“ภูกระดึง” ได้ชื่อว่าเป็น “ตำนานแห่งภูภาคอีสาน” เป็นสถานที่เดินป่าขึ้นเขาระดับตำนานรุ่นแรก ๆ นักท่องเที่ยวหลายคนที่เคยขึ้นมาเป็นผู้พิชิตภูแห่งนี้ นอกจากจะประทับใจในมนต์เสน่ห์ของธรรมชาติแล้ว ยัง (เคย) มีความหลังความทรงจำอันแสนหวาน ณ ที่แห่งนี้
...รอยยิ้ม คำทักทาย น้ำมิตร เพื่อนใหม่ รวมไปถึงรักแรกพบ นับเป็นความทรงจำแห่งภูกระดึงที่น่าประทับใจกระไรปานนั้น...
ภูกระดึง ขุนเขารูปหัวใจ
ภูกระดึง เป็นหนึ่งในภูเขาอันน่าอัศจรรย์ของบ้านเรา เขาลูกนี้เป็นภูเขาหินทรายยอดตัดราบกว้างขวาง มีพื้นที่ราว 60 ตารางกิโลเมตร ประกอบด้วย 2 ส่วนหลักคือ ป่าดงดิบ และทุ่งหญ้าป่าสน (ราว 1 ใน 4) ที่อยู่ทางฝั่งทิศใต้ ซึ่งเป็นส่วนที่เปิดพื้นที่ให้คนขึ้นไปเที่ยว
ที่ราบบนยอดภูกระดึงมีความสูงเฉลี่ยอยู่ที่ 400-1,200 เมตร และมียอดสูงสุด ตั้งอยู่บนความสูง 1,288 เมตรจากระดับน้ำทะเล
ยอดภูกระดึงมีลักษณะคล้าย “ใบบอน” มีปลายแหลมทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ และมนเว้าหยักเข้ามาทางฝั่งทิศตะวันตกเฉียงเหนือ
สมัยก่อนคนจะบอกกันว่าภูกระดึงมีสัณฐานเหมือนดัง “กระดิ่งทับหล้า” ซึ่งปรากฏในเพลง “ภูกระดึง” อันสุดคลาสสิกของวงสุนทราภรณ์
กระดึง (ภาษาถิ่น) มาจาก “กระดิ่ง” ที่หมายถึงระฆังใหญ่ ภูกระดึงจึงอาจหมายถึงเขาระฆังใหญ่ เพราะมีเรื่องเล่าว่า ในวันพระชาวบ้านมักได้ยินเสียงระฆังหรือกระดิ่ง ดังมาจากบนเขาลูกนี้เสมอ โดยบ้างก็เล่ากันว่านี่คือเสียง “ระฆังของพระอินทร์”
มาในยุคปัจจุบัน ได้มีการเปลี่ยนคำเรียกขานรูปร่างสัณฐานของภูกระดึงจากกระดิ่งทับหล้าหรือใบบอน มาเป็นรูป “หัวใจ”แทน เพื่อความเข้าใจง่าย และเพื่อให้เป็นกิมมิกทางการท่องเที่ยว โดยนิยมเรียกขานกันว่า “ภูกระดึง ขุนเขารูปหัวใจ” หรือ “ภูกระดึง ยอดเขารูปหัวใจ”
10 ไฮไลท์บนยอดภูกระดึง
การจะขึ้นไปสัมผัสหัวใจบนยอดภูกระดึง เราต้องเดินขึ้นเขาในเส้นทางขึ้นภู (ที่บ้านศรีฐาน อ.ภูกระดึง จ.เลย) ในระยะทางประมาณ 5.5 กม. ซึ่งปัจจุบันแม้ยังคงเป็นเส้นทางเดินขึ้นเขาที่สูงชัน แต่มีการทำทางเดินที่ค่อนข้างสะดวก ไม่ยากลำบากโหดหินอย่างคำร่ำลือ แถมระหว่างทางยังมีจุดแวะพัก มีร้านค้าให้เติมพลัง ตาม “ซำ” ต่าง ๆ อาทิ ซำแฮก ซำบอน ซำกกกอก ซำกกโดนและ ซำแคร่ เป็นต้น
