รัฐต่างๆ ของเยอรมนีตกลงขยายมาตรการยับยั้งการแพร่ระบาดของโควิด-19 ให้ครอบคลุมภาคส่วนต่างๆ มากยิ่งขึ้นหลังจากจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ยังคงเพิ่มไม่หยุด ขณะที่นายกรัฐมนตรี อังเกลา แมร์เคิล เตือนว่าอาจจำเป็นต้องนำมาตรการที่เข้มงวดยิ่งขึ้นมาใช้
“สิ่งที่เราจะทำในอีกหลายวันและหลายสัปดาห์ข้างหน้าจะเป็นตัวตัดสินว่าเราจะก้าวผ่านวิกฤตโรคระบาดนี้ไปได้อย่างไร” แมร์เคิล แถลงต่อสื่อมวลชนหลังประชุมร่วมกับผู้นำรัฐทั้ง 16 รัฐ พร้อมย้ำถึงเป้าหมายในการปกป้องเศรษฐกิจ
ภายใต้ข้อตกลงวานนี้ (14) คำสั่งปิดบาร์ช่วงกลางดึกและจำกัดการรวมกลุ่มทำกิจกรรมส่วนตัวจะถูกนำมาใช้ หากมีรายงานผู้ติดเชื้อใหม่ 35 คนต่อประชากร 100,000 คนในช่วงเวลา 7 วัน จากเดิมที่กำหนดเพดานสูงสุดเอาไว้ถึง 50 คน
หากใช้มาตรการดังกล่าวแล้วยังไม่สามารถชะลอการแพร่เชื้อลงได้ ก็จะมีมาตรการในขั้นต่อๆ ไปเพื่อหลีกเลี่ยงการล็อกดาวน์เต็มรูปแบบซึ่งจะส่งผลกระทบรุนแรงต่อเศรษฐกิจ
นายกฯ แมร์เคิล ยังเรียกร้องให้คนหนุ่มสาวมีส่วนร่วมในการต่อสู้โควิด-19 หลังพบว่าการจัดปาร์ตีสังสรรค์ได้กลายเป็นสาเหตุทำให้ไวรัสแพร่ระบาดในท้องถิ่นตามเมืองต่างๆ ของเยอรมนี
“เราจำเป็นต้องขอร้อง โดยเฉพาะกับคนหนุ่มสาว ให้งดการสังสรรค์ก่อนในวันนี้ เพื่อชีวิตที่ดีกว่าในวันพรุ่งนี้และวันต่อๆ ไป”
มาร์คุส โซเดอร์ ผู้ว่าการรัฐบาวาเรีย กล่าวสนับสนุนคำพูดของผู้นำหญิงเมืองเบียร์ และเรียกร้องให้ประชาชนยึดแนวทาง “สวมหน้ากาก, ลดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และปาร์ตีให้น้อยลง”
แมร์เคิล ย้ำว่ารัฐบาลจะประเมินผลลัพธ์ของมาตรการควบคุมโรคอย่างต่อเนื่อง และอาจจำเป็นต้องมีคำสั่งอื่นๆ เพิ่มเติมในอนาคต
เยอรมนีมีรายงานผู้ติดเชื้อใหม่เพิ่มขึ้น 6,638 รายในรอบ 24 ชั่วโมงวันนี้ (15) ซึ่งเป็นสถิติรายวันสูงสุดนับตั้งแต่มีการแพร่ระบาด ขณะที่ยอดผู้ป่วยสะสมพุ่งสูงกว่า 344,000 ราย
ที่มา: รอยเตอร์