xs
xsm
sm
md
lg

ไหว้ “ไอ้ไข่” สิ่งศักดิ์สิทธิ์สุดดังแห่งยุค ในเส้นทางทัวร์สายมู จ.“นครศรีธรรมราช”

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร ศูนย์รวมจิตใจของชาวนครศรีฯ
ท่ามกลางกระแสของ “ไอ้ไข่” วัดเจดีย์ จ.นครศรีธรรมราช ถือเป็นอีกหนึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่กำลังอยู่ในความสนใจของประชาชนที่โด่งดังแบบฉุดไม่อยู่ ต่างแห่กันหลั่งไหลไปกราบไหว้ขอพร วันนี้จึงได้รวบรวม “5 สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ กับ 1 ของขลัง” ที่เคารพนับถือของชาวนครศรีธรรมราชมาให้รู้จักกัน

บริเวณโดยรอบวัดเจดีย์ จ.นครศรีธรรมราช
“ไอ้ไข่” ขอได้ ไหว้รับ ณ วัดเจดีย์
“ไอ้ไข่” เป็นหนึ่งในสิ่งศักดิ์สิทธิ์ชื่อดังของจังหวัดนครศรีธรรมราช (บางคนเรียกว่า “ตาไข่” แทนคำว่า “ไอ้” เพื่อแสดงความเคารพ) เชื่อกันว่าเป็นวิญญาณเด็กศักดิ์สิทธิ์แห่งวัดเจดีย์(ลูกศิษย์วัดเจดีย์) ที่สามารถมากราบไหว้ขอพรจากท่านได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น ขอเรื่องโชคลาภ ขอให้ร่ำให้รวย ขอให้ค้าขายได้กำไรดีเงินทองไหลมาเทมา ฯลฯ จนมีคนตั้งฉายาให้ว่า “ไอ้ไข่ ขอได้-ไหว้รับ”

รูปปั้นไอ้ไข่วัดเจดีย์ จ.นครศรีธรรมราช
ในแต่ละวันจะมีผู้คนหลั่งไหลกันมากราบไหว้ขอพรไอ้ไข่กันไม่ได้ขาด ใครที่ขอพรประสบความสำเร็จสมหวัง ก็จะนำสิ่งของต่างๆหลากหลายมาแก้บนกันตามความเชื่อ ไม่ว่าจะเป็น ชุดเสื้อผ้าของเด็ก ชุดทหารของเด็ก ตุ๊กตาทหาร ขนม น้ำแดง ไข่ต้ม รวมไปถึงการแก้บนด้วยการจุดประทัดแก้บนในบริเวณวัด ซึ่งชื่อเสียงความศักดิ์สิทธิ์อันโด่งดังของไอ้ไข่นั้น วัดได้จากปริมาณปลอกกระดาษและซากประทัดของผู้มาจุดแก้บนที่มีจำนวนมหาศาลจนกองสูงเป็นภูเขาประทัดเลยทีเดียว

อีกหนึ่งสิ่งที่คนนิยมนำมาแก้บนที่นี่กันเป็นจำนวนมากก็คือรูปปั้น “ไก่ชน” (เชื่อว่าไอ้ไข่ชอบเลี้ยงไก่) ที่มีหลากหลายขนาดตั้งแต่ตัวเล็ก กลาง ย่อม ใหญ่ ไปจนถึงไซส์ยักษ์ ตัวสูงใหญ่สูงถึง 2 เมตรเลยทีเดียว

