลี้ยวขวาตามป้ายมายังบ้านป่าตัน วิ่งตามป้ายบอกทางมายังวัดพระธาตุดอยพระฌาน จากตัวเมืองลำปางใช้เวลาราว 30-40 นาที
#################
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Youtube :Travel MGR และ Instagram : @travelfoodonline และ TikTok : @travelfoodonline