ช่วงฤดูฝนราวเดือนกรกฎา-สิงหาคม เป็นต้นมา ชาวนาในหลายๆ พื้นที่ได้เริ่มหว่านดำข้าวกล้าในนาอันเป็นวัฏจักรตามปกติของเกษตรกร จวบจนใกล้จะเข้าสู่เดือนกันยายน ต้นข้าวเหล่านั้นก็กำลังเขียวขจีมองแล้วสบายตาสบายใจเป็นที่สุด
สำหรับในภาคเหนือซึ่งพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นภูเขาที่มีความลาดชันจึงยิ่งเพิ่มเสน่ห์ให้นาข้าวมากขึ้นไปอีกเพราะเป็น “นาขั้นบันได” ซึ่งเป็นภูมิปัญญาในการทำนาบริเวณภูเขา เพื่อเพิ่มพื้นที่ในการเพาะปลูก และยังเป็นการรักษาหน้าดินไม่ให้ถูกกัดเซาะหรือชะล้างไป วันนี้เราจะขอชวนไปไฮไลต์จุดเที่ยวชมนาขั้นบันไดในภาคเหนือ ซึ่งต้นข้าวกำลังเติบโตมองดูคล้ายพรมสีเขียวสดใสไปทั่วบริเวณ
เชียงใหม่
ในเชียงใหม่ จุดชมนาขั้นบันไดที่สวยงามสุดๆ ต้องยกให้ “อำเภอแม่แจ่ม” ซึ่งพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นเนินเขาลาดชัน ทั่วทั้งอำเภอจึงมีนาขั้นบันไดกระจายกันอยู่ให้ชมกัน แต่ละที่ก็ “ว้าว” ทั้งนั้นเลย อาทิ นาขั้นบันไดบนเขาไม่ว่าจะเป็นจุดชมวิว “บ้านทุ่งยาว” เป็นขั้นบันไดเตี้ยๆ ที่ความพิเศษตรงที่หากอากาศแจ่มใสจะมองเห็นทุ่งนาสีเขียวขจีกว้างไกลที่มีฉากหลังเป็นดอยอินทนนท์
จุดชมวิว “บ้านแม่หมิง” อีกหนึ่งจุดชมวิวสวยๆ ที่แยกออกมาจากถนนใหญ่ ตรงนี้มองเห็นทุ่งนากว้างไกลล้อมรอบไปด้วยขุนเขา จุดชมวิว “บ้านตีนผา” หมู่บ้านชาวเขาเผ่ากระเหรี่ยง มีบ้านเรือนกว่า 120 หลังคาเรือน จากจุดนี้มองเห็นทุ่งนาขั้นบันไดกว้างใหญ่จากมุมสูง มองเห็นคันนาเรียงขั้นถี่ด้วยความชันของพื้นที่ มองเห็นกระต๊อบกลางนาน่ารักเหมือนบ้านตุ๊กตา
จุดต่อมาคือบริเวณเขตติดต่อบ้านตีนผาและบ้านป่าบงเปียง จากจุดนี้มองเห็นเนินเขาซึ่งเต็มไปด้วยนาขั้นบันไดเขียวขจีเป็นขั้นๆ และไฮไลต์ของนาขั้นบันไดแม่แจ่มที่ จุดชมวิว “บ้านป่าบงเปียง” ที่มองเห็นทุ่งนาแผ่กว้างไกลออกไป มีกระท่อมหลังน้อยแทรกตัวอยู่ในนาข้าว เบื้องหน้าเป็นภูเขาสลับซับซ้อน และมีโฮมสเตย์หลายแห่งที่เปิดบริการให้มาพักมานอนชมบรรยากาศท่ามกลางทุ่งนาขั้นบันไดกันแบบเต็มๆ ตา