พระบรมธาตุเมืองนคร พระเจดีย์ขนาดใหญ่ที่สุดในภาคใต้
วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร
“วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร” ตั้งอยู่ที่ ถ.ราชดำเนิน ต.ในเมือง อ.เมือง เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวนครศรีธรรมราช และเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์สำคัญของพุทธศาสนิกชน ซึ่งผู้มาเยือนเมืองนครศรีไม่ควรพลาดการไปกราบสักการะด้วยประการทั้งปวง ตามตำนานเล่าว่า พระบรมธาตุเมืองนครสร้างขึ้นครั้งแรกประมาณ ปี พ.ศ. 854 ภายในบรรจุพระทันตธาตุ(ส่วนฟันของพระพุทธเจ้า)ดั้งเดิมเป็นศิลปะแบบศรีวิชัย ต่อมาในปี พ.ศ.1093 พระเจ้าศรีธรรมาโศกราชได้สร้างเมืองนครศรีธรรมราชขึ้น พร้อมกับสร้างเจดีย์องค์ใหม่ทรงศาญจิครอบพระบรมธาตุองค์เดิม จากนั้น พ.ศ.1770 มีพระภิกษุจากลังกามาบูรณะองค์พระบรมธาตุให้เป็นแบบทรงลังกาหรือทรงโอคว่ำดังที่เห็นในปัจจุบัน มีความสูง 55.78 เมตร องค์ระฆังสูง 9.80 เมตร มีปล้องไฉน 52 ปล้อง ถือเป็นพระเจดีย์ขนาดใหญ่ที่สุดในภาคใต้ และเป็นเจดีย์ทรงระฆังขนาดใหญ่องค์แรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ภายในในวิหารพระม้าที่เป็นบันไดทางขึ้นสู่องค์พระบรมธาตุ ด้านซ้าย-ขวา มีรูปปั้นของเทพผู้พิทักษ์คือ ท้าวจตุคาม-รามเทพ ประดิษฐานอยู่ขนาบข้างประตูทางเข้า-ออก องค์พระธาตุ ท้าวจตุคาม-รามเทพ เป็นเทพที่เชื่อว่าคือท้าวจตุคามรามเทพ อันลือลั่นแห่งเมืองนคร นอกจากเทพทั้งสองแล้วที่นี่ยังมีผู้พิทักษ์อื่นๆ อาทิ ท้าวจตุโลกบาล นาค ครุฑ สิงห์ เป็นต้น

ศาลหลักเมืองจังหวัดนครศรีธรรมราช
ศาลหลักเมืองนครศรีธรรมราช
หากใครได้ไปเยือนนครศรีธรรมราชจะต้องไม่พลาดที่ “ศาลหลักเมืองนครศรีธรรมราช” ไปกราบสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านเมืองนครฯ เพื่อความเป็นสิริมงคล ภายในมีความงดงามเป็นอย่างมาก ประกอบไปด้วยอาคาร 5 หลัง หลังกลางเป็นที่ประดิษฐานหลักเมืองออกแบบให้มีลักษณะคล้ายศิลปะศรีวิชัย เรียกว่าทรงเหมราชลีลา ส่วนอาคารเล็กทั้งสี่หลังถือเป็นศาลบริวารสี่ทิศ เรียกว่าศาลจตุโลกเทพ ประกอบด้วยพระเสื้อเมือง พระทรงเมือง พระพรหมเมือง และพระบันดาลเมือง

ภายในศาลหลักเมืองนครศรีธรรมราช
เมื่อเดินเข้ามายังอาคารหลังกลาง จะได้พบกับองค์เสาหลักเมืองที่ทำด้วยไม้ตะเคียนทองแกะสลักลวดลายอย่างงดงามตั้งแต่ฐาน เป็นวงรอบเก้าชั้น มี 9 ลาย ส่วนบนของเสาเป็นรูปจตุคามรามเทพ (สี่พักตร์) หรือเทวดารักษาเมือง เหนือสุดเป็นเปลวเพลิงอยู่บนยอดพระเกตุ คือยอดชัยหลัก

วัดพระธาตุน้อย อ.ช้างกลาง
วัดพระธาตุน้อย
เมืองนครศรีฯ ยังมีพระเกจิอาจารย์ขึ้นชื่ออยู่หลายองค์ด้วยกัน โดยเฉพาะ “พ่อท่านคล้าย” แห่ง “วัดพระธาตุน้อย” อ.ช้างกลาง พระเกจิชื่อดัง สรีระไม่เน่าเปื่อย ซึ่งเป็นที่เคารพนับถือศรัทธาของพุทธศาสนิกชนทั่วไปเป็นจำนวนมาก “พ่อท่านคล้าย” หรือ “พระครูพิศิษฐ์อรรถการ” หรือที่รู้จักกันดีในฉายา “พ่อท่านคล้าย วาจาสิทธิ์” เนื่องจากท่านเป็นที่เลื่องลือว่า หากพ่อท่านคล้ายท่านพูดสิ่งใดก็จะเป็นไปตามนั้น

พ่อท่านคล้าย เกิดเมื่อปี 2417 หรือในสมัยรัชกาลที่ 5 เป็นชาวนครศรีธรรมราชแต่กำเนิด ท่านได้บรรพชาเป็นสามเณรตั้งแต่อายุ 16 ปี จากนั้นอุปสมบทเป็นพระเมื่ออายุ 20 ปี และไม่ได้สึกอีกเลยตราบจนมรณภาพในปี 2513 เมื่ออายุได้ 96 พรรษา