เมื่อเดินขึ้นเขาผ่านซำต่าง ๆ แล้วก็จะมาถึงบนยอดภูกระดึง ภูเขาหัวตัดที่มีจุดท่องเที่ยวมากหลาย และนี่ก็คือ 10 ไฮไลท์ ไม่ควรพลาดบนยอดภูกระดึง ซึ่งจะมีอะไรบ้างขอเชิญทัศนากันได้
1.หลังแป: เป็นจุดเหยียบสัมผัสแรกบนยอดภูกระดึง ซึ่งต้อนรับเราด้วยป้าย “ครั้งหนึ่งในชีวิต เราคือผู้พิชิตภูกระดึง” หนึ่งในป้ายแหล่งท่องเที่ยวต้องห้ามพลาด เพราะมันมีความหมายและคุณค่าต่อผู้ที่ดั้นด้นเดินขึ้นมาเป็นอย่างยิ่ง
2.วังกวาง หรือศูนย์บริการนักท่องเที่ยววังกวาง : อยู่ห่างจากหลังแป 3.5 กม. ที่นี่เป็นศูนย์รวมสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ หนึ่งเดียวบนยอดภูกระดึง มีศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ลานกางเต็นท์ บ้านพัก ร้านค้า ร้านอาหาร ห้องน้ำ-ส้วม รวมถึงเป็นจุดรับ-ส่งสัมภาระ นัดแนะลูกหาบกันที่นี่
วังกวางแม้ไม่ใช่สถานที่ท่องเที่ยว แต่ที่นี่เป็นอีกหนึ่งชมทะเลดาวยามราตรีที่สวยงามมาก
3.ผาหมากดูก : อยู่ห่างจากศูนย์ฯ วังกวาง ประมาณ 2 กม.นักท่องเที่ยวนิยมมาชมพระอาทิตย์ตกกันที่นี่ในเย็นวันแรกที่เดินทางมาถึง หรือบางคนที่มาทริประยะสั้น 2 วัน 1 คืน ไม่มีเวลาและแรงเดินไปผาหล่มสัก ก็จะเลือกมาชมพระอาทิตย์ตกที่ผาแห่งนี้แทน ซึ่งสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของผืนป่าในอุทยานแห่งชาติน้ำหนาวได้อย่างสวยงาม
4.ผานกแอ่น : อยู่ห่างจากศูนย์ฯวังกวาง 1.2 กม. ที่นี่เป็นไฮไลท์จุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงามบนยอดภูกระดึง ที่นี่เป็นหน้าผาเล็ก ๆ มีต้นสนขึ้น 2-3 ต้น ริมหน้าผาเสริมแต่งองค์ประกอบ วันไหนฟ้าเป็นใจจะเห็นทะเลหมอกลอยอ้อยอิ่งสวยงาม ส่วนวันฟ้าเปิดจะเห็นวิวทิวทัศน์ของบ้านศรีฐาน และผานกเค้าตั้งเด่นตระหง่าน
5.ไหว้พระ : บนภูกระดึงมีพระพุทธรูปให้กราบสักการะอยู่ 2 จุดด้วยกัน คือ ที่ “ลานพระแก้ว”เป็นพระพุทธรูปยืน หลังชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ผานกแอ่น สามารถมาแวะไหว้พระยืนที่นี่ได้
ส่วนอีกจุดหนึ่งคือ “องค์พระพุทธเมตตา” ที่ตั้งอยู่ห่างจากศูนย์ วังกวางเพียง 500 เมตร เป็นพระพุทธรูปนั่งปางมารวิชัยประดิษฐานโดดเด่นอยู่บนลานหินธรรมชาติพื้นเรียบ