ส่วนนาขั้นบันไดใกล้ๆ ในตัวอำเภอ เช่น นาขั้นบันไดบ้านกองกาน บ้านแม่ศึก บ้านแม่นาจร บ้านแม่ปาน ก็มีทิวทัศน์ที่งดงามไม่แพ้กัน โดยในช่วงนี้นาขั้นบันไดที่แม่แจ่มกำลังเขียวขจี หลังจากที่เริ่มลงกล้าตั้งแต่ช่วงเดือนกรกฎาคม ก่อนที่จะเริ่มออกรวงช่วงเดือนตุลาคม พอถึงราวเดือนพฤศจิกายนนาขั้นบันไดก็จะเป็นสีเหลืองทองอร่ามจากรวงข้าวที่พร้อมเก็บเกี่ยว
ส่วนที่ “อำเภอจอมทอง” ก็เป็นอีกหนึ่งจุดชมนาขั้นบันไดที่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวไม่น้อย โดยจุดท่องเที่ยวนาขั้นบันได้ยอดฮิตก็คือที่ “บ้านแม่กลางหลวง” ที่เคยถูกถ่ายทอดความสวยงามสู่สายตาผู้ชมผ่านทางภาพยนตร์หลายเรื่องด้วยกัน โดยทุ่งนาขั้นบันไดบริเวณนี้เป็นผืนกว้างสวยงามเขียวขจี มีฉากหลังเป็นภูเขาสูงให้ได้ถ่ายรูปกันแบบสวยงาม โดยเฉพาะในยามที่มีแสงอาทิตย์สาดส่องยิ่งเขียวสดใส
ปกติแล้วนาขั้นบันไดแห่งบ้านแม่กลางหลวงรถสามารถเข้าถึงสบายๆ แต่หากใครอยากชมน้ำตก หรืออยากชมนาขั้นบันไดกลางป่าที่แสนมีเสน่ห์ ก็ขอแนะนำให้มาเดินท่องเที่ยวในเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติน้ำตกผาดอกเสี้ยว ที่มีระยะทางเดินราว 3 ก.ม. ซึ่งจะทำให้ได้บรรยากาศการท่องเที่ยวแบบครบรส ทั้งป่า นาขั้นบันได น้ำตกผาดอกเสี้ยวที่งดงามและเป็นจุดถ่ายรูปที่ไม่ควรพลาด
อีกหนึ่งจุดน่าเที่ยวของจอมทองคือนาขั้นบันได “บ้านผาหมอน”ซึ่งเป็นชุมชนชาวปกาเกอะญอที่ตั้งอยู่ท่ามกลางหุบเขา ชาวปกาเกอะญอดำรงชีวิตอยู่ใกล้ชิดธรรมชาติ รวมทั้งมีภูมิปัญญาการทำนาขั้นบันไดในพื้นที่ที่สูงชัน จนนาขั้นบันไดเหล่านั้นกลายเป็นความงามโดดเด่น ดึงดูดให้ผู้คนต่างเดินทางมาในหมู่บ้านเล็กๆ แห่งนี้ โดยชาวบ้านผาหมอนเองได้รวมตัวกันจัดการท่องเที่ยวโดยชุมชน เพื่อชุมชน จนเป็นที่รู้จักของชาวไทยและต่างชาติมานานนับสิบปี
การท่องเที่ยวที่บ้านผาหมอนนั้นเน้นเป็นการมาเรียนรู้วิถีชีวิตของชาวปกาเกอะญอที่ผูกพันกับธรรมชาติ เรียนรู้ผ่านทุ่งนาขั้นบันไดแสนสวยและธรรมชาติอันงดงามภายในหมู่บ้าน ผ่านการพูดคุยแลกเปลี่ยนกับคนในชุมชน โดยที่บ้านผาหมอนนี้มีที่พักวิวหลักล้านให้บริการซึ่งทางชุมชนร่วมกันดูแล และรับเฉพาะนักท่องเที่ยวที่ติดต่อจองมาล่วงหน้า ซึ่งบอกได้เลยว่าคิวจองยาวทีเดียว แต่ก็คุ้มค่าที่ได้มาใช้เวลาอันแสนสงบ นั่งมองความเขียวขจีของนาขั้นบันไดกว้างไกลที่ไล่ลดหลั่นกันก็ทำให้มีความสุขสงบมากแล้ว
