ในสายตาของคนไทยส่วนใหญ่ ประเทศ “สิงคโปร์” เป็นเมืองแห่งความทันสมัย เต็มไปด้วยตึกระฟ้า แหล่งช้อปปิ้ง และแสงสีความบันเทิงยามราตรี
แต่กระนั้นสิงคโปร์ก็มีหลายมุมที่เต็มไปด้วยสีเขียวของแมกไม้ ซึ่งทางเมืองลอดช่องไม่เพียงอนุรักษ์แหล่งทรัพยากรธรรมชาติอันสวยงามไว้เท่านั้น แต่ยังออกแบบผังเมืองและสถานที่ต่าง ๆ ให้ธรรมชาติเข้ามาอยู่ในชีวิตประจำวันของผู้คนของผู้คนอย่างกลมกลืน
ด้วยเหตุนี้การท่องเที่ยวสิงคโปร์ จึงคัดสรร 10 พื้นที่สีเขียว อันโดดเด่นของเมืองลอดช่องมานำเสนอ ซึ่งจะมีที่ไหนบ้าง ขอเชิญทัศนากันได้
1.Fort Canning Park
สวนสาธารณะฟอร์ทแคนนิง (Fort Canning Park) สวนสวยขนาด 18 เฮคเตอร์บนเนินเขาใจกลางสิงคโปร์ ที่มีไฮไลต์เด็ดอยู่ที่อุโมงค์ต้นไม้ จุดถ่ายรูปสุดฮิตของเหล่าฮิปสเตอร์
ในอดีตฟอร์ทแคนนิง เคยเป็นป้อมปราการและหอสั่งการณ์ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ปัจจุบันที่นี่จึงมีทั้งที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์สงคราม และ The Battle Box mujเป็นแหล่งวิจัยพรรณพืช เป็นสถานที่จัดคอนเสิร์ตและงานแสดงกลางแจ้ง
2.Hort Park
สำหรับคนรักต้นไม้ สวนสาธารณะฮอร์ทพาร์ค (Hort Park) คือแหล่งเรียนรู้และสันทนาการชั้นเยี่ยม เพราะความพิเศษของที่นี่คือเป็นสวนที่เปิดให้ประชาชนมาเช่าพื้นที่เพื่อทำการเกษตร ซึ่งได้รับความสนใจอย่างล้นหลาม มีคนเช่าเต็มทุกแปลง
ที่ฮอร์ทพาร์คเราจะได้เห็นทั้งไม้ดอกไม้ประดับในสวนสาธารณะ และพืชผลในแปลงเกษตร ไม่ว่าจะเป็นข้าวโพด มะเขือยาว หรือผลไม้ประเภทต่าง ๆ
นอกจากนี้ฮอร์ทพาร์คยังมีการจัดงานเกษตรเกือบตลอดทั้งปี รวมถึงเป็นสถานที่จัดกิจกรรมสันทนาการ และพักผ่อนหย่อนใจสำหรับคนทุกเพศทุกวัย
3.Punggol Park
ปังโกล (Punggol) เป็นย่านที่อยู่อาศัยใหม่ที่ไม่ค่อยพลุกพล่าน ที่นี่มี “สวนสาธารณะปังโกล” (Punggol Park) ที่แบ่งออกเป็น 2 โซนหลัก ได้แก่ "Southern Active Zone" สำหรับทำกิจกรรมสันทนาการต่าง ๆ และ "Passive Zone" ซึ่งเป็นพื้นที่ป่าอันร่มรื่นเขียวขจี
นอกจากนี้ปังโกลพาร์คยังมีทะเลสาบ และเส้นทางปั่นจักรยานเลาะเลียบไปกับสายน้ำ ยาว 4.2 กิโลเมตร ที่นี่จึงเป็นสถานที่ยอดฮิตสำหรับการมาเดินเล่นและปั่นจักรยาน เพลิดเพลินไปกับการชมวิวริมน้ำ อีกทั้งยังสามารถมาปิกนิกและตกปลาในทะเลสาบได้ด้วย
4.Marina Barrage
เขื่อนมารีน่า บาร์ราจ (Marina Barrage) ตั้งอยู่บริเวณช่องแคบมารีน่าซึ่งเป็นจุดบรรจบกันของเส้นทางน้ำถึง 5 สาย ถือเป็นอ่างกักเก็บน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดในสิงคโปร์ และยังมีหน้าที่สำคัญในการบรรเทาปัญหาน้ำท่วมอีกด้วย