พระพุทธเมตตา เป็นพระพุทธรูปเก่าแก่คู่ภูกระดึงมีอายุกว่า 100 ปี สร้างขึ้นตั้งแต่เมื่อปี พ.ศ. 2463 โดยนายอำเภอวังสะพุง (สมัยนั้นภูกระดึงยังอยู่ในเขตปกครองของ อ.วังสะพุง) เพื่อให้เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของชาวบ้านแถบภูกระดึง ต่อมาในปี 2536 สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี โปรดเกล้าฯ ให้บูรณะบริเวณโดยรอบ พร้อมทั้งพระราชทานนามพระพุทธรูปนี้ว่า “พระพุทธเมตตา”
นักท่องเที่ยวสามารถแวะไหว้พระพุทธเมตตาได้ทั้งช่วงเย็นขาไปชมพระอาทิตย์ตกที่ผาหมากดูก หรือช่วงสายในเส้นทางไป “สระอโนดาต-ผาหล่มสัก”
วันนี้ทั้งพระพุทธรูปยืนลานพระแก้ว และองค์พระพุทธเมตตา จะมีนักท่องเที่ยวนิยมมาขอพร แก้บน ด้วยการแขวนกระดิ่ง (กระดึง) หรือ ระฆัง ที่ถือเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของภูกระดึงแห่งนี้
6.ป่าสน : ทุ่งหญ้า ป่าสน เป็นลักษณะทางกายภาพอันโดดเด่นบนยอดภู ในพื้นที่ที่เปิดให้ท่องเที่ยว
ป่าสนบนภูกระดึง มีทั้งสน 2 ใบ และ สน 3 ใบ สามารถพบเห็นขึ้นกระจายตัวอยู่ทั่วไป โดยตามริมผาจะมีต้นสนขึ้นประดับในองค์ประกอบ นอกจากนี้ในเส้นทางเดินเลียบผา หรือ เส้นทางวังกวาง-สระอดาต-ผาหล่มสัก ก็มีป่าสนยืนต้นตระหง่านโดดเด่นให้โพสต์ท่าถ่ายรูปกันอย่างเพลิดเพลิน
สำหรับการดูสนบนนี้ (หรือที่อื่น ๆ ) ว่าเป็นสน 2 ใบ หรือ 3 ใบ ถ้าไม่ดูที่ใบได้ เนื่องจากยืนอยู่ในระยะไกลสังเกตยาก ก็ให้ดูที่ลำต้น สน 2 ใบ จะมีเปลือกเป็นสีน้ำตาลเข้มออกดำ ร่องเปลือกเป็นสี่เหลี่ยมแตกรอยร่องลึก ส่วนสน 3 ใบ เปลือกจะมีสีน้ำตาลอ่อน ร่องเปลือกแตกร่อนเป็นสะเก็ดใหญ่ และมีรอยร่องตื้น ต่างจากสน 2 ใบ ชัดเจน
7.น้ำตก : ไม่น่าเชื่อว่าบนยอดเขารูปหัวใจแห่งนี้ที่เป็นที่ราบตัด จะมีน้ำตกมากถึงกว่า 10 แห่ง (รวมในป่าปิดด้วย)
สำหรับน้ำตกที่สามารถเที่ยวได้เองบนภูกระดึง (ไม่ใช่น้ำตกในป่าปิด) จะอยู่บริเวณรอยต่อของทุ่งหญ้า-ป่าสนกับป่าดงดิบ (หรือป่าปิด) โดยจะมีเส้นทางเดินเที่ยวน้ำตกอยู่ทางทิศเหนือของศูนย์ฯ วังกวางให้เดินเที่ยวกัน ไล่ไปตั้งแต่ “น้ำตกวังกวาง” (ใกล้ที่พัก) ที่ในอดีตกวางชอบมากินน้ำที่นี่
จากนั้นก็เป็น “น้ำตกเพ็ญพบใหม่”ที่ร่มรื่นไปด้วยต้นไม้ใหญ่ “น้ำตกโผนพบ” ที่ตั้งชื่อตามชื่อผู้ค้นพบน้ำตก คือ “โผน กิ่งเพชร” แชมป์โลกคนแรกของเมืองไทย
ส่วนใกล้ ๆ กัน เป็น “น้ำตกเพ็ญพบ” มีลักษณะเป็นแนวหิน 3 ชั้น มีน้ำตกไหลลดระดับลดหลั่นลงมาบนแอ่งน้ำกว้างใหญ่ สวยงามน่าเล่นมาก ๆ
