ย่างเข้าสู่ฤดูหนาว เรามุ่งหน้าไปสัมผัสอากาศเย็นสบายกันที่ "น่าน" ภูเขาและทุ่งนาที่น่านยังคงงดงามเหมือนเคย เป็นความสุขทางใจและทางสายตาที่ได้พบทุกครั้งเมื่อเดินทางมาเยือน ในวันนี้เราตั้งใจไปเที่ยวน่านตอนเหนือ ตามเส้นทางดอยภูคา อำเภอบ่อเกลือ และหมู่บ้านสะปันกัน
เราใช้เส้นทางถนนสายปัว-บ่อเกลือ (ทางหลวงสาย 1256) ที่เรียกว่าเป็น "ถนนลอยฟ้า" เพราะตัดผ่านสันเขาสูงที่สองข้างทางเป็นหุบเขา ทิวทัศน์สองข้างทางงดงามยิ่งนัก ภูเขาใหญ่ที่เราลัดเลาะตามเส้นทางมานี้คือ "ดอยภูคา" และในระหว่างทางสายนี้เป็นที่ตั้งของที่ทำการอุทยานแห่งชาติดอยภูคา ซึ่งมีทั้งจุดกางเต็นท์ บ้านพัก ซึ่งหากใครอยากจะแวะชมวิวหรือแวะตั้งแคมป์ค้างคืนก็สามารถทำได้
เลยจากที่ทำการมาอีกราว 4 กิโลเมตร จะเป็นจุดชมต้นชมพูภูคา ซึ่งเป็นต้นไม้ยืนต้นหายากและใกล้สูญพันธุ์ ต้นชมพูภูคาจะขึ้นอยู่ในบริเวณป่าดิบเขาที่ระดับความสูง 1,200-1,500 เมตรจากระดับน้ำทะเล ส่วนใหญ่แล้วจะพบในทางตอนใต้ของประเทศจีน ภาคเหนือของเวียดนาม ไต้หวัน และไทย โดยในประเทศไทยพบที่ดอยภูคา จ.น่าน ต้นชมพูภูคายังออกดอกเป็นพวงสีชมพูสวย ซึ่งจะชมได้ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม
และจากจุดชมต้นชมพูภูคามาอีก 4 กิโลเมตร จะพบกับจุดชมวิว "1715" ซึ่งเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอกที่งดงามของอุทยานแห่งชาติดอยภูคา โดยตัวเลข 1715 นี้คือระดับความสูงจากน้ำทะเลปานกลาง หากใครโชคดีมาเยือนถูกเวลาก็จะได้ชมทะเลหมอกอลังการในบริเวณนี้ แต่ในวันที่ไม่มีหมอกก็จะได้ชมวิวภูเขาสลับซับซ้อนงดงามไม่แพ้กัน
จากนั้นเรามุ่งหน้ามาที่ “อำเภอบ่อเกลือ” กันต่อ เพื่อชมความน่าทึ่งของบ่อเกลือภูเขาหรือเกลือสินเธาว์อายุเก่าแก่กว่า 800 ปี ที่ทุกวันนี้ชาวบ้านยังคงสืบทอดภูมิปัญญาการทำเกลือโบราณเอาไว้ โดยใช้วิธีตักน้ำจากบ่อเกลือขึ้นมาต้มในกระทะขนาดใหญ่ เคี่ยวด้วยฟืนไม้นาน 4-5 ช.ม. จนน้ำระเหยและเกล็ดเกลืองวดขึ้น จากนั้นจึงช้อนเกล็ดเกลือขึ้นมาใส่ในตะกร้าแขวนไว้เหนือกระทะ จากนั้นก็จะนำมาบรรจุถุงวางขาย เราจะได้เห็นกระบวนการทำเกลือแบบโบราณที่ชาวบ้านยังคงรักษาวิธีการรวมถึงขนบธรรมเนียม ความเชื่อและข้อปฏิบัติต่างๆเกี่ยวกับการทำเกลือ ที่เป็นปัจจัยสำคัญให้การเกลือโบราณที่นี่ยังดำรงคงอยู่มาจนถึงทุกวันนี้
นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เมื่อเดินทางมาที่อำเภอบ่อเกลือ นอกจากจะมาเดินเล่นชมบ่อเกลือโบราณ ชมทิวทัศน์แม่น้ำมางในตัวอำเภอแล้ว ก็มักเดินทางต่อมายัง "หมู่บ้านสะปัน" ใน ต.ดงพญา อ.บ่อเกลือ ซึ่งอยู่ห่างจากตัวเมืองมาราว 10 ก.ม. เพื่อมาเที่ยวชมบรรยากาศภายในหมู่บ้านเล็กๆ ริมน้ำมาง โดยในตอนนี้ถือได้ว่าบ้านสะปันกำลังฮิตในหมู่นักท่องเที่ยวมากทีเดียว ดูได้จากรีสอร์ทเล็กๆ หลายแห่งที่เปิดให้เข้าพัก ร้านกาแฟคาเฟ่น่ารักๆ ให้เลือกเที่ยวเลือกชิมเต็มไปหมด
หมู่บ้านสะปันนี้อยู่ริมลำธารต้นสายแม่น้ำว้า ซึ่งเป็นธารสายหลักของหมู่บ้าน ลำน้ำว้าบริเวณนี้ไม่ได้ลึกหรือกว้างมากนัก ลักษณะเป็นลำธารงดงามมีโขดหิน รีสอร์ทบางแห่งทำสะพานไม้ไผ่ให้นักท่องเที่ยวลงไปเดินถ่ายรูปเล่นกันได้
นอกจากนั้นในหมู่บ้านยังมีทิวทัศน์ของทุ่งนาและภูเขาที่สวยงามหลายจุด ซึ่งมีฉากหลังเป็นภูเขาน้อยใหญ่ของดอยภูคา เช่นในโรงเรียนบ้านสะปันที่ด้านหลังมีวิวทุ่งนาสวยงามจับใจ หรือที่บริเวณสะพานคอนกรีตข้ามแม่น้ำว้าก็มีวิวเขาสูงใหญ่ให้ชมกันด้วยเช่นกัน
อีกหนึ่งจุดท่องเที่ยวของคนที่มายังบ้านสะปันก็คือ “น้ำตกสะปัน” น้ำตกขนาดกลางที่อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติขุนน่าน ในช่วงปลายฝนต้นหนาวแบบนี้ที่น้ำตกสะปันก็ยังมีน้ำใสไหลแรง ตลอดสองข้างทางมีต้นไม้และมอสเฟินตะไคร่เขียวขจี สัมผัสบรรยากาศสดชื่นไปตลอดทาง
ทางเดินชมน้ำตกสปันเป็นทางบันไดเดินได้สะดวก ระยะทางประมาณ 800 เมตร เดินเข้าไปยังไม่ถึงกับเหนื่อยมากนักก็ได้ชมวิวน้ำตกสะปันสวยๆ แล้ว ใครไม่กลัวความหนาวจะลงเล่นน้ำตกบริเวณลำธารที่ตื้นๆ ก็สดชื่นดีไม่น้อย หรือจะแค่เดินถ่ายรูปกันในบรรยากาศเขียวสดชื่น สัมผัสละอองน้ำเย็นฉ่ำก็ชื่นใจแล้ว
หนาวนี้ใครอยากมาเที่ยวน่าน มาสูดอากาศสดชื่นจนเต็มปอดและเก็บความเขียวสบายตาไว้เต็มความทรงจำ อย่าลืมแวะมาเที่ยวอำเภอบ่อเกลือและที่หมู่บ้านสะปัน โดยหากต้องการสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับที่เที่ยว ที่กิน ที่พักในจังหวัดน่าน ก็สามารถโทรสอบถามรายละเอียดต่างๆ ได้กับทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานน่าน โทร.0 5471 1217, 0 5471 1218