การท่องเที่ยวเยอรมัน เตรียมพร้อมเพื่อเปิดรับนักท่องเที่ยว ชวนคนเที่ยวผ่านแคมเปญ “ฝันไว้ก่อนค่อยเที่ยวทีหลัง” #DreamNowVisitLater นำเสนอกิจกรรมที่มีเลือกสรรหลากหลาย จากทะเลเหนือสู่เทือกเขาแอลป์
เยอรมนี เป็นประเทศที่มีทิวทัศน์สวยงามมากมาย หากได้มาใช้ช่วงเวลาลาพักร้อน ที่นี่มีกิจกรรมให้เลือกทำหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น ชมแม่น้ำ ทะเลสาบ เทือกเขา แม้ว่าในปี 2563 อาจจะยังไม่สามารถเดินทางไปเที่ยวเยอรมันได้
อย่างไรก็ดี ปัจจุบันประเทศเยอรมนีกำลังเร่งดำเนินมาตรการต่าง ๆ เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้เดินทางมาเที่ยวด้วยความปลอดภัย โดยทาง “คณะกรรมการท่องเที่ยวเยอรมัน” The German National Tourist Board หรือ GNTB) ได้ชวนชาวต่างชาติเที่ยวผ่านแคมเปญ “ฝันไว้ก่อนค่อยเที่ยวทีหลัง” #DreamNowVisitLater นำเสนอกิจกรรมที่มีเลือกสรรหลากหลาย จากทะเลเหนือสู่เทือกเขาแอลป์
สำหรับไฮไลท์เด็ด ๆ ที่ทาง GNTB คัดสรรมามีดังนี้
สวยทั้งในเมืองและย่านชนบท
เยอรมนี เป็นประเทศที่มีเส้นทางปั่นจักรยานทางไกลมากกว่า 200 เส้นทาง ซึ่งนักปั่นจักรยานจะได้ชมวิวทิศทัศน์ในเมืองและในชนบท เส้นทางปั่นจักรยานแม่น้ำไรน์ (Rhine Cycle Route) เป็นเส้นทางที่จะสร้างประสบการณ์อันน่าประทับใจ ด้วยถนนเลียบแม่น้ำซึ่งมีแหล่งที่มาจากเทือกเขาแอลป์ไปจนถึงชายฝั่งทะเลเหนือ
เส้นทางแห่งนี้ผ่านสถานที่สำคัญหลายแห่งซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกขององค์การยูเนสโก เช่น หน้าผาลอเรลีย์ร็อค (Loreley Rock) ที่มีชื่อเสียง สูง 194 เมตร ตั้งอยู่ในหุบเขาแม่น้ำไรน์ตอนกลาง – ตอนบน และทัศนียภาพเมืองคอนสแตนซ์ในยุคกลาง ซึ่งเป็นมีอาคารสภาที่งดงามและมีชื่อเสสียง เป็นอาคารที่ใช้สำหรับการเลือกตั้งพระสันตปาปา ในปี พ.ศ.1960 (1417)
ชิลไปกับแหล่งผลิตไวน์
สำหรับนักท่องเที่ยวหรือนักปั่นจักรยานที่ชื่นชอบการปั่นชมวิวธรรมชาติและสิ่งละอันพันละน้อยในช่วงระหว่างการเดินทาง ซึ่งจะได้สัมผัสกับเส้นทางของประเทศที่จัดว่าเป็นแหล่งผลิตไวน์และดงไร่องุ่น เส้นทางชมไวน์ในเยอรมัน (German Wine Route)
นักปั่นจักรยานจะได้ปั่นผ่านแหล่งผลิตไวน์ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในเยอรมนี ที่มีไร่องุ่นเขียวชอุ่ม บนทางลาดขั้นบันไดระหว่างเชิงเขาของป่า Palatinate และที่ราบไรน์แลนด์ (Rhinland Plain) ที่นี่มีโรงบ่มไวน์มากมายที่ไม่เพียงมีไวน์ให้เลือกชิมหลากหลายสายพันธ์ นักปั่นสามารถแวะชิมไวน์ชื่อดัง เช่น ไวน์ Rieslings, Pinot Blancs และ Dornfelders ซึ่งไม่ใช่แค่ได้สัมผัสรสไวน์ แต่สิ่งเหล่านี้บ่งบอกถึงรูปแบบการใช้ชีวิต
สำหรับผู้ที่กำลังมองหาทางเลือกอื่นเส้นทาง Moselle Cycle Route หนึ่งในเส้นทางปั่นเทรลที่มีชื่อเสียง เป็นเส้นทางที่ตัดผ่านเทือกเขาโวฌ (Vosges) ทางตอนใต้ของฝรั่งเศสและหุบเขาอันแสนโรแมนติกและแหล่งผลิตไวน์
เส้นทางปั่นจักรยาน Middle Moselle เป็นเส้นทางคดเคี้ยวผ่านเขตมรดกโลกจากยูเนสโก คือ พื้นที่สงวนพันธ์พืชและสัตว์ Bliesgau หรือที่เรียกว่าทัสคานีแห่งซาร์ลันด์ที่มีวัฒนธรรมการทำอาหารที่หลากหลาย นักท่องเที่ยวสามารถลองขับรถเสมือนจริง 360 ° ซึ่งจะได้สัมผัสประสบการณ์การปั่นผ่านทางโค้งของเส้นทาง Moselle จากโคเบล็นทซ์ ไปยังฝรั่งเศส
ย้อนประวัติศาสตร์อันมหัศจรรย์ของเยอรมัน