สรีระของพ่อท่านคล้าย
พ่อท่านคล้ายเป็นเจ้าอาวาสวัดพระธาตุน้อยเมื่อปี 2500 ซึ่งพ่อท่านกับชาวบ้านได้ร่วมกันสร้างพระธาตุเจดีย์ประจำวัดขึ้นเพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ เป็นเจดีย์ที่จำลองแบบมาจากองค์พระบรมธาตุเมืองนคร ภายหลังจากพ่อท่านคล้ายมรณภาพ ทางวัดพระธาตุน้อยได้นำสรีระของพ่อท่านที่ไม่เน่าเปื่อยสลายบรรจุไว้ที่ฐานเจดีย์ เพื่อให้ผู้ที่มีจิตศรัทธาได้มากราบไหว้ระลึกถึงท่านตราบจนทุกวันนี้

หอพระนารายณ์
หอพระนารายณ์-หอพระอิศวร
หากใครผ่านบริเวณ ถ.ราชดำเนิน จะมองเห็น “หอพระนารายณ์” เป็นโบราณสถานในศาสนาพราหมณ์ ภายในหอพระนารายณ์ มีเทวรูปพระนารายณ์สลักจากหินทรายสีเทา ทรงมาลารูปกระบอกปลายสอบและพระหัตถ์ขวาทรงสังข์ อายุราวพุทธศตวรรษที่ 10 - 11 นับเป็นเทวรูปที่เก่าแก่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่ปัจจุบันได้เก็บรักษาไว้ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาตินครศรีธรรมราช

หอพระอิศวร
ด้านฝั่งตรงข้ามกันเป็นที่ตั้งของ “หอพระอิศวร” เป็นอีกหนึ่งโบราณสถานในศาสนาพราหมณ์ลัทธิไศวนิกาย ภายในหอพระอิศวรเป็นที่ประดิษฐานศิวลึงค์ ซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์ของพระอิศวรและฐานโยนิ รวมทั้งเทวรูปสำริดอีกหลายองค์ อาทิ พระอุมา พระพิฆเนศ เทวรูปศิวนาฎราช ซึ่งจำลองมาจากองค์จริงที่เก็บรักษาไว้ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาตินครศรีธรรมราช

ด้านนอกของหอพระอิศวร ยังเป็นที่ตั้งของเสาชิงช้า ซึ่งถูกสร้างขึ้นมาใหม่แทนของเก่า ที่ใช้ในพิธีตรียัมปวายและตรีปวายของพราหมณ์ เมืองนครศรีธรรมราช โดยเสาชิงช้านี้มีรูปแบบเหมือนเสาชิงช้าที่กรุงเทพฯ เป็นการจำลองแบบมา แต่ว่ามีขนาดเล็กกว่า

แหวน สร้อย กำไลหัวนะโม
“หัวนะโม” ของขลังของชาวนครศรีฯ
นอกจากสถานที่ที่มีความศักดิ์สิทธิ์และเป็นที่เคารพศรัทธาของชาวนครศรีธรรมราชแล้ว ยังมีอีกหนึ่งเครื่องรางของขลังที่คนนครฯ รู้จักกันดี นั่นคือ “หัวนะโม” โดยมีความเป็นมาที่ยาวนานนับกว่า 700 ปีมาแล้ว ต่างก็รู้จักและมีไว้เป็นของมงคลประจำตัว โดยเชื่อกันว่ามีพุทธคุณครอบจักรวาล คือทั้งด้านเมตตามหานิยม โชคลาภ และป้องกันภัยแคล้วคลาด เป็นของดีที่คนนครฯ นิยมมีไว้ติดตัว โดยแต่เดิมรูปแบบของหัวนะโมจะเป็นเม็ดเงินกลม แต่ภายหลังได้ปรับเปลี่ยนรูปแบบมาเป็นแหวน สร้อยคอ สร้อยข้อมือ ต่างหู ให้สวมใส่ง่ายและสวยงาม โดยร้านเครื่องถมเมืองนครฯ ต่างก็ออกแบบเครื่องประดับให้หัวนะโมมีความโดดเด่นและมีลวดลายประกอบเครื่องประดับให้สวยงามมากยิ่งขึ้น

หัวนะโมแบบโบราณเป็นเม็ดเงินกลม


สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Youtube :Travel MGR


กำลังโหลดความคิดเห็น