สถาบันโรเบิร์ต ค็อก (RKI) ซึ่งเป็นหน่วยงานด้านการควบคุมและป้องกันโรคของเยอรมนี รายงานยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้นมากกว่า 11,200 คนในรอบ 24 ชั่วโมงวันนี้ (22 ต.ค.) ถือเป็นครั้งแรกที่ยอดผู้ป่วยรายวันทะลุหลักหมื่นนับตั้งแต่ไวรัสเริ่มแพร่ระบาด
RKI ยืนยันตัวเลขผู้ติดเชื้อรายวันอยู่ที่ 11,287 คน ซึ่งทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมเพิ่มขึ้นไปอยู่ที่ 392,049 คน และมีผู้ป่วยเสียชีวิตเพิ่มอีก 30 คน รวมเป็น 9,905 คน
เยอรมนีกำลังเผชิญกับการแพร่ระบาดระลอกสองของโควิด-19 และสถานการณ์เข้าขั้นน่าเป็นห่วง โดยสถิติผู้ป่วยรายวันสูงสุดก่อนหน้านี้อยู่ที่ 7,830 คนเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (17)
แม้อัตราการติดเชื้อในเยอรมนีจะยังต่ำกว่าหลายๆ ประเทศในยุโรป แต่ก็มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วตามสภาพอากาศที่หนาวเย็นลง ขณะที่นักการเมืองเริ่มส่งเสียงเตือนรัฐบาลว่าอาจจำเป็นต้องใช้มาตรการคุมเข้ม หากสถานการณ์ยังเป็นเช่นนี้ต่อไป
อัตราการติดเชื้อในเยอรมนีอยู่ที่ 50 คนเศษต่อประชากร 100,000 คนตลอดช่วง 7 วันที่ผ่านมา และตัวเลขในขณะนี้ขยับขึ้นมาอยู่ที่ 51.1 ต่อประชากร 100,000 คน ตามข้อมูลของ RKI
ล่าสุด เยนส์ สปาห์น รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขเยอรมนี มีผลตรวจโควิด-19 เป็นบวกเมื่อวานนี้ (21) โดยทางกระทรวงระบุว่า สปาห์น วัย 40 ปี ได้เข้าสู่กระบวนการกักตัวทันที และจนถึงขณะนี้ยังมีอาการ “คล้ายเป็นไข้หวัดธรรมดา” เท่านั้น
ทางการเยอรมนีเริ่มนำมาตรการควบคุมบางอย่างมาใช้ เช่น ห้ามจัดกิจกรรมรวมคนจำนวนมาก ส่วนที่กรุงเบอร์ลินมีกฎให้ประชาชนต้องสวมหน้ากากอนามัยบนถนนบางสายที่มีคนพลุกพล่าน
เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (17) นายกรัฐมนตรี อังเกลา แมร์เคิล ออกมาเรียกร้องให้พลเมืองลดการพบปะสังสรรค์ และเก็บตัวอยู่บ้านให้มากที่สุด
“ฤดูหนาวนี้จะเป็นอย่างไร และคริสต์มาสของพวกเราจะออกมาในรูปไหน ก็ต้องขึ้นอยู่กับสถานการณ์ในอีกหลายวันและหลายสัปดาห์ที่กำลังจะมาถึง” แมร์เคิล ระบุ
ที่มา : รอยเตอร์, เอเอฟพี, DW