นอกจากนี้ มารีน่า บาร์ราจยังเป็นสถานที่อเนกประสงค์ที่มีทั้งสวนโซลาร์ พาร์ค (Solar Park) ที่มีแผงโซลาร์เซลล์รับพลังงานแสงอาทิตย์กว่า 400 แผง พิพิธภัณฑ์ให้ความรู้การจัดการน้ำ ศูนย์กิจกรรมทางน้ำ เช่น การพายเรือคายัก หรือการแข่งเรือมังกร
รวมถึงมีสวนลอยฟ้าที่เป็นสนามหญ้าขนาดใหญ่อยู่บนชั้นลอยที่ทุกคนสามารถมานั่งเล่นพักผ่อนพร้อมชมวิวสถานที่สำคัญรอบอ่าวมารีน่าเบย์ ไม่ว่าจะเป็น Gardens By the Bay, Marina Bay Sands, และ Singapore Flyer
5.Mount Faber
เมาท์เฟเบอร์ พาร์ค (Mount Faber Park) ยอดเขาขนาดเล็กที่มีความสูงเพียง 100 เมตรเท่านั้น แต่บนนี้เป็นที่ตั้งของ “สวนสาธารณะเฟเบอร์ พอยท์” (Faber Point) หนึ่งในสวนที่เก่าแก่ที่สุดของสิงคโปร์และยังเป็นจุดชมวิวสำคัญที่สามารถมองเห็นทั้งตัวเมืองสิงคโปร์ เกาะเซ็นโตซ่า และท้องทะเลอันงดงาม
เมาท์เฟเบอร์มีระบบนิเวศแบบป่าฝนทุติยภูมิ ซึ่งพืชพรรณบนเนินเขาแห่งนี้นั้นไม่เพียงสร้างความสดชื่นสบายตาให้กับผู้มาเยือนเท่านั้น แต่ยังช่วยรักษาสภาพภูมิประเทศอีกด้วย
6.Pulau Ubin
นอกจากเซ็นโตซ่าแล้ว สิงคโปร์ยังมีเกาะเล็กเกาะน้อยอีกมากมาย หนึ่งในนั้นคือเกาะปูเลาอูบิน (Pulau Ubin) แหล่งธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดและอุดมสมบูรณ์ที่สุดในสิงคโปร์
ในอดีตที่นี่เคยเป็นเหมืองหินแกรนิตจึงมีประชากรอาศัยอยู่ไม่กี่ครัวเรือน หากต้องการมาเยี่ยมเยือนที่นี่ต้องเดินทางมาด้วยเรือเท่านั้น
ปัจจุบันเกาะแห่งนี้เป็นถิ่นที่อยู่ของพันธุ์ไม้หายากและสัตว์ที่ใกล้สูญพันธุ์หลายชนิด โดยเฉพาะนกที่ใกล้สูญพันธุ์ ที่นี่จึงเป็นสถานที่โปรดของบรรดาผู้รักธรรมชาติที่ต้องการมาพักผ่อน หรือเที่ยวชมแบบไปเช้าเย็นกลับ
7.National Orchid Garden
บางคนอาจจะยังไม่รู้ว่าประเทศเล็ก ๆ อย่างสิงคโปร์มีมรดกโลกอยู่ด้วย นั่นคือสวนพฤกษศาตร์ Singapore Botanic Gardens ที่รับการยกย่องเป็น UNESCO World Heritage
ใจกลางสวนพฤกษศาสตร์ขนาด 60 เอเคอร์แห่งนี้คือสถานที่ตั้งของ “สวนกล้วยไม้แห่งชาติ” (National Orchid Garden) สถานที่จัดแสดงกล้วยไม้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีกล้วยไม้กว่า 60,000 ต้น และกว่า 3,000 สายพันธุ์ รวมถึงพันธุ์พิเศษที่ได้รับการตั้งชื่อตามบุคคลสำคัญของโลก
8.Gardens by the Bay