*** แต่สำหรับในสถานการณ์โรคโควิด-19 กำลังระบาดนี้ ทางการท่องเที่ยวชุมชนบ้านผาหมอนได้ลงมติว่าจะยังคงไม่เปิดรับนักท่องเที่ยว จนกว่าจะมีวัคซีนออกมา จึงขอให้นักท่องเที่ยวอดใจรอไปเที่ยวบ้านผาหมอนในช่วงเวลาที่สะดวกกว่านี้
แม่ฮ่องสอน
สำหรับนาขั้นบันไดที่แม่ฮ่องสอน สามารถมาชมได้ที่ “อำเภอแม่ลาน้อย” อำเภอสงบงามท่ามกลางแวดล้อมแห่งขุนเขา ที่นี่ได้ชื่อว่าเป็น “เมืองร้อยนา” เพราะเป็นดินแดนที่มากไปด้วยท้องทุ่งนา ชาวนาที่นี่นิยมทำนาปลูกข้าวไปตามสภาพภูมิประเทศ ไม่ว่าจะเป็นทุ่งบนพื้นราบแบบทางภาคกลาง ทุ่งนาขั้นบันไดน้อยๆ บนเนินเตี้ยๆ และทุ่งนาขั้นบันไดตามไหล่เขาที่แม้จะมีความลาดชันสูง
สำหรับหนึ่งในจุดเที่ยวชมทุ่งนาขั้นบันไดอันสวยงามที่ถือเป็นไฮไลท์อันโดดเด่นของ อ.แม่ลาน้อย และ จ.แม่ฮ่องสอนก็คือในบริเวณพื้นที่ “ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงแม่ลาน้อย” แห่งบ้านดง ต.ห้วยห้อม ที่ถือเป็นหนึ่งในจุดเที่ยวชมทุ่งนาขั้นบันไดชั้นเลิศ สวยงามติดอันดับต้นๆ ของเมืองไทย
โครงการหลวงแม่ลาน้อยมีไฮไลท์สำคัญทางการท่องเที่ยวอยู่ที่ทุ่งนาขั้นบันไดอันสวยงาม ซึ่งเดิมนั้นชาวบ้านในพื้นที่ปลูกข้าวกันตามมีตามเกิด เมื่อฝนตกน้ำก็ไหลชะหน้าดินไป อีกทั้งน้ำยังไหลผ่านไปไม่เหลือน้ำไว้สำหรับทำนา ทางโครงการหลวงจึงเข้ามาส่งเสริมการทำนาแบบขั้นบันได เพื่อจะได้มีน้ำกักเก็บไว้ปลูกข้าว พร้อมทั้งมาส่งเสริมการการปลูกหญ้าแฝกเพื่อช่วยยึดผิวดินและป้องกันการพังทลายของหน้าดิน
ในช่วงฤดูฝนทุ่งนาขั้นบันไดที่นี่จะดูเขียวจีสดสวยสบายตา ขณะที่ในช่วงยามเช้าไปจนถึงช่วงสายๆ จะมีสายหมอกฝนลอยไต่ไล่เลี่ยปกคุลมยอดเขา เป็นฉากหลังประดับทุ่งนาดูสวยงามโรแมนติกชวนฝันเป็นยิ่งนัก
เชียงราย
เชียงรายอาจมีชื่อเสียงในเรื่องของไร่ชาเสียมากกว่า แต่ที่นี่ก็มีนาขั้นบันไดให้ชมเช่นกัน โดยอยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองเชียงราย คือที่ “นาขั้นบันไดนางแล” บ้านนางแลใน ต.นางแล อ.เมือง จ.