นอกจากนี้ในเส้นทางสายนี้ยังมีน้ำตกอื่น ๆ ที่ชวนเที่ยวชม อีก ได้แก่ น้ำตกถ้ำใหญ่ น้ำตกธารสวรรค์ น้ำตกพระองค์ น้ำตกถ้ำสอเหนือ ขณะที่ป่าปิดมี 2 น้ำตกงาม คือ น้ำตกผาน้ำผ่า และ น้ำตกขุนพอง
8.เมเปิ้ลแดง : ยอดภูกระดึงเป็นผืนป่าบนที่สูง มีอากาศหนาวเย็น บนนี้จึงมีไม้เมืองหนาวอย่าง “เมเปิ้ล” (maple) ขึ้นอยู่ไม่น้อยเลย
เมเปิล หรือ “ก่วมแดง” หรือ “ไฟเดือนห้า” บนภูกระดึง จะมีการเปลี่ยนใบจากเขียวเป็นสีแดงสดใสในช่วงราวเดือน ธ.ค.-ก.พ. (ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศปีนั้น ๆ)
สำหรับจุดชมใบเมเปิลแดงบนภูกระดึง ที่เด่น ๆ ก็มีบริเวณหลังแป บ้านพักอุทยาน และในเส้นทางสายน้ำตก ได้แก่ บริเวณน้ำตกเพ็ญพบใหม่ และ น้ำตกถ้ำใหญ่ ที่มีความสวยงามทั้งยามเมื่อใบเปลี่ยนสีแดงเต็มต้น และยามเมื่อใบร่วงหล่นเกลื่อนเป็นสีแดงเต็มตามพื้นดิน ก้อนหิน ลำธาร ดูเหมือนพรมแดงผืนใหญ่ในป่าเขียวขจีที่น่าประทับใจไม่น้อย
9.สระอโนดาต : สระน้ำธรรมชาติขนาดใหญ่ อยู่ห่างจากศูนย์ฯ วังกวางราว 3.4 กม. มีน้ำตลอดทั้งปี มีสน 2 ใบ และ 3 ใบ ขึ้นบริเวณรอบสระ ในวันฟ้าเปิดเป็นใจ จะมองเห็นภาพสระอโนดาตน้ำใสแจ๋วสะท้อนเงาท้องฟ้า ก้อนเมฆ และแมกไม้ ต้นสน ดูมีเสน่ห์ยิ่งนัก
10.ผาหล่มสัก : บนยอดภูกระดึงมีหน้าผาจุดชมวิวอยู่หลายจุดด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น บริเวณหลังแป ผาจำศีล ผานาน้อย ผาเหยียบเมฆ ผาแดง ผาหมากดูก และผานกแอ่น แต่หน้าผาที่เป็นไฮไลท์ที่สุด ซึ่งเป็นดังสัญลักษณ์ ภาพจำ ก็คือ “ผาหล่มสัก” สถานที่ต้องห้ามพลาดบนภูกระดึง
ผาหล่มสัก ตั้งอยู่ห่างจากศูนย์ฯ วังกวางราว 9 กม. เป็นหนึ่งในจุดชมพระอาทิตย์ตกระดับตำนานเลื่องชื่อของเมืองไทย อีกทั้งยังเป็นสัญลักษณ์ของภูกระกระดึงอันโด่งดัง
ผาหล่มสัก มีลักษณะเป็นลานหินกว้าง มีชะง่อนผาหรือแท่นหิน ยื่นแหลมออกไปจากแผ่นดินแนวผา พร้อมทั้งมีต้นสนเดียวดายยืนเด่นทระนงเคียงคู่ นับเป็นองค์ประกอบที่ธรรมชาติสร้างสรรค์ได้อย่างลงตัว ดึงดูดให้นักเดินทางรุ่นแล้วรุ่นเล่าเดินทางขึ้นยอดภูกระดึง เพื่อมาชมและถ่ายรูป พระอาทิตย์ตกที่ผาหล่มสัก จนมีคำกล่าวว่า ถ้าใครมาเที่ยวภูกระดึงแล้ว ไม่ได้ไปผาหล่มสักก็เหมือนกับว่ายังมาไม่ถึงภูกระดึงโดยสมบูรณ์