หากกล่าวถึงพื้นที่สีเขียวของสิงคโปร์ คงขาดที่นี่ไปไม่ได้ การ์เด้นส์ บาย เดอะ เบย์ (Gardens by the Bay) หนึ่งในสัญลักษณ์สำคัญของเมืองลอดช่อง ที่เต็มไปด้วยพรรณไม้ใหญ่น้อยนานาพันธุ์ เหมือนจำลองป่าขนาดย่อมซึ่งรวมความหลากหลายทางชีวภาพเอาไว้
พื้นที่แห่งนี้จึงเป็นดังดินแดนแห่งพฤกษชาติที่ผู้มาเยือนจะได้รับทั้งความตื่นตาตื่นใจ และความผ่อนคลายในเวลาเดียวกัน โดยภายในจะแบ่งเป็นโซนต่าง ๆ เช่น Flower Dome, Cloud Forest และ Supertree Grove & OCBC Skyway ซึ่งจะมีการแสดงแสงสีเสียง Garden Rhapsody เป็นประจำทุกคืน
9.PARKROYAL COLLECTION Pickering
พาร์ครอยัล คอลเลกชั่น พิคเคอร์ริ่ง (PARKROYAL COLLECTION Pickering) โรงแรมหรูซึ่งตั้งอยู่ในย่านศูนย์ธุรกิจใจกลางเมือง ซึ่งได้รับการเรียกขานว่า “โรงแรมในสวน”
โรงแรมแห่งนี้ เป็นสถานที่ที่อาคารและสวนผสมผสานเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน โดยมีไฮไลท์คือ สวนลอยฟ้าขนาดใหญ่ครอบคลุมพื้นที่กว่า 15,000 ตร.ม. ถูกจัดเรียงเป็นทิวทัศน์หุบเขาและน้ำตก เต็มไปด้วยพืชเขตร้อน อย่างต้นลีลาวดีและต้นปาล์ม
ที่สำคัญโรงแรมแห่งนี้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม มีทั้งระบบไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ และการกักเก็บน้ำฝนเพื่อประหยัดน้ำ ถือเป็นสวนลอยฟ้าแห่งแรกที่มีการใช้พลังงานเท่ากับศูนย์ (Zero Energy) ในการดูแล
10.Kampung Admiralty
โครงการอาคารบ้านพักคนชราของรัฐบาลสิงคโปร์ที่สมบูรณ์แบบที่สุด กัมปง แอดมิรัลตี้ (Kampung Admiralty) เป็นต้นแบบอาคารสำหรับผู้สูงอายุแห่งแรก (First Retirement Village) ของสิงคโปร์
โครงการนี้ตอบรับต่อรูปแบบเมืองแห่งอนาคตที่นำสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งหลายมาซ้อนอยู่ในที่เดียวกันเหมือนแซนด์วิช ตั้งแต่ลานกิจกรรมด้านล่าง สถานพยาบาลตรงกลาง และโซนที่อยู่อาศัย เป็นสังคมในรูปแบบแนวตั้งที่ออกแบบโดยคำนึงถึงประสิทธิภาพในการใช้พื้นที่สูงสุด
นอกจากนี้ยังประกอบไปด้วยพื้นที่สีเขียวให้ผู้อยู่อาศัยได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติ โดยเฉพาะบริเวณชั้น 8 ซึ่งเป็น “ปอด” ของอาคาร สวนหย่อมบนชั้นนี้มีการปลูกต้นไม้นานาพรรณเล่นระดับลดหลั่นกันคล้ายภูเขาขนาดเล็ก และยังมีการออกแบบ Universal Design ที่คำนึงถึงผู้สูงอายุ โดยมีทั้งทางลาดสำหรับรถเข็นและจุดนั่งพักขาตลอดทางเดิน
และนี่ก็คือ 10 พื้นที่สีเขียวสุดฟิน ชวนเช็คอินท่ามกลางอ้อมกอดของธรรมชาติ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งมุมมองใหม่ในสิงคโปร์ที่แสดงให้เห็นว่า ธรรมชาติและมนุษย์อยู่ร่วมกันได้อย่างลงตัว