เชียงราย ที่มีความเก๋ตรงที่นักท่องเที่ยวจะได้นั่งมอเตอร์ไซค์วิบากเข้ามาชมนาขั้นบันได โดยเส้นทางจากหมู่บ้านขึ้นไปชมทุ่งนานั้นเป็นถนนลูกรังเล็กๆ พอให้รถมอเตอร์ไซค์สวนกันได้ เส้นทางขึ้น-ลงเนินเขาไปเรื่อยๆ ประมาณ 15 นาที ระหว่างทางก็จะผ่านทั้งน้ำตก ลำธาร ผ่านทุ่งนาของชาวบ้าน ก่อนจะมาถึงด้านบนสุดซึ่งเป็นจุดชมวิว เราสามารถชมวิวทุ่งนาขั้นบันไดที่นี่ โดยจะเป็นนาขั้นบันไดที่ปลูกอยู่บนไหล่เขา สลับกับความเขียวชอุ่มของธรรมชาติโดยรอบ งดงามไม่น้อย
นักท่องเที่ยวที่สนใจเข้ามาชม สามารถตรงมาที่ชุมชนบ้านนางแลใน แล้วจอดรถทิ้งไว้ด้านล่าง ก่อนจะขึ้นรถมอเตอร์ไซค์วิบากที่ชาวบ้านมีไว้บริการได้
น่าน
จังหวัดน่านเป็นอีกจุดหนึ่งที่คนนิยมไปเที่ยวช่วงหน้าฝนเพราะอยากชมวิวทุ่งนางามๆ โดยในอำเภอปัว หรืออำเภอบ่อเกลือ มักเป็นจุดมุ่งหมายที่นักท่องเที่ยวอยากเดินทางไปเยือน แต่หากอยากชมนาขั้นบันไดสวยๆ ที่น่านก็ต้องมาที่ “อำเภอเฉลิมพระเกียรติ” ซึ่งมีพื้นที่เป็นภูเขาสูงสลับซับซ้อน แต่เดิมภูเขาเหล่านั้นล้วนเป็นเขาหัวโล้นที่ถูกแผ้วถางเผาทำลายต้นไม้เพื่อนำพื้นที่มาทำไร่ ปลูกข้าวโพดและพืชไร่ต่างๆ แต่เมื่อขาดต้นไม้ใหญ่คอยดูดซับน้ำ เมื่อฝนตกหนักจึงชะล้างความอุดมสมบูรณ์ของหน้าดิน รวมทั้งยังเกิดน้ำป่าไหลหลาก เป็นปัญหาต่อเนื่องกัน ดังนั้น “โครงการปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดำริ” ซึ่งเป็นหน่วยงานที่เข้ามาช่วยเหลือและกระตุ้นให้เกิดกิจกรรมพัฒนาตนเองตามแนวพระราชดำริทั่วประเทศ จึงเข้ามาช่วยแก้ปัญหาโดยวิธีหนึ่งก็คือการทำนาขั้นบันไดแทนข้าวไร่ ซึ่งการทำนาขั้นบันไดจะช่วยเก็บกักและชะลอน้ำไม่ให้ไหลลงอย่างรวดเร็ว ทั้งยังช่วยรักษาหน้าดินไว้ได้อีกด้วย
จึงเป็นที่มาของจุดชมวิวนาขั้นบันไดใน อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.น่าน ซึ่งมีให้ชมกัน 2 จุดใหญ่ๆ ก็คือบริเวณโครงการปิดทองหลังพระ และที่โครงการเกษตรที่สูงบ้านสะจุก สะเกี้ยง ซึ่งอยู่บริเวณใกล้ๆ กัน ทิวทัศน์ของนาขั้นบันไดที่นี่จึงเป็นนาขั้นบันไดที่ถูกโอบล้อมไปด้วยเขาสลับซับซ้อน งดงามไปอีกแบบหนึ่ง
.......................................
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Youtube :Travel MGR