ผู้ที่ชื่นชอบประวัติศาสตร์สามารถเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวและฟังเสียงธรรมชาติ ต้องไม่พลาดกับ เส้นทางปั่นรอบอนุภูมิภาคอัลกอย (Allgäu) เป็นเส้นทางปั่นระยะทาง 219 กิโลเมตร นักปั่นจะได้สัมผัสกับความงดงามทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม ดื่มด่ำกับสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองเก่าอย่างฟีสเซิน (Füssen)
นอกจากนี้เส้นทางนี้ยังผ่านปราสาทโฮเอินชวังเกา (Hohenschwangau) พร้อมทิวทัศน์อันงดงามของยอดเขาอัลไพน์ พระราชวังและพิพิธภัณฑ์ลูทวิซ ที่ 2 (Ludwig II) - ราชาแห่งเทพนิยาย รวมถึงผ่านเชิงเขาของเทือกเขาแอลป์อันยิ่งใหญ่ ซึ่งมีปราสาทพระราชวังและอารามมากมายให้เยี่ยมชม เช่น ปราสาทฟอลเคนซไตน์ (Falkenstein) โบสถ์การจาริกแสวงบุญแห่งวีส (church of Wies) อันเป็นมรดกโลกขององค์การยูเนสโก และแหล่งผลิตเบียร์อันมีชื่อสียง Kaltentaler Brauhaus
เส้นทางเดินป่าที่สวยงาม
สำหรับนักท่องเที่ยวที่ไม่ชอบขี่จักรยาน สามารถท่องเที่ยวเดินป่า ที่เยอรมันมีกิจกรรมท่องเที่ยวให้เลือกมากมาย เช่น กีฬา การพักผ่อนหย่อนใจ เดินป่ากับครอบครัวและเพื่อนๆ และเส้นทางสายวัฒนธรรม
ประเทศเยอรมนี มีเส้นทางเดินป่าถึง 50 เส้นทาง และเครือข่ายเส้นทางระยะทาง 200,000 กิโลเมตรที่เต็มไปด้วยภูมิประเทศที่สวยงามที่สุด การเดินเท้าสัมผัสประสบการณ์สถานที่ท่องเที่ยวและธรรมชาติต่าง ๆ เช่น อุทยานแห่งชาติที่บันทึกเป็นมรดกโลกจากยูเนสโก้ซึ่งเป็นพื้นที่อนุรักษ์พันธ์พืชและสัตว์ พร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับนักท่องเที่ยว
และสำหรับโปรแกรมการเดินป่าแบบหนึ่งวันบนเส้นทาง 66 เลคเทรค (66 Lakes Trail) ซึ่งอยู่นอกกรุงเบอร์ลินหนึ่งชั่วโมง เป็นเส้นทางที่ชมทะเลสาบ ลำธาร แม่น้ำ และหนองน้ำจำนวนมาก นักท่องเที่ยวจะได้ตื่นตาตื่นใจไปกับอนุสรณ์สถานทางประวัติศาสตร์ เช่น พระราชวังซ็อคซูซี (Sanssouci) และพระราชวัง Cecilienhof
นอกเหนือจากพื้นที่ริมน้ำอันงดงามแล้วเส้นทางเทรล Heidschnuckenweg เป็นเส้นทางผ่านทุ่งดอกไลแลคอันงดงามและมีฝูงแกะ Heidschnucke ซึ่งเป็นแหล่งผลิตพรมทำขนสัตว์ และเนื้อแสนอร่อยที่มีชื่อเสียงในภูมิภาคนี้
ขณะที่เส้นทาง วิถีจิตรกร (The Painters’ Way) ได้รับการขนานนามว่าเป็นเส้นทางเดินป่าที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของเยอรมนี
เส้นทางนี้ผสมผสานการเดินป่าแนวโรแมนติกในเทือกเขา Elbe Sandstone กับภูมิประเทศที่มีเสน่ห์อันเป็นแรงบันดาลใจให้กับจิตรกรยุคโรแมนติก เช่น Caspar David Friedrich ความสวยงามประดุจภาพวาดดังกล่าว ทำให้ภาพยนตร์ฮอลลีวูดหลายเรื่องใช้ที่แห่งนี้เป็นสถานที่ถ่ายทำ เช่น อภินิหารตำนานแห่งนาร์เนีย (The Chronicles of Narnia) และคดีพิสดารโรงแรมแกรนด์บูดาเปสต์ (The Grand Budapest Hotel)
อย่างไรก็ดี หากนักเดินทาง ชอบเส้นทางสบายๆ สายชิล แนะนำให้เลือกมาเทรลที่ Goldsteig Trail เส้นทางคลาสสิกของบาวาเรีย ซึ่งตั้งชื่อตามเกลือในสมัยก่อนว่ามีค่าดุจทองคำ หรือ “ทองคำขาว” แต่ปัจจุบัน บาวาเรียมีชื่อเสียงมากขึ้นในเรื่องเบียร์บาวาเรีย หรือน้ำหวานสีเหลืองอำพันซึ่งเข้ากันได้ดีกับอาหารรสเลิศของที่นี่
นอกจากนี้ประเทศเยอรมนี ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายให้นักท่องเที่ยวได้ค้นหา ทั้งการเที่ยวธรรมชาติ ในป่าอัลไพน์และสถานที่ทางเที่ยวเชิงวัฒนธรรม นับเป็นอีกหนึ่งเสน่ห์ของเมืองเบียร์ ที่วันนี้ได้เตรียมพร้อมเพื่อเปิดรับนักท่องเที่ยว ชวนคนเที่ยวผ่านแคมเปญ “ฝันไว้ก่อนค่อยเที่ยวทีหลัง” #DreamNowVisitLater ซึ่งน่าสนใจไม่น้อยเลย