และนี่ก็คือ 10 ไฮไลท์บนภูกระดึง ซึ่งล้วนแต่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวหลัก ๆ พื้นฐานที่นักท่องเที่ยวรุ่นแล้วรุ่นเล่าต่างเคยผ่านการเป็นผู้พิชิตสถานที่เหล่านั้นบนยอดภูกระดึงมาแล้วทั้งสิ้น
สำหรับภูกระดึงแล้ว นี่คือตำนานแห่งภูภาคอีสาน เป็นสถานที่เดินป่าขึ้นเขาระดับตำนานรุ่นแรก ๆ
นักท่องเที่ยวหลายคน มีความหลังความทรงจำแสนหวานที่นี่
...หลายคู่มาพบรักสมหวังกันที่ภูกระดึง...
...และหลายคู่ก็มาเลิกรักร้างลากันที่ “ภูกระดึง”...
#####################################
ทุก ๆ ปี “อุทยานแห่งชาติภูกระดึง” จะปิดยอดภูกระดึง ไม่ให้นักท่องเที่ยวขึ้นในช่วงฤดูฝนเป็นเวลา 4 เดือน ตั้งแต่ 1 มิ.ย.-30 ก.ย. เพื่อให้ธรรมชาติได้พักฟื้นสภาพ และจะกลับมาเปิดการท่องเที่ยวอีกครั้งตั้งแต่ 1 ต.ค. – 31 พ.ค. ของปีถัดไป (ยกเว้นบางปีที่เกิดเหตุสุดวิสัยอย่างโควิด-19 ทำให้ อช.ภูกระดึงต้องปิดการท่องเที่ยวก่อนกำหนด)
สำหรับการเปิดให้บริการท่องเที่ยวในฤดูกาลนี้ (64-65) ทาง อช. ภูกระดึง จำกัดนักท่องเที่ยวไม่เกิน 1,000 คนต่อวัน แบ่งเป็นการจองผ่านแอพพลิเคชั่น QueQ 70% = 700 คน และแบบ walk in 30% = 300 คน ซึ่งจะสามารถยืดหยุ่นได้ในแต่ละแบบถ้าจำนวนคนไม่เกิน 1,000 คน/วัน
ทั้งนี้ทางอุทยานฯ ขอความร่วมมือนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมาเที่ยวภูกระดึง ให้จองล่วงหน้าเข้ามาก่อน เพราะหากนักท่องเที่ยวเต็มตามจำนวนที่กำหนด ทาง อช.ภูกระดึง จะไม่อนุญาติให้นักท่องเที่ยว walk in เข้าท่องเที่ยวในพื้นที่ เนื่องจากเป็นช่วงที่ต้องมีมาตรการในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
นอกจากนี้รูปแบบการท่องเที่ยวภูกระดึงในครั้งนี้จะเป็นแบบ New Normal เพื่อเป็นไปตามมาตรการป้องกันโควิด-19 อย่างเคร่งครัด ผู้ที่จะเข้ามาท่องเที่ยว อช.ภูกระดึง ต้องฉีดวัคซีนโควิด-19 ตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขและมาตรการของจังหวัดเลย รวมถึงปฏิบัติตามกฎระเบียบของอุทยานฯ อย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัยของทุกคน
ผู้สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ อุทยานแห่งชาติภูกระดึง บ้านศรีฐาน อ.ภูกระดึง จ.เลย โทร. 0-4281-0833 หรือดูที่ เพจ อุทยานแห่งชาติภูกระดึง - Phu Kradueng National Park